เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในรายการพิเศษ เลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอน แลกเปลี่ยนประเด็นร้อน กับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งได้ชี้แจงนโยบบายแจกเงิน 30,000 บาท ว่า แนวนโยบายหลักของพรรคคือการช่วยเหลือกลุ่มพี่น้องที่เปราะบาง เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ประกอบอาชีพได้ลำบาก พรรคพลังประชารัฐจึงได้คิดถึงการพัฒนาอาชีพ พร้อมเงินลงทุนให้ทุกคนไปประกอบอาชีพได้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน โดยให้ทุกคนไปบริหารจัดการเอง

ในส่วนเรื่องของการขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ทางกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะเปิดให้ลงทะเบียนใหม่สำหรับผู้ที่ตกหล่นอีกครั้ง เพื่อให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของการให้เงินประชาชนเปล่า ๆ ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน อย่างเงินกองทุนหมู่บ้าน ตนก็ไม่เห็นด้วยเพราะทำให้ประชาชนเป็นหนี้ และไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้ แต่ตนมองถึงการสร้างอาชีพ การให้เงินสนับสนุนอาชีพ 30,000 บาท ให้กับทุกครอบครัวไม่ว่าจะอาชีพอะไร รวมถึงการตั้งกองทุนเพื่อให้ประชาชนเอาไปลงทุนกับ SMEs ธุรกิจสตาร์จ Startup ไม่ใช่แจกเงินอย่างเดียว ดังนั้นการให้เงินเป็นกลุ่มจึงตอบโจทย์ได้ได้ครอบคลุมมากกว่า

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า การชังชาติ เป็นแค่ วาทกรรม ตนเคารพในความคิดเห็นของทุก ๆ คน แต่ว่าเท่าที่ตนติดตาม การชุมนุมในช่วงหลังที่ผ่านมามันเป็นเรื่องของการเมือง ที่เป็นการโจมตีรัฐบาลหรือโจมตีประเทศ ซึ่งเราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งทุกประเทศก็มีปัญหา แล้วพอดูในประเด็นข้อเรียกร้องในการชุมนุมก็ไม่เกี่ยวกับความเดือดของประชาชนแต่เป็นเรื่องการเมืองล้วน ๆ โดยมีนักการเมืองบางคนไปสร้างประเด็นขึ้นมาเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว และทำให้เกิดการเกลียดชังรัฐบาลเพื่อที่ตนเองจะได้เข้ามามีอำนาจ

ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ แนวคิดทางการเมืองเราคิดต่างกันได้ แต่ไม่ควรคิดแบบสุดโต่งเกินไป มันจะทำให้ประเทศมีปัญหาเกิดความขัดแย้งทำให้ประเทศชาติไม่สงบ เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนทำมาหากินได้ ประเทศชาติจะได้มีความสุข ดังนั้นวันนี้ 'ลุงป้อม' จึงบอกให้พวกเราก้าวข้ามความขัดแย้ง