‘ไบรอัน’ สาวไส้!! ‘ทนายจูน’ เรียกร้องให้สหรัฐ แทรกแซงไทย ชี้!! หากปล่อยไว้ สถานการณ์ไทยจะไม่ต่างจาก ‘ยูเครน’
เมื่อวันที่ (7 เม.ย. 66) นาย Brian Berletic (ไบรอัน) นักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล กรณีทนายจูน หรือ ศิริกาญจน์ เจริญศิริ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เขียนบทความเกี่ยวกับการเรียกร้องประชาธิปไตยของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในไทย
ภายใต้บทความชื่อ Shut Out of Democracy Summit , Thailand Prepares for May Elections as Restrictive Laws Aim to Silence Youth Activists ซึ่งเผยแผ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 ผ่านเวปไซต์ Just Security
ซึ่งเป็นองค์กร NGO ในรูปแบบ Think Tank ที่นำเสนอบทวิเคราะห์ เพื่อนำไปล็อบบี้ประเด็นต่าง ๆ กับฝ่ายการเมืองในรัฐสภาประเทศสหรัฐอเมริกา
บทความดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับการกล่าวหาว่ารัฐบาลไทยกำลังปิดปากนักกิจกรรมทางการเมือง โดยใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ยังได้ระบุว่าการเลือกตั้งปี 2562 เป็นการเลือกตั้งที่ไม่เสรีและไม่ยุติธรรม เพราะรัฐบาลปิดปากสื่อมวลชนและกลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองหมดทุกช่องทาง
แต่การเลือกตั้งปี 2566 ที่กำลังจะเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้สูงว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะและได้จัดตั้งรัฐบาล แต่กองทัพอาจไม่ยอมและทำลายการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งการที่รัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตรวางท่าทีเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เกิดการละเมิดสิทธิของผู้คนนับล้าน จะเป็นการช่วยให้ “อิทธิพลของจีนแผ่ขยายมาในภูมิภาคนี้”
โดยทนายจูนได้เสนอว่ารัฐบาลสหรัฐจะต้องเข้ามา ‘กดดันรัฐบาลไทย’ ใน 4 ประเด็นดังนี้
1. ยกเลิกข้อห้ามในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักกิจกรรมในระหว่างการเลือกตั้ง
2. ยกเลิกการตั้งข้อหาและคดีความทั้งหมดต่อนักเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตย
3. ปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมด ซึ่งรวมถึงคนที่กระทำผิด ม.112 ด้วย
4. เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีที่โปร่งใส เป็นธรรม และได้มาตรฐานสากล
ขณะเดียวกันในท้ายบทความ ทนายจูนยังได้เรียกร้องให้ทางสหรัฐและชาติพันธมิตร เข้ามาช่วยเหลือ ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ ในประเทศไทย และปล่อยนักโทษคดี ม.112 เพื่อ ‘ฟื้นฟูประชาธิปไตย’ ในประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ไบรอันได้นำข้อมูลมาเปิดเผยให้เห็นว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นหนึ่งในองค์กรที่รับเงินทุนจาก National Endowment for Democracy (NWS) ซึ่งเป็นองค์กรที่เปรียบเสมือน CIA ภาคพลเรือน ที่ใช้เรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยมาบังหน้า แต่แท้ที่จริงคือการฝึกนักเคลื่อนไหวที่เข้าไปบ่อนทำลายและแทรกแซงการเมืองในประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ได้นักการเมืองที่นิยมสหรัฐฯ และชาติตะวันตก
นอกจากนี้ ความพยายามของทนายจูนที่โยงการเมืองไทย เข้ากับอิทธิพลของจีน ก็เป็นไปเพื่อโน้มน้าวให้สหรัฐฯ สนใจที่จะเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยมากขึ้น
และการที่ทนายจูนจงใจเรียกร้องให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยนั้น สุดท้ายจะทำให้ไทยตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากยูเครน ที่กลายเป็นรัฐตัวแทน (Proxy State) ที่เอาไว้ชนกับรัสเซีย หรือ จีน และอาจทำให้ประเทศไทยต้องตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ในอนาคต