‘อนุทิน’ เผยกินข้าวกับ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ใช่ความลับอะไร ขอไม่พูดถึงทิศทางจัดตั้ง รบ. ใหม่ ยัน!! ภท. ยึดกติกาสากล
‘อนุทิน’ ปัดดีลจัดตั้งรัฐบาล ร่วม พท.-พปชร. ให้รอผลเลือกตั้งชัด ‘ชี้’กินข้าวร่วม ‘บิ๊กป้อม’ ไม่แปลก ไม่ได้กินข้ามฟาก ยอมรับมีอัพเดตตัวเลขเลือกตั้งปกติ แต่ไม่มีความลับ ดักทางหลังเลือกตั้ง สว.ยังร่วมโหวตนายกฯในสภา แต่แค่พายเรือส่ง ชี้พรรคเล็กได้นั่งนายกฯลำบากแน่นอน ไร้เสถียรภาพ แย้ม เม.ย.จนถึงเลือกตั้ง ไม่อยู่กทม. จ้องหาวันลาราชการลงพื้นที่
(27 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดีลกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งมองกันว่าพรรคภท. จะอยู่ในสมการนั้นด้วย ว่า ยังไม่รับทราบเรื่องพวกนี้เลย อ่านจากข่าวเหมือนกัน ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง รอผลเลือกตั้ง เมื่อถามว่าการไปทานข้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. 2 รอบ มีการพูดคุยถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดมากไปหรือเปล่า ทำงานมาด้วยกัน 4 ปี กินข้าวกันมันแปลกตรงไหนใช่ไหม และตนก็ไม่ได้ข้ามฟากไปกินกับอีกฟากหนึ่งเสียเมื่อไหร่ ก็กินกันอยู่ในนี้มันเป็นเรื่องปกติมากกว่า หากจะพูดคุยความลับกันจริงๆ พูดคุยเรื่องที่มีการวิเคราะห์ออกมาตามสื่อที่ไปตั้งรัฐบาลให้ใครเป็นนายกฯถ้าจริงคงไม่คุยกันแค่ 8 คนมั่งใช่ไหม อันนั้นไม่มีความลับอะไรเป็นการไปกินข้าวกันธรรมดา
เมื่อถามว่านอกเหนือจากการคุยเรื่องทางการเมืองแล้วมีข่าวว่าไปคุยเรื่องคดีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หลังหยุดปฏิบัติหน้าที่รมว.คมนาคม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลย นายศักดิ์สยามมั่นใจในข้อกล่าวหาว่าเขาสามารถเตรียมเอกสารไปแก้ข้อกล่าวหาได้ การไปกินข้าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องของราชการ และไม่ใช่เรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใครที่โดนเขาก็มีหน้าที่ชี้แจงไป
เมื่อถามว่าพรรค ภท.เตรียมเปิดตัวส.ส.ทั่วประเทศเมื่อไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มรับสมัครส.ส.เขตวันที่ 3 เม.ย. และรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 4 เม.ย. เมื่อถามอีกว่าแสดงจะไม่เปิดรายชื่อก่อน แต่จะให้ไปรู้วันสมัครเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้เปิดเรียงตามลำดับอักษรว่ามีใครบ้าง รอเอกสารให้เรียบร้อยทุกอย่าง และจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคอย่างเร่งด่วน เมื่อถามว่าลงตัวหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ภท.ลงตัวทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามว่าในพื้นที่อีสานไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาโจมตีหลายๆเรื่อง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ตอนที่มีเรื่องนี้ออกมาเราก็เร่งทำโพลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ก็เห็นแล้วว่ามีโพลออกมาบอกว่าเราไม่ได้รับผลกระทบอะไร ตรงกันข้ามคะแนนนิยมในตัวบุคคลของ ภท.มีมากขึ้น
เมื่อถามว่า ถ้าอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้คะแนนน้อยกว่า ภท. จะหลีกทางให้พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กติกาสากลมีอยู่แล้วอย่าเพิ่งถามเลย ถามตรงนี้หากบอกคนนี้น้อยคนนี้มาก คนได้น้อยจะไม่พอใจหรือเสียกำลังใจ กติกาสากลมีอยู่แล้ว คะแนนมากจะต้องทำตัวอย่างไร คะแนนน้อยจะต้องทำตัวอย่างไร เรื่องการเมืองไม่พ้นกติกาสากลเหล่านี้หรอก อย่าไปกังวล รอผลการเลือกตั้งออกมาให้นิ่งและชัดเจนก่อนไม่ต้องไปรอรับรองอย่างเป็นทางการหรอกอย่างที่ตนเรียนเย็นวันที่ 14 พ.ค. 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม มันก็พอเห็นเค้าลางแล้ว แล้วเราค่อยดำเนินการอะไรจากนั้นไป ตอนนี้พูดอะไรไปสิ่งที่ตนกลัวที่สุดคือมันจะเหมือนกับว่าไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงนี้ตนกลัวมาก ฉะนั้นตนคงจะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องทิศทางใดๆ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแล้ว
“การไปเจอคนนั้นคนนี้ รับประทานอาหารกับคนนั้นคนนี้เป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นการปล่อยทิศทางการเมืองอะไรออกมา ไม่ใช่เลย แต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายของตัวเอง เป็นผู้บริหารพรรคการเมืองในความเป็นปัจเจกบุคคลไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครเลย สมมุติว่าเราจะไปทานข้าวอะไรกับใครเราก็ไปอัพเดตกัน ในวงการธุรกิจคู่แข่งเขายังมีนัดกินข้าวกันเพื่ออัพเดตสถานการณ์ อัพเดตตลาด อัพเดตปัญหาความต้องการหลายๆเรื่อง ฉะนั้นถ้าเราอยู่ในองค์กรแบบนี้เราก็ไปอัพเดตสถานการณ์กัน มันไม่ใช่ความลับอะไรมากมาย พรรคผมส่งกี่คนกี่เขต ใครมีแนวโน้มเป็นปาร์ตี้ลิสต์บ้าง เราไม่ได้บอกว่าคนนี้เบอร์หนึ่งสองสาม เป็นเรื่องที่เราพูดจาบนโต๊ะอาหารซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเรื่องอื่นๆก็พูดเยอะ มันไม่ใช่เป็นการรับประทานอาหารอย่างเป็นทางการและถ้าเกิดมันจะลับจริงๆทำไมจะลับไม่ได้ อันนี้แสดงว่าไม่ได้มีความลับอะไร รูปถึงออกมา และไม่ได้มีการโวยวายอะไร ปกติ การสื่อสารข้อมูลทางโทรศัพท์มันเร็วมาก เผลอๆไลฟ์สดด้วยซ้ำ เราอย่าไปซีเรียสอะไรมาก ทางการเมืองทุกอย่างโดยเฉพาะยิ่งใกล้เลือกตั้งทุกอย่างต้องรอผลเลือกตั้ง ผมยืนยันตรงนี้” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรแล้วจะมีกติกาแปลกใหม่ออกมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีหรอก และไม่มีใครรับกติกาแปลกๆหรอก กติกาสากลทราบกันอยู่ คนได้คะแนนสูงสุดก็ต้องได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อน อันนี้เราพูดถึงการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ถ้าจัดตั้งไม่สำเร็จก็รายถัดไป และสุดท้ายไปตกอยู่ที่ว่าใครจะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร์ ตรงนั้นแหละ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด อย่าไปกลัวรัฐบาลเสียงข้างน้อยเลย เกิดยาก และมันยังมีเวลาอีกตั้ง 45-60 วันหลังเลือกตั้งแล้ว ในการรับรองผลของการเลือกตั้ง มันยังมีโอกาสที่จะเจรจาจัดตั้งรัฐบาล หารือเปลี่ยนแปลงอะไรทุกอย่างได้หมด ดังนั้นสิ่งที่พรรคการเมืองอย่างภท.วันนี้ไม่ได้คิดที่จะไปจับกับใคร คิดว่าทำอย่างไรจะให้เข้ามาเยอะๆมากที่สุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ตอนนี้คิดอย่างนี้จริงๆ สำหรับตนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 13 -14 พ.ค. เวลาเดือนครึ่งตนไม่อยู่กรุงเทพฯเลยนะ ก็ยังหาวิธีอย่างไรจะลาราชการแบบยาวๆได้หรือไม่ สมมติว่าถ้ามีการประสานมาจากส่วนราชการหรือข้าราชการประจำปลัดกระทรวงเราก็สามารถทำงานสื่อสารผ่านมือถือหรือระบบออนไลน์ได้ เมื่อถามว่าพรรคภท.เสนอแคนนดิเดตนายกฯคนเดียวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ภท.เสนอคนเดียวมาตลอด
เมื่อถามได้หาก พรรคภท. ได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 2 หากอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ภท. มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอนุทิน กล่าวว่า มีแนวทางวิธีการตามกติกาอยู่แล้ว พรรคลำดับ 1 ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ถ้าไม่ได้ก็มาอันดับ 2 และถ้าอันดับ 2 จัดไม่ได้ก็อันดับ 3 แต่สุดท้ายจะมาจบที่เสียงข้างมากในสภาดีที่สุด นั่นคือความใฝ่ฝันที่สุดที่ทุกคนอยากเห็นให้มันเกิดขึ้น เพราะจะนำไปสู่ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล และการมีเสถียรภาพของการเป็นนายกฯ เมื่อถามว่าเกรงว่าจะมีสูตรที่นายกฯมาจากพรรคเสียงน้อย แต่ได้เป็นนายกฯ เพราะเลือกกันในสภา แต่พรรคของตัวเองไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า “โอ้โห !มันตายทั้งเป็นนะ ก็คงไม่มีใครกล้าหรอกที่จะทำอย่างนั้น อย่าลืมว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วใช่ไหม ที่เราใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในการกำหนดว่าสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมในการเลือกนายกฯ แต่ในที่สุดนายกฯก็ต้องอยู่ได้ เพราะส.ส. แต่ท่าน สว.ภายเรือมาส่งแต่จะอยู่คอยประคับประคองไม่ได้ มีปัญหามานั่งเรือสว.ไม่ได้ พายเรือมาแล้วต้องมาส่งทอดเข้าไปในเรือ ส.ส. สุดท้ายถ้า ส.ส.พวกไม่มากพอก็อยู่ไม่ได้ แล้วใครเขาอยากจะไปอยู่ในสภาพนั้นใช่ไหม ผมไม่กังวลตรงนั้นเลย ถ้ารวบรวมเสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของส.ส.จัดตั้งรัฐบาลยาก ลำบากแน่นอน นี่คือเหตุผลที่ผมถึงบอกว่ายังไม่ไปคิดถึงเรื่องนั้นหรอก คิดในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบก่อนคือพรรคภท. ต้องพยายามทำให้ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร์จากประชาชนให้ได้มากที่สุด มันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การบริหารจัดการสถานการณ์ทางการเมืองเป็นไปได้ในทางเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ต้องช่วยกัน”