St. Patrick's Day  เทศกาลแห่งความบันเทิงของอเมริกันชน บนวันที่แม่น้ำทั้งสายกลายเป็นสีเขียว

ถนนสายนั้นเป็นเพียงถนนสายธรรมดาอย่างที่เห็นกันดาษดื่นตามย่านเก่าแก่กลางเมืองเล็กๆ ในอเมริกา หากแต่วันที่ 17 มีนาคม เสียงปี่ไอริชจะกังวานแทรกสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ เพราะนี่คือวาระการฉลองที่เรียกว่า St. Patrick's Day   

St. Patrick's Day เป็นเทศกาลงานฉลองของชาวไอริช โดยฉลองกันในวันที่ 17 มีนาคมของทุกปี ทั้งชาวไอริชและไม่ใช่ไอริชจะแต่งกายด้วยชุดสีเขียว ซึ่งเป็นสีหนึ่งในสามสีหลักของธงชาติไอร์แลนด์ เทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานบันเทิงของอเมริกัน ทั้งๆ ที่เป็นเทศกาลแห่งการระลึกถึง St. Patrick นักบุญคนสำคัญแห่งไอร์แลนด์ 

St.Patrick เกิดในปี คศ 385 และเสียชีวิตวันที่ 17 มีนาคม ปี คศ 461 ดังนั้น ชาวไอริชจึงถือเอาวันนี้มาจัดเทศกาลเฉลิมฉลองเป็น St. Patrick's Day เพื่อแสดงความระลึกถึงนักบุญแพทริก 

ชาวไอริชมีความเชื่อเกี่ยวกับ St. Patrick ว่าสามารถชุบคนตายให้ฟื้นคืนชีวิตและขับไล่งูทุกประเภทให้ออกไปจากแผ่นดินไอร์แลนด์ ทั้งๆ ที่แผ่นดินนี้หางูทำยายากอยู่แล้ว ที่เหลืออยู่ล้วนเป็นเฒ่าหัวงูทั้งสิ้น แต่ความเชื่อคือความเชื่อ ทุกความเชื่อล้วนอาศัยศรัทธาเป็นที่ตั้ง และทุกคนมีสิทธิ์ที่เลือกจะเชื่อในวิถีที่ตนศรัทธา

เทศกาลนี้จัดขึ้นในช่วงที่เรียกว่า ช่วง Lent ของคริสต์เตียน คือเป็นช่วงระหว่าง Mardi Gras และ Easter เป็นช่วงที่ชาวคริสต์จะลด ละ เลิก นิสัยหรือความชอบบางอย่างของตนในช่วงนั้น เทียบให้เห็นง่ายๆ กับสังคมชาวพุทธอย่างเราๆ ก็คงเหมือน "เลิกเหล้าเข้าพรรษา" น่าจะประมาณนั้น

ชาวไอริชในอเมริกาจะไปโบสถ์ในช่วงเช้าและเฉลิมฉลองในตอนบ่าย ส่วนมากจับกลุ่มกันเมามากกว่าจะทำอย่างอื่น เพราะคนไอริชขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความเป็นปีศาจสุรา และความเป็นคนเลือดร้อนชอบทะเลาะวิวาท จะว่าไปเรื่องนี้ก็เหมือนเป็น Stereotype ขึ้นชื่อว่าคนแล้วไม่ว่าชาติไหนก็มีดีมีชั่วเหมือนกันทั้งนั้น เพียงแต่คนสก๊อตและไอริชนี่ขึ้นชื่อกว่าเพื่อน โทษฐานผลิตของเมากินเองได้ดีเยี่ยม แถมยังมอมเหล้าชาติอื่นไปทั่วโลก ด้วย Guinness ซึ่งเบียร์ยี่ห้อดังของไอร์แลนด์  

ช่วงงานฉลองตอนบ่าย ชาวไอริชจะกินดื่มและเต้นระบำ 'Irish Dance' แล้วกินอาหารประจำเทศกาลคือ Corned beef and cabbage นอกจากอาหารจานหลักในวัน St. Patrick's Day แล้ว ยังมีเจ้าแชมร็อค (Shamrock) นี่แหละที่เป็นพระเอกของงาน 

แชมร็อคเป็นใบไม้เล็กๆ สามแฉก ที่ชาวไอริชเลือกแชมร็อคมาใช้เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของ St.Patrick's Day เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ในช่วงศตวรรษที่สิบเจ็ด แชมร็อคกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชาติไอร์แลนด์ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไอริชมาจนถึงปัจจุบัน

องค์ประกอบของงานฉลองอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ แลปปริคอน (The Leprechaun) คนไอริชเรียกเจ้าตัวซุกซนแต่ขี้เมานี้ว่า 'Lobaircin' หรือ เรารู้จักกันในนาม  'แลปปริคอน'

แลปปริคอนมีที่มาจากนิทานพื้นบ้าน เล่ากันว่า เจ้าแลปปริคอนเป็นคนตัวเล็กๆ สีเขียว มีเวทมนตร์ ใส่หมวกทรงสูง ทำหน้าที่เฝ้าหม้อบรรจุทองคำ และที่สำคัญเป็นสุดยอดของขี้เมาทั้งปวง เชื่อกันว่าหากเราจับแลปปริคอนได้ จะบังคับให้เจ้าตัวเขียวพาเราไปเอาหม้อบรรจุทองคำ 

เมื่อถึงวันที่ 17 มีนาคมทุกปี ทุกเมืองในอเมริกาที่มีชุมชนชาวไอริชมาก่อร่างสร้างตัวอยู่จะจัดงาน St.Patrick's Day ขบวนแห่ St. Patrick's Day เริ่มต้นขึ้นในอเมริกานี่เอง เป็นการแตกยอดมาจากประเพณีในไอร์แลนด์ โดยเริ่มมีขบวนพาเหรดครั้งแรกในบอสตัน ปี 1737 

ครั้งนั้นถือเป็นการฉลองเทศกาล St. Patrick's Day ครั้งแรกในอเมริกา จากนั้นเป็นต้นมาจึงถือเป็นประเพณีที่ทำสืบเนื่องกันมาทุกปี ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีชุมชนไอริชอาศัยอยู่ เช่น บอสตัน นิวยอร์ก ชิคาโก และฟิลาเดลเฟีย โดยเฉพาะที่ชิคาโก ถือเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของการเฉลิมฉลองเลยทีเดียว เพราะมีการย้อมแม่น้ำชิคาโกทั้งสายให้กลายเป็นสีเขียว

ถนนอึงอลด้วยเสียงเทศกาลงานฉลอง ยิ่งดึกยิ่งอึงคะนึงไปทั่วย่าน  เสียงปี่ไอริชและขลุ่ยดังแว่วมาจากผับไอริชที่ไหนสักแห่ง ผู้คนขยับเท้าก้าวตามเสียงจังหวะดนตรี อย่างช้าๆ ในตอนแรก และเร่งจังหวะเร็วขึ้นๆ สายลมแรกแห่งใบไม้ผลิพัดมาปะทะผิวหน้า ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ากำลังลอยขึ้นสู่สวรรค์


เรื่อง: เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้