โจรชาวชิลีเหิม บุกปล้นเครื่องบินกลางวันแสก ๆ หวังโกยเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ฯ ที่มาจากไมอามี

อุกอาจ!! มือปืน 10 คนบุกปล้นบนเครื่องบินที่มาจากไมอามี จอดอยู่กลางสนามบินใหญ่สุดในชิลี หวังปล้นเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐบนเครื่องบิน ดวลปืนกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เจ้าหน้าที่พลีชีพ 1 คน โจรเสียชีวิต 1 คน

เกิดเหตุปล้นอุกอาจกลางสนามบินกลางวันแสก ๆ ในเมืองหลวงชิลี โจร 10 คนบุกปล้นบนเครื่องบินที่บินมาจากเมืองไมอามีของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) ขณะที่เครื่องบินจอดอยู่ที่สนามบินใหญ่สุดของชิลี ในกรุงซานติอาโก เมืองหลวงชิลี หวังปล้นเงินสด 32.5 ล้านดอลลาร์ที่อยู่บนเครื่องบิน 

เหตุเกิดที่สนามบินนานาชาติอาร์ทูโร เมริโน เบนิเทซ สนามบินใหญ่สุดของชิลี เครื่องบินดังกล่าวเป็นของสายการบินลาแทม บินมาจากเมืองไมอามีในสหรัฐฯ ขนเงินสดมา 32.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) โดยมีบริษัทรักษาความปลอดภัยชื่อ บริงคส์ (Brinks) จะมารับเงินสดนี้ เพื่อส่งต่อไปยังจุดหมายอื่นในชิลีต่อไป

อย่างไรก็ตาม โจรปล้นไม่สำเร็จ ถูกขัดขวางโดยเจ้าหน้าที่ มีการยิงปะทะกันระหว่างโจรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนชิลี (DGAC) มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 และระบุว่าเป็นโจร 1 คน โจรที่เหลือหนีเนื่องจากถูกยิงต่อต้านอย่างหนัก จึงทำการเผารถยนต์ 2 คันที่ใช้เป็นพาหนะบนทางหลวง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่า

นายมานูเอล มอนซาลวี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยชิลี แถลงว่า โจร 10 คน บุกเข้าไปที่สนามบินดังกล่าวในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยรถ 3 คัน และจับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินมัดไว้ เป็นการปล้นที่วางแผนมาอย่างดี และโจรมีอาวุธครบมือ แต่การปล้นไม่สำเร็จ เพราะถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงขัดขวาง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเจ้าหน้าที่ โดยส่วนที่ยิงต่อสู้กันเป็นโซนขนถ่ายสินค้า อยู่ห่างจากส่วนผู้โดยสารปกติจึงไม่มีความเสี่ยง เครื่องบินสายการบินเดลต้า ที่จอดใกล้กันได้รับความเสียหาย

การก่ออาชญากรรมโดยกลุ่มอาชญากรรมที่มีการวางแผนมาอย่างดี เพิ่มขึ้นในชิลีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเหตุบุกปล้นรถไฟและบุกปล้นท่าเรือหลักของชิลี เพื่อปล้นเงินหลายล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ สนามบินในซานติอาโก เคยตกเป็นเป้าหมายถูกปล้นก่อนหน้าในปี 2020 หัวขโมยขโมยเงิน 15 ล้านดอลลาร์จากอาคารคลังสินค้าสำเร็จ /และปี 2017 กลุ่มติดอาวุธปล้นเงิน 18 ล้านดอลลาร์สำเร็จ

ที่มา : TNN