นักลงทุนต่างชาติ แห่ตั้งฐานการผลิตใน ‘ไทย’ ด้าน J.P.Morgan ชี้!! ‘ไทย’ น่าลงทุนที่สุดในอาเซียน

ดูเหมือนว่าภูมิภาคเอเชียจะเป็นที่จับจ้องสนใจของนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก นักลงทุนหลายๆ เจ้าอยากจะย้ายฐานการผลิตมาตั้งในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆ ที่ดึงดูดนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงที่ถูกว่ายุโรป-สหรัฐฯ จำนวนแรงงานที่มีมากกว่า และที่สำคัญ ไม่มีเรื่องสงครามการค้าในปวดหัวด้วย

และประเทศที่เนื้อหอมเป็นที่ถูกตาต้องใจนักลงทุน ก็คือ ‘ประเทศไทย’ บ้านเรานั่นเอง โดยล่าสุดทาง J.P.Morgan ธนาคารระดับโลก ได้ออกมาบอกว่า ‘ประเทศไทย’ เป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในอาเซียนด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ช่องยูทูบ ‘Kim Property Live’ โดยคุณคิม ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ ได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจ ว่า…

การวิจัยของทาง McKinsey ได้ออกมาบอกว่า Asia’s Future is now หรือว่า ‘อนาคตของเอเชียอยู่ตรงนี้แล้ว’ โดยประเมินว่าในปี 2040 เอเชียจะกินสัดส่วน GDP ของโลกอยู่ที่ราว ๆ 50% เลยทีเดียว และจะเป็นคนขับเคลื่อนการบริโภคของโลกมากถึง 40% ทั้งนี้เอเชียจะเป็นศูนย์กลางของโลกแห่งใหม่ในอนาคต และถ้าหากมองไปถึงด้านองค์กร/บริษัทของเอเชียจะพบว่าสร้างรายได้กว่า 19 ล้านล้านเหรียญฯ ให้กับเศรษฐกิจของโลกในทุก ๆ ปี

บริษัทเล็กใหญ่ของเอเชีย เช่น Alibaba หรือ Toyota ก็มีพวกเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ต่างจากประเทศโซนยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา และในเอเชียก็มีการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงออกมาใช้แล้วด้วย

ระดับการพัฒนาเทคโนโลยีของเอเชียก็เป็นหนึ่งในระดับที่สูง อย่างเช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งรวมกันถึง 30% ในการส่งออกอุตสาหกรรมความรู้ และเทคโนโลยีเร่งรัดทั่วโลก หรือเรียกว่า KTI (เช่น ยานยนต์ คอมพิวเตอร์)

ส่วนอุตสาหกรรม EV จะยังคงเติบโตอย่างมหาศาล แบรนด์ในฝั่งเอเชียค่อนข้างแกร่งเลยทีเดียว อย่างเช่น BYD ที่สร้างยอดขายอันดับหนึ่งของโลก รวมถึงแบรนด์จากจีนอีกหลายแบรนด์เลย ส่วนอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ จีนก็เป็นผู้นําด้วยเช่นกัน โดยอันดับหนึ่ง คือ CATL. อันดับสองเป็น BYD อันดับสาม LG ของเกาหลีใต้

อีกทั้งอุตสาหกรรมไมโครชิพ ทางจีนก็สร้างได้ค่อนข้างเยอะ รวมถึงทาง TSMC ทางไต้หวัน และก็ยังมีทางญี่ปุ่น หมายความว่าทางเอเชียบ้านเรา เริ่มครอบครองอุตสาหกรรมที่เป็นดิฟเทค แล้วก็เชิงลึกความรู้ข้อมูลในอนาคตอยู่เยอะพอสมควรเลย

สำหรับอุตสาหกรรมชิป จีนขึ้นแซงอเมริกาไปแล้ว วัดกันในฝั่งของปริมาณ แต่ในฝั่งของเทคโนโลยีชิปที่ใช้ประมวลผลขั้นสูง ทางอเมริกาก็ยังคงดูดี แต่ถ้าโดยรวมจีนก็จะแซงหน้าเพราะผลิตได้เยอะกว่า และถ้าหากมองภาพรวมของอุตสาหกรรมชิปในเอเชีย ทาง TSMC ของไต้หวันรวมกับซัมซุง กินส่วนแบ่งการตลาดอีกประมาณ 69% ของโลกใบ

ก็เห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมของทางเอเชียบ้านเรากินขาดแค่ไหน ต้องเรียกว่าอนาคตอุตสาหกรรมในเอเชียค่อนข้างสดใสเลย เพราะการผลิตหลาย ๆ อย่างก็ย้ายมาอยู่ในแถบนี้ซะส่วนใหญ่ เนื่องจากหนีปัญหาสงครามการค้า รวมถึงค่าบริการ ค่าแรง ต้นทุนในการทําอุตสาหกรรมก็ยังถือว่าแข่งขันได้ นอกจากนี้ประชากรของประเทศโซนเอเชียก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

ทราบภาพรวมของทั้งเอเชียไปแล้ว คราวนี้หันมาเจาะลึก ‘ประเทศไทย’ กันบ้านดีกว่า โดยไทยติดอันดับ 12 ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ซึ่งจัดอันดับโดย Yahoo Finance โดยจัดให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 10 อีกทั้งยังระบุว่าไทยเป็นประเทศที่มีการผลักดันเรื่องการบริการมากถึง 58.3% ของ GDP ทั้งหมดในปี 2020 และในปี 2021 ภาคอุตสหกรรมไทยเติบโตขึ้นถึง 7.3% เลย รายได้รวมโดยประมาณอยู่ที่ 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

โดยในปีที่ผ่านมา มีการลงทุนกับไทยค่อนข้างเยอะเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการมาเปิดโรงงานใหม่ รวมถึงหนีสงครามการค้า

อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ได้แก่พวกอิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวกับรถ EV ซึ่งต้องบอกว่าในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติที่เชื่อใจไทย อย่างเช่น BYD Auto Foxconn และล่าสุดคือ Sony ที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตมากถึง 90%

ส่วนของด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ก็มีจํานวนนักท่องเที่ยวมาเยือนค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าสูงทะลุเป้า จากเดิมทีคาดการณ์ว่าประมาณ 10 ล้านคน แต่ปีที่แล้ว (2022) ทะลุไปถึง 11.15 ล้านคนเลยทีเดียว ส่วนในปีนี้ นักท่องเที่ยวก็เล็งเป้ามาที่ประเทศไทย คาดว่าการท่องเที่ยวไทยจะคึกคักยิ่งกว่าเดิม

ด้วยหลาย ๆ เหตุผลที่กล่าวมา ทำให้ J.P.Morgan ธนาคารระดับโลกออกมาบอกว่า ในตอนนี้ ตลาดหุ้นของไทยน่าลงทุนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียใต้ ดูได้มากเม็ดเงินที่ไหลเข้ามามากมาย ประกอบกับภาพรวมในฝั่งของตะวันตกที่ก็ค่อนข้างอ่อนแอ ทำให้ไทยกลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากที่สุด

ก็ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ จากมุมมองของคนนอกที่มองเข้ามา และถือเป็นโอกาสของไทยในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมให้เติบโตต่อไป


ที่มา: https://youtu.be/9zf35yXpmI0