ส่องความคิดเห็น ‘ชาวเวียดนาม’ หลังนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกเข้าไทย

หลังจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็พลันกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านชาวเวียดนามที่มีทั้งชื่นชม เหน็บแนม และตัดพ้อประเทศตนที่ไม่สามารถดึงคนจีนเข้าประเทศได้เช่นเดียวกันไทย 

โดยในสาระสำคัญที่ชาวเวียดนามได้พูดคุยกันในโลกโซเชียลนั้น เป็นการขยายความจากประเด็น ‘ป้ายแบนเนอร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ ที่ได้มีการเขียนข้อความต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ ซึ่งชาวเวียดนามดูเหมือนจะอึ้ง และให้ความสนใจกับป้ายนี้เป็นอย่างมาก

กระทู้จุดติดในโลกโซเชียลของชาวเวียดนามเริ่มขึ้นจากการลงรูปนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรก ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย พร้อมกับแคปชันข้อความเชิงคำถามที่ว่า “นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย 269 คนแรก ลองดูว่าคนไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างไร?” คำตอบที่ได้คือ บนแบนเนอร์ต้อนรับของไทยมีการแสดงความใกล้ชิดอย่างถึงที่สุด ด้วยคำพูดที่ว่า “จีน-ไทย คือ พี่น้องครอบครัวเดียวกัน ยินดีต้อนรับคนจีนกลับบ้าน” ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองไปในภาพเดียวกันว่า นี่เป็น ‘กลยุทธ์ขั้นเซียน’ ของไทยในการโกยหัวใจนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างมาก

โดยหลังจากโพสต์นี้ถูกนำเสนอออกไป ก็ได้มีชาวเวียดนามได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นไว้ต่าง ๆ นานา ดังนี้...

>> ในมุมบวกต่อการต้อนรับครั้งนี้ของไทย...
1. “นี่คือตลาด 1,400 ล้านคน” 
2. “ประเทศไทย ไม่ได้มีดีแค่ในทีวี” 

3. “คนจีนคิดถึงประเทศไทย เวลาพวกเขาต้องการไปท่องเที่ยว พวกเขาก็จะนึกถึงเมืองไทย ในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของเวียดนามยังแย่มาก คนจีนที่มาเที่ยวเวียดนาม มีคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนน้อย การส่งเสริมการท่องเที่ยวของเราไม่ค่อยได้ผล”

4. “เนื่องจากเมืองไทยมีสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ ราคาก็ถูก คนจีนก็เลยชอบมาก”  
5. “ประเทศไทยมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศจีน ทุก ๆ ปี จะมีการโปรโมตการท่องเที่ยวไทยที่ประเทศจีน” 

6. “ต้องขอบอกว่านักท่องเที่ยวจีนนั้น มีการใช้จ่ายสูงกว่าพวก Backpacker ที่มักจะนอนโรงแรมราคาถูก หนุ่มสาวชาวจีนที่เดินทางมาก็ดูดีมาก” 
7. “คนจีนใช้จ่ายอันดับ 1 อยู่ตลอดเวลา คนตะวันตกนั้นขี้โม้!”

8. “10 อันดับแรกที่ชาวจีนต้องการไปท่องเที่ยว ไม่มีเวียดนามอยู่ในลิสต์ และประเทศไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าเวียดนาม และมีสิ่งที่น่าดึงดูดมากกว่า คงไม่มีใครอยากไปเที่ยวในประเทศที่เกลียดพวกเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีจีน เวียดนามคงแย่ เรายังคงพยายามในเรื่องนี้ แต่ว่าสมองของคน 100 ล้านคน ยังคงคิดเรื่องนี้ไม่ออก”

9. “หลายคนเดินทางไปประเทศไทยแล้ว มาชมให้ฉันฟังบ่อยมาก” 
10. “หวังว่าเวียดนามจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบนี้บ้างในปี 2023”
11. “การท่องเที่ยวของเวียดนาม เดินเตาะแตะตามไทยเป็นร้อยปี” 

12. “ชาวจีนเป็นลูกค้าหลักในประเทศไทย” 
13. “คนไทยมีจิตวิทยาสูงมาก พวกเขามักให้ความสำคัญ และให้คุณค่ากับคนอื่นอยู่เสมอ” 
14. “เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งกำลังเดินทางมา”
15. “เที่ยวในฮานอยไม่คุ้ม แถมยังมีมลพิษ ไปกรุงเทพฯ นั้น คุ้มค่ามากกว่า แถมบริการก็ยังดีกว่าด้วย”  

16. “ประเทศไทยนั้นเดินทางสะดวก ขนาดคนเวียดนามยังไปเที่ยวประเทศไทยเลย ไม่ใช่เพียงแค่คนจีนเท่านั้น ที่นั่นมีบริการที่ดีมาก ทุก ๆ รูปแบบ และทุกอย่างมีคุณภาพดีกว่าเวียดนาม”
17. “ประเทศไทยดูเหมือนว่าจะทำเรื่องการท่องเที่ยวได้ดีกว่าเรา นักท่องเที่ยวมาเวียดนามแล้วโดนขโมยกระเป๋า พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย”

>> ขณะที่ชาวเวียดนามบางคนก็มีการตัดพ้อต่อโอกาสที่ยังไม่มาเยือนชาติตนเช่นนี้ด้วยว่า...
1. “เพราะเวียดนามกลัวนักท่องเที่ยวจีน” 
2. “ถ้าการท่องเที่ยวเวียดนามทำแบบนี้ รับรองว่าจะต้องโดนด่าว่าขายชาติ” 
3. “เกรียนคีย์บอร์ดเวียดนาม มักบอกว่า เวียดนามจะเป็นอาณานิคมจีน แล้วพวกเขาจะทำให้เกิดโรคระบาด” 

4. “เวียดนาม ไม่เคยอยู่ในสายตาของจีน” 
5. “ปีหน้ารัฐมนตรีการท่องเที่ยว คงจะโดนปลดอีก ถ้านักท่องเที่ยวจีนไม่มาท่องเที่ยวเวียดนาม ก็คงจะมีผู้คนที่วิจารณ์ประเทศไทย ตอนนี้เวียดนามแพ้อย่างหนัก ประเทศนี้อาศัยอยู่ในภาพลวงตา” 
6. “ลึกๆ แล้ว ดูเหมือนคนเวียดนาม จะชื่นชอบนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก เพราะคิดว่าพวกเขานั้นมีรายได้สูง แต่ในความเป็นจริง เวียดนามเต็มด้วยนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่ยากจน และพวก Backpacker มีเพียงนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ที่จ่ายเงิน ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะเสียงดังไปหน่อย นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูหยาบคาย แต่ว่าพวกเขาก็มีการใช้จ่ายเงิน”

7. “นี่เป็นดาบสองคม ประเทศไทยต้องเสี่ยงในเรื่องนี้” 
8. “แค่ฉีดวัคซีนโควิด ก็ท่องเที่ยวประเทศไทยได้แล้ว”
9. “พวกเขาต้องเอาใจจีนขนาดนั้นเลยหรือ? อ่อยเก่งจริงๆ” 
10. “เรื่องธุรกิจมันก็ต้องทำกันแบบนี้แหละ” 

11. “สิ่งนี้ มันจะทำให้เกิดการระบาดใหญ่อีกครั้ง” 
12. “ถ้าเวียดนามทำแบบนี้ คงโดนด่า และถ้าเป็นคนไทยทำ ก็คงจะได้รับความชื่นชม” 

ขณะเดียวกันก็ยังมีคอมเมนต์เชิงเหน็บแนมที่รุนแรงด้วยว่า “แน่ใจนะ ว่าสิ่งนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีหรือว่าการพนัน?” ซึ่งจากคอมเมนต์นี้ ก็ได้มีชาวเวียดนามหลายท่านได้เข้ามาตอบกลับว่า... 

1. “ช่วยลดอคติหน่อยได้ ถ้าพวกเขาเดินทางไปกับคู่รัก หรือว่าเดินทางไปกับครอบครัวล่ะ? พวกเขาจะไปเที่ยวแบบอย่างว่าหรือเปล่า? ถ้าสู้พวกเขาไม่ได้ ก็ยอมรับมาตรงๆ ดีกว่า”
2. “เป็นเรื่องที่น่าขยะแขยง ที่คุณคิดว่า คนไปประเทศไทยเพราะเรื่องแบบนั้น ประเทศไทยมีการบริการและราคาที่ถูกกว่า ถึงแม้ว่าทิวทัศน์จะไม่สวยเท่าเวียดนามก็ตาม” 

3. “การท่องเที่ยวเวียดนามแพ้ ก็ต้องยอมรับกันแบบตรงๆ ไม่ต้องแก้ตัวอะไร แค่เริ่มที่สนามบินก็รู้แล้ว ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเสมอ” 

4. “ประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นถูก อาหารการกินสะอาด และสามารถเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งสะดวกมาก คราวที่แล้วฉันไปที่นั่นเกือบ 1 เดือน เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินทั้งวัน เดินทางไป เดินทางมา กินที่ห้างโน้น ห้างนี้ ทั้งสะดวกแล้วก็ถูก และอาจจะถูกกว่าที่เวียดนามด้วย ฉันเคยอาศัยอยู่ทั้งฮานอยและไซ่ง่อน แต่ความรู้สึกในประเทศไทย มันแตกต่างออกไป ฉันไม่แปลกใจว่า ทำไมถึงมีผู้คนจำนวนมาก เดินทางไปที่ประเทศไทย”

5. “ไปประเทศไทยนั้น มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปเที่ยวในประเทศเวียดนาม แล้วทำไมถึงจะไม่ไปล่ะ? 

เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นนานาทัศนะความคิดเห็นของเพื่อนบ้านชาวเวียดนามที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล ซึ่งมุมไหนที่เป็นการติ ก็อยากให้มองเป็นการก่อให้เกิดการปรับปรุง เพราะหลังจากที่ประเทศไทยได้เริ่มให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกแล้ว เราก็มีโอกาสจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกจำนวนมหาศาล 

ยิ่งไปกว่านั้น หากกล่าวกันโดยสรุปแล้ว ประเทศไทยในยามนี้มีเสน่ห์ที่ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ใช่แค่ชาวจีน จากคุณภาพของประเทศ อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว การบริการ ราคา มิตรภาพ และอื่น ๆ ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน จนมีการแชร์ออกสู่สายตาชาวโลกไม่ขาดสาย

ฉะนั้นเสียงของเพื่อนบ้านครั้งนี้ ถ้ามองดูแล้ว จึงเหมือนเป็นเรื่องดีที่ช่วยตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ประเทศสุดน่าเที่ยวแห่งอาเซียน และช่วยตักเตือนให้เราต้องปรับแก้ในส่วนที่เป็นจุดอ่อนได้มากพอสมควร...

Amazing Thailand


ที่มา: https://youtu.be/MdMcsx345ow