‘โอม ภวัต’ ทวีตขอโทษ สำนึกในความผิด หลังถูกแฉเคย ‘แกล้ง - รังแก’ เพื่อนออทิสติก
(9 ม.ค. 66) หลังจากกระแสของซีรีส์จากเกาหลีใต้ เรื่อง The Glory ที่เข้าฉายใน Netflix ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล เนื่องด้วยเนื้อหาของเรื่องเป็นการกลับมาแก้แค้นคนที่เคยมีพฤติกรรมบูลลี่ผู้อื่น ในขณะเดียวกันชาวเน็ตไทยบางคนได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมในอดีตของดารา-นักแสดงที่มีชื่อเสียงในตอนนี้จนกลายเป็นประเด็นร้อนข้ามวันข้ามคืน โดยหนึ่งในคนที่ถูกเปิดโปงพฤติกรรมในอดีตก็คือนักแสดงหนุ่มอย่าง ‘โอม ภวัต จิตต์สว่างดี’ นั่นเอง
โดยก่อนหน้านี้ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาทวีตข้อความว่า "เมื่อไหร่เพื่อนเก่าหนูจะโดนแหกเรื่องบูลลี่บ้างอะ รอมานานมาก ชายตึกเจมที่ชอบแกล้งเพื่อนตั้งแต่ประถมยัน ม.ปลายก็ยังคิดไม่ได้ แถมชอบเลือกเหยื่อเป็นคนที่มีอาการออทิสติกอีก เพราะเขาสู้มันไม่ได้ ไม่สนหรอกว่าตอนนี้เปลี่ยนไปยัง แต่นี่รู้จักมันมาแต่เด็ก สันดานแย่ยังไงก็แย่ยังงั้น จบ เอางี้ ใบ้ว่าเรียน ม.ปลายชายล้วน มหาลัยตึกข้าง ๆ เพิ่งแมสช่วงโควิด แกขอโทษคนนั้นคนนี้ต่อหน้าฟค.แล้วก็อย่าลืมกลับไปขอโทษคนที่แกเคยแกล้งเขาสารพัดด้วยนะ ใบ้มากกว่านี้พี่ ๆ ชาวเน็ตต้องช่วยหนูหารค่าทนายละ ซีนที่สาดน้ำใส่เพื่อนกลางโรงอาหารตอน ม.ต้น ยังจำติดตาอยู่ทุกวันนี้ แต่แฟนคลับน่าจะบอกว่าน้องเป็นเด็กดี เห็นเพื่อนขาดน้ำเลยสาดน้ำเขียวให้งับ"
ล่าสุด โอม ภวัต ก็ได้ออกมาทวีตข้อความถึงประเด็นดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า "สำหรับเรื่องราวที่เป็นประเด็นอยู่ ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ออกมาอธิบายช้า เพราะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย ผมขออนุญาตชี้แจงนะครับ
ผมยอมรับครับว่าตอนเด็ก ๆ ผมซนและแสบมากพอสมควร ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็เป็นการเล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชายโดยไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ตอนมัธยมต้นที่ผมและเพื่อน ๆ แกล้งเพื่อน ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นผมและเพื่อน ๆ ถูกอาจารย์ตักเตือน ลงโทษด้วยไม้เรียว และเรียกผู้ปกครองเข้าพบ
ผมและคุณพ่อคุณแม่ ได้ขอโทษเพื่อนและคุณพ่อคุณแม่เพื่อนสำหรับความผิดของผมในครั้งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผมและทำให้พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด
ผมรู้สึกเสียใจ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตช่วงที่ผมเป็นเด็กยังทำให้เพื่อนคนนั้นต้องมีแผลในใจมาจนถึงวันนี้ ผมขอโทษจริง ๆ จากใจนะครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นผมรู้สึกผิดตลอดชีวิต และไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย ผมขอโทษทุก ๆ คนที่ได้รับผลกระทบจากความคึกคะนองในวัยเด็กของผมด้วยนะครับ"
ถึงแม้โอม ภวัต จะออกมาขอโทษผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนไม่พอใจกับคำขอโทษ เพราะมองว่าการใช้คำว่า ‘ซนและแสบ’ และ ‘เล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชาย’ เป็นการลดทอนความผิดของตัวเองให้น้อยลง โดนผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เช่น
- แกล้งคือแกล้ง รังแกคือรังแก อย่าลดทอนความรุนแรงของมันด้วยคำว่าแสบและซน #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ
- ตอนเด็ก ๆ ผมซนและแสบมาก หลาย ๆ ครั้งเลยเกิดการเล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชายเช่น รังแกเด็กออทิสติก เตะตัดขาผู้หญิง สาดน้ำเขียวใส่เพื่อน ที่เอ่ยมาเรียกเด็กซนได้จริง ๆ หรอคะ บางส่วนเป็นพฤติกรรมตอนมอต้นด้วย 14 15ไม่น่าซนแล้วน้า #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ
- งี้แหละ ตามสไตล์ beauty privilege ของสังคมและวงการบันเทิงไทย ขอโทษให้จบ ๆ เดี๋ยวคนก็ลืม ส่วนเหยื่อจากการโดนบุลลี่หลายคนก็กลายเป็นปมไปตลอดชีวิต (รวมถึงกูในวันนี้ ยังคงฝันร้ายถึงอิพวกเหี้ยที่รุมแกล้งกูสมัยมัธยมอยู่เลย) #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ
- สังคมไทยให้ที่ยืนบิวตี้พริวิลเลจได้ชาติชั่วสัด ๆ 5555 เสียใจแต่ลอยหน้าลอยตาโปรโมทผลงานตัวเองมาตั้งหลายวันกว่าจะออกมา take action ต้องหน้าด้านขนาดไหนถึงใช้คำว่าแสบ ซน คึกคะนองเอามาลดทอนการกระทำอย่าง disability bullying อ่ะ