1 มกราคม พ.ศ. 2552 ครบรอบ 13 ปี ‘ไฟไหม้ซานติก้าผับ’ โศกนาฏกรรมรับปีใหม่ที่ยากจะลืม
เช้าวันแรกของปีที่ควรจะมีแต่ความสดชื่นและเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ทว่าในวันนี้เมื่อราว 13 ปีก่อน ได้เกิดโศกนาฏกรรมกลางดึกในคืนวันเคาท์ดาวน์ ต่อเนื่องถึงเช้าวันแรกของปี พ.ศ. 2552
เกิดเหตุเพลิงไหม้ ‘ซานติก้าผับ’ ย่านเอกมัย เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 66 คน ต้นเหตุของโศกนาฎกรรมครั้งนั้น เกิดขึ้นภายหลังการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ได้ไม่กี่นาที เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามไปทั่วอย่างรวดเร็ว ชั่วเวลาไม่นาน ภายในร้านกลายเป็นทะเลเพลิง ผู้คนนับร้อยต่างพากันวิ่งหนีเปลวไฟที่โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว โชคร้ายที่ทางออกของร้านนั้นคับแคบ และมีประตูทางออกไม่กี่ทาง ส่งผลให้มีผู้คนเบียดเสียดเหยียบล้มทับกัน ในที่สุดก็สำลักควัน และเสียชีวิตอยู่ภายในร้านนับได้ในขณะนั้น 66 ชีวิต
สำหรับซานติก้าผับได้เปิดทำการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 เป็นอาคารเดี่ยวในพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตรปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยกระดับ 3 ชั้น เป็น ชั้น1 ชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ซานติก้าผับ มีประตูทางออก 4 ประตู โดยแบ่งเป็น ประตูทางออกสำหรับบุคคลสำคัญ และ ประตูทางออกสำหรับออกไปสูบบุหรี่ ประตูทางออกหลัก 2 ประตู
ซานติก้าผับได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยในขณะนั้น ซึ่งมีกำหนดหมดสัญญาเช่าในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ทางผับจึงได้จัดงานอำลาวันสุดท้ายของผับขึ้นโดยเชิญ โจอี้ บอย และนักร้อง ดีเจ มาร่วมคืนฉลองส่งท้ายวันทำการวันสุดท้ายของซานติก้าผับ ใช้ชื่องานว่า 'goodbye santika 2009'
เหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้าผับในครั้งนั้น ถือเป็นโศกนาฎกรรมรับปีใหม่ที่สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับผู้คนไปทั่ว ภายหลังเหตุการณ์ยังมีผู้ที่รอดชีวิตแต่ถูกไฟคลอกจนกลายเป็นผู้พิการอีกหลายราย แน่นอนว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความระมัดระวัง และไม่ได้เตรียมการเรื่องความปลอดภัย