'พิธา' ยัน!! ไทยต้องเร่งกระจายอำนาจแบบบิ๊กแบง ก่อนสภาวะกบต้ม พาไทยพินาศแบบไม่รู้ตัว

'พิธา' ชู กระจายอำนาจแบบบิ๊กแบง ปลดปล่อยศักยภาพทั่วประเทศ ชี้ กฎระเบียบรัฐรวมศูนย์ทำไทยชวดเงินช่วยเหลือกองทุนโลกร้อน 

(30 พ.ย. 65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 'ปลดล็อกท้องถิ่น' ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และประชาชน 76,591 รายชื่อ เป็นผู้เสนอ โดยพิธากล่าวว่า จากวิกฤติโควิด วิกฤติค่าครองชีพ วิกฤติราคาพลังงานที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าศักยภาพของโครงสร้างรัฐรวมศูนย์แบบปัจจุบันไม่สามารถพาประเทศไปข้างหน้าได้ ประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างบิ๊กแบง (Big Bang) รัฐราชการรวมศูนย์แบบที่เรามีอยู่ในขณะนี้ พาประเทศต่อไปข้างหน้าไม่ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

พิธา กล่าวว่า เกือบทุกคนคงเห็นตรงกัน ว่าประเทศต้องกระจายอำนาจ บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระจายแบบ Big Bang โดยมองว่าปฏิบัติได้ยาก แต่ถ้าเราไม่ปฏิรูปในเรื่องที่ยาก ผ่าตัดประเทศเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง ประเทศของเราก็จะเป็นกบต้มไปเรื่อยๆ จนพังพินาศไปอย่างไม่ทันรู้ตัว บางท่านอาจมองว่าร่างนี้สุดโต่ง แต่คำว่า 'สุดโต่ง' เป็นเรื่องสัมพัทธ์ ไม่ใช่สัมบูรณ์ เทียบกับในอดีตร่างนี้อาจถูกมองว่าสุดโต่ง แต่เทียบกับสถานการณ์โลกในตอนนี้ ร่างนี้อาจไม่ทันกินด้วยซ้ำไป

พิธากล่าวต่อว่า หากรัฐสภาแห่งนี้ปฏิเสธที่จะรับหลักการของร่างรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น ประเทศไทยของเราจะสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาลที่จะผ่าตัดพลิกโฉมประเทศไทยใน 3 เรื่อง โอกาสแรกคือ การระเบิดศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากที่ประเทศไทยเคยมีเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ รถยนต์, อิเล็กทรอนิกส์ และท่องเที่ยว ก็จะกลายเป็น 7,852 เครื่องยนต์ ทุกตำบล ทุกเมือง ทุกจังหวัดที่ถูกปลดล็อกจะสามารถกลายเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทย

พิธากล่าวว่า โอกาสที่ 2 ที่อาจสูญเสีย คือ การเพิ่มศักยภาพให้การบริหารงานภาครัฐอย่างมหาศาล ดังที่แสดงในการศึกษาของ OECD ยิ่งประเทศมีระดับการกระจายอำนาจสูงขึ้น ระดับประสิทธิภาพการบริหารงานภาครัฐก็สูงขึ้น ไม่ว่าจะในระดับท้องถิ่นหรือส่วนกลาง และโอกาสที่ 3 ที่จะสูญเสียไปมหาศาล คือการแก้ปัญหาสำหรับอนาคตในเรื่องภาคเกษตร เพราะใน 20-30 ปีข้างหน้า ผลผลิตการเกษตร ข้าว อ้อย มัน จะลดลง 20-30% เกิดวิกฤติราคาอาหารอย่างแน่นอน จากสภาพภูมิอากาศ ตามข้อตกลง Paris Agreement ประเทศพัฒนาแล้วต้องส่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาช่วยประเทศกำลังพัฒนารวม 3.5 ล้านล้านบาท เฉพาะในปี 2564 สภาพยุโรปส่งเงินไปช่วยทั่วโลกมากกว่า 8 แสนล้านบาท และให้ลงมาที่ท้องถิ่นเพราะเขาเชื่อว่าภาวะโลกรวนต้องใช้ความยืดหยุ่น รวดเร็ว ของท้องถิ่น รอรัฐบาลกลางไม่ได้ แต่ในเงิน 8 แสนล้านเหล่านี้มาช่วยท้องถิ่นไทยได้ 0 บาท เพราะท้องถิ่นไทยไม่สามารถกู้เงินได้

“นี่คือสาเหตุที่เราต้องปลดล็อกท้องถิ่นในวันนี้ เพื่อปลดปล่อยพลังทางเศรษฐกิจของทุกจังหวัด ทุกเมือง ทุกตำบล ให้ความเจริญกระจายไปทุกหย่อมหญ้า สร้างเครื่องยนต์ใหม่ทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยฝ่ามรสุมความเสี่ยงของโลกในอนาคตได้ ถ้าประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนไปอย่าง Big Bang จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญกระจายอำนาจในวันนี้ ก็คงเป็นไปได้ยากที่จะเอาประเทศไทยออกจากสภาวะกบต้มและขับเคลื่อนให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้าได้” พิธากล่าวทิ้งท้าย