ยกความเดือดร้อนปชช. เป็นที่ตั้ง ภารกิจสำคัญ ‘น้ำท่วม’ ต้องร่วมกันแก้ไข

3ป - 2ช - 1ว ยังไงก็ไปทางเดียวกัน !!ร่วมแรง ร่วมกัน แก้น้ำท่วม !!

เพจศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี หรือ PMOC ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ประมวลภาพการทำงานของรัฐบาลร่วมกับกรุงเทพมหานครในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยในคลิปดังกล่าวมีความคิดเห็นของบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึงประมวลภาพภารกิจการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือประชาชนของ 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รวมถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมข้อความ “ยังไงก็ไปทางเดียวกัน ร่วมแรง ร่วมกัน แก้น้ำท่วม”

นับเป็นนิมิตหมายที่ดีของคนกรุงเทพมหานคร หลังได้เห็นความร่วมมือกับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากรัฐบาลกลาง และกรุงเทพมหานคร ไร้ภาพความแตกแยก แต่ประสานมือร่วมคลี่คลายปัญหาไปด้วยกัน 

อย่างที่ทราบกันดีว่า ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา ฝนกระหน่ำเมืองกรุง จนเกิดภาพน้ำท่วมขัง ระบายไม่ทัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในโซนกรุงเทพตะวันออก อย่างเขตลาดกระบัง

เป็นเหตุให้เกิดวิวาทะกันอย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ระหว่างกองเชียร์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และฝั่งที่มีความคิดเห็นตรงข้าม กับข้อกล่าวหาที่ว่า ทำงานไม่เป็น ก็ไม่ควรอาสามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ แม้แต่ส.ส.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย ที่เคยอยู่ฝั่งเดียวกันอย่าง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ถึงกับทนไม่ไหว ออกมาบ่นดัง ๆ ผ่านออนไลน์ ว่า ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ ขออะไรไปก็ไม่ได้รับการตอบสนอง

เหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำภาพความแตกแยก แต่ทว่าภาพแห่งความหวังของคนกรุงเริ่มปรากฏสัญญาณบวก เมื่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ได้มอบเครื่องเครื่องสูบน้ำขนาดหน้าตัด 30 นิ้ว จำนวน 6 เครื่อง ที่ระดมมาจากทั่วทุกภาคของประเทศ โดย 1 เครื่องจะติดตั้งที่ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา อีก 4 เครื่อง อยู่ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ส่วนอีก 1 เครื่อง จะมาในวันที่ 19 กันยายนนี้ 

โดยเป็นการตอบรับทันที ที่ผู้ว่าฯชัชชาติ ร้องขอมา โดยไม่มีอิดออด มิหนำซ้ำยังแสดงความยินดีและขอบคุณที่ได้ให้โอกาสกรมทรัพยากรน้ำ ได้มีส่วนร่วมในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ 

ไม่เพียงแต่นายวราวุธ เท่านั้นที่ลงมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนน้ำท่วมครั้งนี้ แต่กลุ่มพี่น้อง 3 ป. ทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว แต่ก็มิได้นิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวกทม. ในฐานะรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยทหาร ออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกพื้นที่ ดังภาพที่ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และหน่วยทหารจิตอาสา ที่ระดมกำลังช่วยเก็บขยะ กำจัดวัชพืช ขุดลอกคูคลอง, ขุดลอกท่อ, นำรถทหารออกบริการประชาชนที่เดินทางไม่สะดวกในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง เป็นต้น 

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ด้วยตัวเอง บริเวณสะพานคลองทับยาว เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นจุดที่มีปัญหาด้านการระบายน้ำ และทันทีที่ผู้ว่าฯชัชชาติ รายงานสถานการณ์ว่า “ลาดกระบังหนักสุดครับ ฝนตกลงมาเยอะมากครับท่าน 2 เท่าของค่าเฉลี่ย” พลันที่ได้ยินเช่นนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ตอบกลับทันทีว่า “ท่านผู้ว่าฯ จะเอาอะไรบอกผมได้เลย” 

พร้อมย้ำว่า รัฐบาลและกทม.ทำงานใกล้กันอยู่แล้ว ต้องการอะไรที่จะให้สนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือหรือบุคลากรบอกได้ตลอด

ทางด้านพี่ใหญ่ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร หลายฝ่ายชื่นชมว่า ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้อย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การต่อสายตรงหาผู้ว่าฯชัชชาติ เพื่อหารือถึงการรับมือปัญหาน้ำท่วม โดยระบุว่า “มีอะไรให้ช่วยขอให้บอก” 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ยังควงผู้ว่าฯชัชชาติ ลงพื้นที่ มีนบุรี หนองจอก ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ด้วยตัวเองอีกด้วย

แม้แต่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นอีกคนหนึ่งที่ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับผู้ว่าฯชัชชาติ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การจัดระเบียบสายสื่อสาร จนมาถึงการร่วมบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วม ทั้งการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการมอบสิ่งของให้กับผู้ประสบภัย 

จากภาพความร่วมมือของทั้ง 2 ฝั่งทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น แม้หลายคนจะมองว่าเป็น 2 ขั้วทางการเมืองที่มีความเห็นแตกต่างกันมาโดยตลอด แต่ภายใต้ภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยเร็ว หากว่ายังมีความแตกแยกกันอยู่ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการคลี่คลายปัญหาอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น เมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ความสุขของคนไทย แม้มีความเห็นต่างกันบ้าง แต่หากยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง การทำงานร่วมกัน เดินไปในทิศทางเดียวกัน ไม่แบ่งแยกขั้วการเมือง คงเป็นสิ่งที่คนไทยอยากเห็นมากที่สุด


ติดตามความร่วมมือร่วมใจ ได้ที่ https://youtu.be/WKz3qL_cBgs
ที่มา :  https://fb.watch/fyqItPPPYc/