'แสนยากรณ์' ยกเหตุผล 4 ป. ควรแก้ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ หากไม่ผ่าน เสี่ยงเกิดวิกฤติการเมือง หลังเลือกตั้ง
นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า ในฐานะคณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 อภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ก่อนลงมติว่า จากที่ได้ฟังการอภิปรายของท่านสมาชิกรัฐสภา ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อาจจะมีกระทบกระทั่ง เห็นต่างกันบ้าง แต่อยากจะย้ำว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นร่างที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอร่างกันมา จึงอยากให้พิจารณาในแง่ของหลักการ พร้อมทั้งสรุปข้อสังเกตเป็น 4 ป. คือ 1.) "ประชามติ" แม้ทั้งรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงจะผ่านการเห็นชอบการประชามติ แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐธรรมนูญจะแก้ไขไม่ได้ ต้องยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 5 ปีกว่า มีเนื้อหาหลายส่วนที่เป็นปัญหาต้องแก้ไข ซึ่งสถานการการเมืองตอนนี้ ผันผวนไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะนายกรัฐมนตรีอย่างไร ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ หรือจะยุบสภาในอีกไม่กี่เดือนนี้หรือไม่ จึงเห็นตรงกัน ว่าควรเร่งแก้ไขยกเลิก การใช้เสียง ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหามากมายหลายอย่างตามมา
นายแสนยากรณ์ กล่าวต่อว่า 2.) "ปฏิบัตินิยม" ถ้ากลับไปดูคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา คะแนนในสภาผู้แทนราษฎร 251 ต่อ 244 เสียง นั่นหมายความว่า ใช้คะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร ก็มากเพียงพอจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจเรื่องนี้ เพราะเมื่อมีเสียงวุฒิสภาเข้าไปร่วมโหวตเลือกนายกฯ ด้วย ทำให้ประชาชน จำนวนไม่น้อย รู้สึกว่ากระบวนการไม่ได้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ทั้งที่จริงใช้แค่เสียงในสภาผู้แทนราษฎรก็พอแล้ว แต่หากไม่ได้เสียงข้างมาก แล้วใช้เสียงวุฒิสภาลากเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล สุดท้ายคงอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน เพราะเสียงไม่ถึงในสภาผู้แทนราษฎร ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที
นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า 3.) "ประชาธิปไตย" รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ทั้งคำปรารภหลายวรรค บททั่วไปมาตรา 2 ระบุชัดเจนถึงระบอบการปกครองและการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย แต่ถ้ายังคงให้ใช้เสียง ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นกระบวนการที่ขัดต่อกฎหมายและระบอบการปกครองเสียเอง และ 4.) "ปรองดอง" โดยหวังกับสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภา เพราะอำนาจนี้ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยมองว่า ส.ว.เป็นกลไกสืบทอดอำนาจ เป็นปัญหาความไม่เข้าใจกัน เป็นปัญหาความขัดแย้งการเมือง
นายแสนยากรณ์ อภิปรายว่า ยังคงเชื่อมั่นในวุฒิสภา ล้วนเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพียงแต่ขอเสียงจากพวกท่าน ยกเลิกกลไกการใช้เสียง ส.ว. ร่วมเลือกนายกฯ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคต หากท่านยินดีจะสละอำนาจส่วนนี้ไป ท่านจะเป็นจุดเริ่มต้น ยุติความวุ่นวาย ยุติความขัดแย้งทางการเมือง และความปรองดอง การเมืองที่มีเสถียรภาพ จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ขอเพียงเสียง ส.ว.รับหลักการ เกิน 84 เสียง ผ่านวาระ 1 เดินหน้าหาทางออก สร้างความปรองดอง ร่วมกันทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย