มองเบื้องลึก สายการบินจีนสั่งซื้อล็อตใหญ่ ‘แอร์บัส’ เชื่อ ‘จีน’ อยากสั่งสอน ‘สหรัฐฯ’ ให้เลิกจุ้นทะเลจีนใต้

นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pat Hemasuk’ วิเคราะห์กรณีสายการบินจีนเมินซื้อเครื่องบินโบอิ้ง จากสหรัฐฯ หันไปออเดอร์เครื่องบินแอร์บัสของฝรั่งเศสเกือบ 300 ลำ ว่า ..

การพังทลายจากภายในนั้นคือความวิบัติที่แท้จริงและวิบัติอย่างถาวร 

คืนนี้ผมอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนเกี่ยวกับ จีน สหรัฐ และฝรั่งเศส ในกรณีที่จีนตัดสินใจซื้อเครื่องบิน A320neo family จากแอร์บัสล็อตใหญ่จำนวน 292 ลำ ราคาไม่น้อยกว่าสามหมื่นเจ็ดพันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในสายการบินหลัก 4 สายการบินคือ  Air China, China Southern Airlines, China Eastern Airlines และ Shenzhen Airlines ซึ่งทั้ง 4 สายการบินมีทั้งเครื่องบินของแอร์บัสและโบอิ้งให้บริการอยู่รวมแล้วกว่าพันลำ 

เรื่องที่ทำไมจีนถึงเลือกซื้อเครื่องจากแอร์บัสนั้นมีหลายสาเหตุ เอาสาเหตุแรกก่อนคือความเสียหายที่ Boeing 737 Max รุ่นเจ้าปัญหาที่ต้องหยุดบินหลังเครื่องตกติดต่อกันสองลำคนตายไป 346 คน แล้วต้องหยุดบินกันไปถึง 20 เดือนจากการที่ FAA สั่งระงับการบินเพื่อหาสาเหตุและทางโบอิ้งเองต้องปรับปรุงเครื่องใหม่ให้มีความปลอดภัยจำนวน 367 ลำจาก 59 สายการบินทั่วโลก สายการของบินจีนก็เป็นหนึ่งในนั้น ตามที่คาดการณ์เอาไว้สายการบินทั่วโลกเสียหายไปจากการห้ามขึ้นบินของ 737 Max ถึงสองหมื่นล้านดอลลาร์ 

แต่เรื่องหลักที่จีนไม่ซื้อโบอิ้งนั้นเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ภูมิรัฐศาสตร์ของโลกนั้นเปลี่ยนไปมากแล้วตั้งแต่จีนโดนสหรัฐเล่นงานมาตลอด 5 ปีตั้งแต่สมัยสงครามการค้าในสมัยบริหารของ ปธน.ทรัมป์ จนถึงสมัย ปธน.ไบเดนก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังไปยั่วโมโหจีนอีกในเรื่องไต้หวัน

จนถึงการแบ่งขั้วของโลกอย่างชัดเจนจากสงครามรัสเซีย - ยูเครน ที่สหรัฐนั้นเข้าแทรกแซงโดยใช้มือของกลุ่มประเทศนาโต้และมิตรประเทศนอกนาโต้ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการสนับสนุนสงครามด้านอาวุธให้ยืดเยื้อไปอีกจนคนที่เจ็บตัวนั้นไม่ใช่รัสเซีย แต่เป็นบรรดากลุ่มประเทศยุโรปที่ร่วมแซงชั่นรัสเซีย รวมถึงสหรัฐเองด้วยที่ต้องเจอกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากราคาพลังงานที่ขึ้นไปเกือบสองเท่าทั้งโลก รวมถึงซัพพลายเชนจากรัสเซียและจีนที่ทำให้สภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐหลังโควิดรุนแรงขึ้นไปอีก

จีนนั้นเลือกแล้วที่จะยืนอยู่ข้างรัสเซีย ซึ่งจีนเองก็คงเห็นแล้วว่าสักวันถ้าจีนโดนสหรัฐเข้าแทรกแซงเรื่องไต้หวันก็คงต้องทำเหมือนกับที่รัสเซียทำ จากกรณีที่รัสเซียโดนแทรกแซงเรื่องยูเครน จนรัสเซียต้องตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าบุกยูเครนก่อนที่ยูเครนจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกนาโต้ เรื่องนี้รัสเซียยอมไม่ได้ที่จะสูญเสียการควบคุมทางการทหารของกองเรือทะเลดำไปอย่างถาวร ซึ่งไม่ต่างกับจีนที่ยอมไม่ได้ในเรื่องที่สหรัฐเข้าแทรกแซงสนับสนุนไต้หวันและเข้ามายุ่งกับปัญหาของทะเลจีนใต้

จากตัวอย่างของรัสเซียที่โดนยึดเงินและทรัพย์สินทั้งในสหรัฐและยุโรป จีนก็ยอมไม่ได้อีกเช่นกันที่จะโดนยึดทรัพย์ทุกอย่างในรูปของเงินลงทุนที่เป็นเจ้าหนึ้อันดับต้นของสหรัฐ และเงินลงทุนมหาศาลในยุโรปเหมือนรัสเซียถ้าสหรัฐไม่พอใจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงต้นไตรมาสสามในเวลานี้ จีนถอนการลงทุนในตลาดหุ้นของสหรัฐไปมากพอสมควร กิจการบางบริษัทที่เป็นหุ้นใหญ่ก็ขายทิ้งไปทั้งหมดเลย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าจีนนั้นก็ไม่พอใจเรื่องของสหรัฐที่เข้ามาสอดมือเข้ามายุ่งในทะเลจีนใต้ รวมถึงไต้หวันที่จีนบอกแล้วว่าห้ามยุ่ง แต่รัฐบาลของ ปธน.ไบเดนก็ไม่ฟังคำเตือนของจีน 

สิ่งหนึ่งที่ ปธน.มาครองของฝรั่งเศสได้ทำมาตลอดกับจีนและรัสเซียก็คือการติดต่ออย่างใกล้ชิดในทุกปัญหา ไม่ต่างกับที่ นางแมร์เคิลของเยอรมันทำก็คือการโทรพูดคุยกับ ปธน.ปูตินของรัสเซีย และ ปธน.สีจิ้นผิงของจีนก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม ในช่วงสงครามยูเครนนั้น ปธน.มาครองเกือบจะคุยกับ ปธน.ปูตินรายวันเลยก็ว่าได้ เป็นประเทศเดียวที่ทำแบบนี้ เพราะคนที่ ปธน.ปูตินจะคุยด้วยแบบดีๆ ก็เหลือแต่ ปธน.มาครองคนเดียวก็ว่าได้ เพราะป้าแมร์เคิลก็ลงจากตำแหน่งไปแล้ว จนหนังสือพิมพ์ในยุโรปและสหรัฐหลายฉบับได้กล่าวถึงเรื่องนี้แบบติดตลกว่าถ้าสงครามลามไปทั่วยุโรปคงเหลือฝรั่งเศสประเทศเดียวที่ไม่มีนิวเคลียร์ของรัสเซียลงถล่มเมือง

เรื่องการซื้อเครื่องบินแอร์บัสของจีนเกือบสามร้อยลำและเงินหายไปไม่น้อยกว่าสามหมื่นเจ็ดพันล้านดอลลาร์นั้น โบอิ้งเดือดร้อนมากและดูเหมือนจะไม่พอใจรัฐบาลไบเดนอย่างมาก ในแถลงการณ์ของบริษัทโบอิ้งในตอนหนึ่งกล่าวว่า

“It is disappointing that geopolitical differences continue to constrain US aircraft exports,” 

"นี่คือเรื่องผิดหวังที่ความแตกต่างทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องจนกระทบถึงการส่งออกเครื่องบินของสหรัฐ" 

ทางโฆษกของโบอิ้งเองก็ยังพูดต่อว่าประเทศจีนเป็นตลาดสำคัญของโบอิ้งในการขายเครื่องบินตระกูล 737 การที่จีนและสหรัฐเกิดความตึงเครียดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามการค้า มีผลกระทบกับการจ้างงานของโบอิ้ง ซึ่งยอดสั่งซื้อในอดีตจากจีนที่มีกับโบอิ้งนั้นได้เพิ่มการจ้างงานให้กับคนอเมริกันหลายหมื่นตำแหน่ง

that sales to China historically support tens of thousands of American jobs.

อย่างที่บอกในบรรทัดแรกนั่นแหละว่า "การพังทลายจากภายในนั้นคือความวิบัติที่แท้จริงและวิบัติอย่างถาวร"

เรื่องนี้คงเป็นบทเรียนให้กับสหรัฐ รวมถึงรัฐบาลของพรรคเดโมแครตด้วยว่า ที่รัฐบาลของพรรคริพับลิกันทำพังมาตลอดสี่ปีในสมัยของ ปธน.ทรัมป์ นั้นยังเทียบไม่ได้กับเรื่องที่กำลังจะพังเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต จากนโยบายของ ปธน.ไบเดน ถ้าสหรัฐยังไม่เลิกไปยุ่งทำตัวเป็นเจ้าโลกกับจีน ภาคธุรกิจของสหรัฐเองนั่นแหละจะพัง และสหรัฐจะพังจากภายในไม่ต่างกับที่กลุ่มยุโรปเศรษฐกิจพังวินาศไปหมดจากการที่ไปยุ่งกับยูเครนให้แข็งข้อกับรัสเซียจนเกิดสงครามขึ้นมาอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้

เรื่องนี้ต้องเข้าใจกันใหม่สำหรับบางคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวต่างประเทศนะครับว่า ถ้าปล่อยให้ยูเครนอยู่อย่างเดิมเหมือนกับที่เคยเป็นเคยอยู่ สงครามก็ไม่เกิด เพราะยูเครนคือรัฐกันชนของรัสเซียกับกลุ่มนาโต้ แต่สหรัฐและนาโต้ดันไปยุ่งกับยูเครนจนรัสเซียต้องตัดสินใจบุกอย่างที่เห็นทุกวันนี้ จำเลยที่หนึ่งก็คือนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในสมัยการบริหารของพรรคเดโมแครตนี่แหละครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=5522052914504941&set=a.112655038778116