อเมริกันชน ทนไม่ไหว ค่าน้ำมันพุ่งทุกวัน หันไปเจาะถังดูดน้ำมันรถ ปล้นโจ่งแจ้ง
ท่ามกลางราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นรายวันในสหรัฐอเมริกานั้น ได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ชาวอเมริกันแห่กันขโมยน้ำมัน ด้วยการเจาะจากถังรถคนอื่นหรือจากหัวจ่ายปั๊ม และนำกลับไปขายต่อในราคาถูกผ่านแอปพลิเคชัน ท่ามกลางความปวดหัวของเจ้าของปั๊มที่ขาดทุน และสร้างความหวาดกลัวให้บรรดานักขับชาวอเมริกันทั่วประเทศ ซึ่งปรากฏอัตราอาชญากรรมการขโมยน้ำมันจากปั๊มพุ่งขึ้นถึง 25%
รายงานจากฟ็อกซ์นิวส์เมื่อ (27 มิ.ย.65) ได้เกิดปรากฏการณ์อเมริกันชนแอบขโมยน้ำมันทั่วประเทศ ทั้งขโมยจากหัวจ่ายปั๊ม หรือแม้แต่จากรถยนต์คนอื่นที่กำลังจอดอยู่ รวมไปถึงเจาะระบบเครือข่ายสถานีจ่ายน้ำมันท่ามกลางราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ปรับราคาสูงขึ้นรายวันเป็นประวัติการณ์
สำหรับเทรนด์ใหม่ที่กำลังสร้างความหวาดกลัวให้สังคมอเมริกันนี้เริ่มแผ่เป็นวงกว้าง และได้มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ABC7 ซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย ที่ได้รายงานด้วยความระทึกต่อเหตุการณ์หัวขโมยแอบเจาะน้ำมันดูดจากรถ SUV อย่างหน้าตาเฉยในเมืองโอ๊คแลนด์ ขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในรถ ได้ขว้างค้อนสีแดงเข้าไปที่รถที่โดนขโมยน้ำมันไปราวครึ่งถัง ทำให้กระจกรถแตกเป็นรูโหว่ระหว่างที่กำลังขับออกไป
ขณะที่ด้านเดลีเมล สื่ออังกฤษเปิดเผยว่า เมื่อ (17 มิ.ย.) ที่ผ่านมา มีหัวขโมยน้ำมันรายหนึ่งที่แอบเจาะน้ำมันจากรถบรรทุกคันหนึ่งที่จอดใกล้กับรถกระบะของตัวเองเกิดติดไฟลุกตามร่างกายขึ้นมาในเมืองซอลต์เลคซิตี รัฐยูทาห์ ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าระหว่างการเจาะเพื่อทำให้เข้าไปถึงตัวถังน้ำมันของรถทำให้เกิดประกายไฟขึ้นจนเกิดเรื่อง
ฟากฟ็อกซ์นิวส์ ได้รายงานโดยอ้างความเห็นจาก เจฟ เลนาร์ด (Jeff Lenard) รองประธานโครงการความริเริ่มยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมประจำสมาพันธ์ร้านสะดวกซื้อแห่งชาติสหรัฐฯ NACS (National Association of Convenience Stores) ได้ชี้ถึงปรากฏการณ์ขโมยน้ำมันทั่วประเทศนี้ว่า นี่ไม่ใช่กระแสโรบินฮู้ดที่ขโมยจากคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจน
“นี่เป็นพวกหัวขโมย คนเหล่านี้ไม่ได้ขโมยจากคนรวยเพื่อช่วยคนจน เจ้าของสถานีจำหน่ายน้ำมันเป็นผู้รับผิดชอบน้อยที่สุดต่อน้ำมันราคาแพง ซึ่งต้นทุนของการขโมยจะถูกส่งผ่านไปทำให้ราคาสูงขึ้นและเมื่อผู้คนต่างขับรถไปพร้อมกับน้ำมันที่ขโมยมานี่ถือเป็นเรื่องที่ต้องน่าวิตก”
ยิ่งไปกว่านั้น เลนาร์ด ยังกล่าวต่อโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานบริหารข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ (U.S.Energy Information Administration) อีกว่า “มีการขโมยน้ำมันเพิ่มขึ้น 25% จากปั๊มน้ำมันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า”
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.) ในเมืองเวอร์จิเนียบีช รัฐเวอร์จิเนีย ตำรวจพบรถจำนวนมากใช้อุปกรณ์ดูดน้ำมันจากปั๊ม Citgo ระหว่างช่วงเวลาปิดบริการ โดยในระหว่างการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่นั้นได้เปิดเผยว่า คนร้ายมีการนำอุปกรณ์เพื่อเจาะขโมยน้ำมันแล้วนำกลับไปขายต่อในราคาถูกผ่านทางแอปฯ มือถือ และมีการประเมินว่ามูลค่าน้ำมันที่ถูกขโมยออกไปจากสถานีบริการน้ำมัน Citgo ในช่วงเวลาไม่กี่วันนั้นมีมูลค่าหลายพันดอลลาร์เลยทีเดียว
ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานอีกว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันเฉลี่ยทั่วสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.91 ดอลลาร์ต่อแกลลอน โดยบางส่วนของรัฐทางตะวันตกและทางตะวันออกเฉียงเหนือเห็นราคาน้ำมันเกินกว่า 5-6 ดอลลาร์ อ้างอิงจากสมาพันธ์ยานยนต์สหรัฐฯ AAA (American Automobile Association) ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียราคาเฉลี่ยน้ำมันตกอยู่ที่ 6.33 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในวันเสาร์ (25)
สำหรับในรัฐแคลิฟอร์เนีย อาจจะมีข่าวดีเล็กๆ หลัง SF GATE รายงาน (27 มิ.ย.) ว่า ผู้เสียภาษีชาวแคลิฟอร์เนีย 23 ล้านคน อาจได้เห็นการเยียวยาราคาน้ำมันพุ่งสูงโดยได้รับเงินชดเชยสูงสุดถึง 1,050 ดอลลาร์จากผู้ว่าการรัฐ ‘แกวิน นิวซอม’ หลังข้อตกลงงบประมาณปี 2022-23 บรรลุภายใต้มาตรการแพ็กเกจช่วยเหลือเงินเฟ้อ 17 พันล้านดอลลาร์ของทางรัฐ โดยกรอบทำงานจ่ายเยียวยานี้จะเป็นการจ่ายตรงผ่านเงินคืนภาษีหรือบัตรเดบิตให้ผู้เสียภาษีที่จะต้องยื่นภายในปลายเดือนตุลาคม และมีการคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ภายในสิ้นปี 2022 หรือต้นปีหน้า