คลังหั่นเศรษฐกิจไทยปีนี้โตแค่ 3.5% หลังเจอสารพัดปัจจัยเสี่ยง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 เหลือขยายตัว 3.5% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อน ที่มองว่าจะขยายตัว 4% หลังเจอผลกระทบความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยชะลอตัว โดยเฉพาะ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา จึงกระทบให้ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ยังต้องจับตาปัจจัยกระทบต่อเศรษฐกิจไทย 5 เรื่อง ดังนี้ 1.ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนกระทบต่อราคาพลังงาน 2. ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และอาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต 3. ความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก เช่น การปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูง อาจทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศและส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท
4. ปัญหาข้อจำกัดในห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Disruption) เช่น การขาดแคลนอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และ 5. ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวไม่เต็มที่ จึงเป็นข้อจำกัดสำหรับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และความสามารถในการชำระหนี้สินของภาคครัวเรือนที่ยังคงมีความเปราะบาง
นายพรชัย กล่าวว่า โดยรวมเศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากปีก่อน ซึ่งขยายตัว 1.6% ต่อปี มีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ การบริโภคภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยว ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทย 6.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากจากปี 2564 ที่มีจำนวนเพียง 4 แสนคน ขณะที่ การส่งออกสินค้า คาดว่าขยายตัว 6%