11 มีนาคม พ.ศ. 2473 ระลึกถึง ‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’ ผู้ให้กำเนิดแบบเรียน ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’

หากพูดถึงชั่วโมงเรียนภาษาไทยในวัยประถม หลายคนคงนึกถึงตัวละคร ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ แบบเรียนที่เด็กไทยหลายคนต้องเคยได้สัมผัสและในวันที่ 11 มีนาคม ก็นับว่าเป็นวันเกิดของผู้ให้กำเนิดแบบเรียนในความทรงจำ ‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’

โดยแบบเรียน ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ เคยใช้เป็นแบบเรียนวิชาภาษาไทย ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ ตามหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521-2537 แน่นอนว่าสำหรับใครที่อายุเลข 3 ขึ้นไป ต้องเคยได้สัมผัสและเติบโตไปพร้อมกับเรื่องราวของมานะ มานี จนเขียนอ่านได้คล่อง ถึงแม้ว่าอาจารย์รัชนี ได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ตัวละครต่างๆ ก็ได้กลายเป็นความทรงจำสีจางให้กับหลายคน

‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’ เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2473 นับได้ว่าท่านเป็นผู้สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อการศึกษาไทยในวิชาภาษาไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะรับราชการเป็นศึกษานิเทศก์ครูภาษาไทย ท่านได้รับมอบหมายจากสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เขียนเรื่องประกอบหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ โดยนำมาใช้เป็นแบบเรียนตามหลักสูตรจวบจนถึงปี 2537 และเป็นผลงานที่ทำให้ท่านได้รับการยกย่องมาจวบจนถึงทุกวันนี้ 
 

โดยทางสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้มอบรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2556 ให้แก่อาจารย์รัชนี อีกทั้งศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมไทย TLCC เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการไทย นำหนังสือ ‘กระต่ายน้อยและฝนหลวง’ และ ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ ที่อาจารย์รัชนีได้เขียนขึ้น มาใช้เป็นหนังสือเรียนสอนภาษาไทยให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปัจจุบัน

อาจารย์รัชนี ยังมีผลงานวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ‘ทางช้างเผือก’ และ ‘เรื่องชื่นใจ’ ร่วมกับสำนักพิมพ์ในเครือนิตยสาร a day รวมถึงรายการ ‘ภาษาไทยใครว่ายาก’ เคยเชิญอาจารย์รัชนีเป็นวิทยากร โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดยอาจารย์รัชนีถึงแก่กรรม ด้วยโรคหลอดเลือดอุดตัน เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 ด้วยวัย 84 ปี โดยเมื่อครั้งยังมีชีวิต อาจารย์รัชนีแสดงความประสงค์ขอบริจาคร่างกายสำหรับการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล


ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/169248


ติดตามผลงานอื่นๆ ของ THE STATES TIMES ได้ที่
TikTok > https://www.tiktok.com/@thestatestimes