ภาคอุตสาหกรรมจับตาสินค้าต้นทุนราคาพุ่งต่อเนื่อง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์วิกฤตยูเครน-รัสเซีย ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ทำให้ราคาสินค้าจะมีการทยอยปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น แม้ที่ผ่านมาทุกกลุ่มอุตสาหกรรมพยายามตรึงราคา แต่เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละมีสต๊อกไม่เท่ากัน จึงอาจจะต้องมีการทยอยปรับขึ้นราคา 

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ก็ทำให้ราคาค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.25 บาท ดังนั้นถ้าน้ำมันเพิ่ม 10 เหรียญ ก็ทำให้ราคาค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.5 บาท ล่าสุดผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นตัวดัชนีของผู้บริโภค ก็มีการขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากข้าวสาลี ที่เป็นวัตถุดิบผลิตที่สำคัญ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน 

นายเกรียงไกร กล่าวว่า ยังมีสิ่งที่กังวลต่อเนื่อง คือ แร่ธาตุหายาก เช่น นิเกิล กำลังได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดบทางตรง คือ ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ปรับราคาขึ้นแล้ว 5%  ส่วนทางอ้อมคือ ปัญหาขาดแคลน ซึ่งจะทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงัก ทั้งนี้ ส.อ.ท.มองว่า ในภาพรวมช่วง 3-6 เดือนนี้ ราคาสินค้าจะค่อย ๆ ปรับราคาขึ้น โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี จะมีการขอปรับราคาในช่าง 1-2 เดือนนี้