กรมประมงหาทางฟื้นฟูกุ้งทะเลไทย หลังเจอวิกฤต
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลให้มีผลผลิต 400,000 ตัน ภายในปี 2566 เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำการผลิตในตลาดโลกได้อีกครั้ง หลังจากในช่วงปลายปี 2554 ที่ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคตายด่วน (AHPND/EMS)ซึ่งได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงต่อวงการอุตสาหกรรมกุ้งของไทยและผลผลิตภายในประเทศยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับปี 2553
ปัจจุบันกุ้งทะเล นับเป็นสินค้าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมากโดยในอดีตอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่าแสนล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2553 มีปริมาณและมูลค่าการส่งออกมากที่สุด คือ 437,270 ตัน มูลค่าสูงถึง 101,116 ล้านบาท แต่ในปี 2564 มีปริมาณการส่งออกลดลงเหลือเพียง 201,592 ตัน คิดเป็นมูลค่า 55,893 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ปริมาณลดลงถึง 53.90% และมูลค่าลดลง 44.72%
ล่าสุดกรมฯ ได้จัดการประชุมเพื่อหาแนวทางการฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมาย โดยได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของกรมประมงรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลรวม 35 จังหวัดร่วมกำหนดทิศทางและวางแผนในการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิตเพื่อฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันเกษตรกรมีการแจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล จำนวน 40,983 ราย มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงประมาณ 224,418 ไร่ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงบางส่วนประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าอาหาร ค่าพลังงาน ค่าสารเคมี เป็นต้น และยังมีต้นทุนแฝงจากการเกิดโรคกุ้งทะเล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดน้อยลง โดยในภาพรวมได้ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสทางการแข่งขันในตลาดโลกอีกด้วย