กกร.ปรับจีดีพีไทยใหม่ปีนี้โตแค่ 2.5-4.5%

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจช่วงต้นปีชะลอตัวเล็กน้อย แต่ผลกระทบโดยรวมคาดว่าไม่รุนแรง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยกกร. ได้ปรับกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ใหม่ เป็น 2.5-4.5% จากเดิม 3.0-4.5% และคงการส่งออกโต 3-5% และปรับอัตราเงินเฟ้อจาก 1.5-2.5% เป็น 2-3%

ส่วนความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด และมีแนวโน้มเผชิญหน้ากันมากขึ้น ซึ่งทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นมาก โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในหลายด้าน ทั้งเงินเฟ้อ การส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยว โดยเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นมากตามทิศทางราคาพลังงาน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจสูงกว่าระดับ 3% ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่การส่งออกได้รับผลกระทบทางตรงจากตลาดรัสเซียและยูเครนไม่มาก เนื่องจากไม่ใช่คู่ค้าหลัก แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าอื่นที่ชะลอลง โดยเฉพาะสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ยังเสนอขอให้ภาครัฐจัดตั้งคณะทำงานร่วม (รัฐ-เอกชน) ในการเป็น Focal Point ติดตามและประเมินสถานการณ์ เพื่อให้เอกชนได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปิดน่านฟ้า การประกาศหยุดของสายเรือ รวมถึงผลกระทบหากเกิดกรณีการคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตกและพันธมิตร เพื่อวางแผนขนส่งสินค้าไทยต่อไป