ส่องชะตากรรม 'ยูเครน' เหยื่อสังเวยการขยายอำนาจของนาโต้ จบแค่การช่วยกล่าวประณามและท่าทีคว่ำบาตรรัสเซีย
ดูเหมือนชาวโลกจะเริ่มมองเห็นแล้วว่า ทาง สหรัฐอเมริกากำลังทิ้งยูเครน หลังถูกปูตินเปิดฉากถล่ม และทางวอชิงตันมีเพียงกล่าวประณามและแสดงท่าทีคว่ำบาตรรัสเซียเท่านั้น โดยเพจ 'ลึกชัดกับผิงผิง' ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ ระบุว่า...
#ปูตินควักปืนหวังเขียนประวัติศาสตร์ใหม่
สถานการณ์ยูเครนทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการปะทะกันทางทหาร นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ กล่าวได้ว่า ยูเครนกลายเป็นเหยื่อสังเวยการขยายอำนาจของนาโต้ ทหารรัสเซียวันนี้ (วันที่ 24 กุมภาพันธ์) ได้โจมตีสิ่งปลูกสร้างทางทหารของยูเครนอย่างหนัก กรณีนี้อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์หากมองจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ถ้ามองในแง่ยุทธศาสตร์ การนี้เป็นการที่รัสเซียประกาศศึกต่อการขยายอำนาจสู่ภาคตะวันออกของนาโต้ ระเบิดที่ตกอยู่ในยูเครนนั้น เสมือนน้ำลายที่ชาวรัสเซียถ่มใส่หน้าของชาววอชิงตัน
รัสเซียกับยูเครนมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน สองฝ่ายอยู่ร่วมกันมากว่า 300 ปี ไม่มีข้อขัดแย้งอะไรหนักๆ ลึกๆ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ควรกลายเป็นศัตรูที่ต้องเข่นฆ่ากันแบบนี้ แต่การที่สหรัฐอเมริกากดดันรัสเซียอย่างหนักทางยุทธศาสตร์ ทำให้รัสเซียที่ได้ชื่อว่าเป็นชนชาตินักรบนั้นรู้สึกอับอายขายหน้า วันนี้ ปูตินจึงควักปืนออกมา เขาต้องการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ชาวรัสเซียที่อ่อนข้อต่อยุโรปมาโดยตลอดหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
อาจจะกล่าวว่ายูเครนมีชะตากรรมที่น่าสงสาร หลายปีนี้ รัฐบาลยูเครนเข้าข้างสหรัฐอเมริกาและตะวันตก ตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย ซึ่งเป็นแนวคิดที่เป็นที่นิยมในยุโรปตะวันออก ชาติที่เกิดจากการล่มสลายจากอดีตสหภาพโซเวียตมั่นใจว่าสหรัฐอเมริกาและนาโต้จะคุ้มครองป้องภัยให้ได้ แต่วันนี้ ชาวโลกได้มองเห็นแล้ว สหรัฐอเมริกาทิ้งยูเครนอย่างสิ้นเชิง ทางวอชิงตันมีเพียงกล่าวประณามและแสดงท่าทีคว่ำบาตรรัสเซียเท่านั้น ประธานาธิบดีไบเดนยืนยันจะไม่มีวันส่งกำลังทหารไปสู้รบกับรัสเซียตั้งแต่แรก
การทวีความรุนแรงของสถานการณ์ยูเครนจะทำให้แนวคิดยุทธศาสตร์ชี้นำยุโรปเกิดการเปลี่ยนแปลง ยุโรปคงจะเข้าสู่ช่วงวุ่นวายรอบใหม่ และยังไม่รู้ว่าจะถึงขนาดไหน
สำหรับประเทศจีน วันนี้ ดิฉันได้สังเกตแล้ว ตลาดหุ้นของจีนก็ตกลงพร้อมกับสถานการณ์โลก ยกเว้นหุ้นทองคำกลับมีอัตราเติบโต 8% ประเทศจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซีย ชาวจีนนอกจากจะมีความสุขุมในการติดตามผลคืบหน้าของสถานการณ์แล้ว ในใจก็ยังคงหวังว่าทางรัฐจะช่วยลดความร้อนให้ลงมาบ้าง อย่างไรก็ตาม เราหวังให้โลกนี้อยู่ด้วยกันอย่างสันติสุขจะดีกว่า #ลึกชัดกับผิงผิง
ที่มา : https://www.facebook.com/103548147970945/posts/485940953064994/