โต้งานวิจัย! “บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่” มั่วนิ่ม!! ยกตัวอย่างอังกฤษและผู้ใช้ตัวจริงในไทย หยุดสูบบุหรี่ได้จริง เพราะบุหรี่ไฟฟ้า!!
เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ECST โต้ผลการศึกษาจากการสังเกตการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร บีเอ็มเจ มีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด ทำให้ข้อสรุปไม่ถูกต้อง ชี้อังกฤษยังยืนยันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยเลิกบุหรี่ไฟฟ้า แนะการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่างานวิจัยชิ้นเดียว
นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ หรือ ECST (Ends Cigarette Smoke Thailand) และแอดมินเพจ บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไรที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยว่า “ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งอังกฤษออกมาชี้แจงว่างานวิจัยสถาบันมะเร็งมอเรส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้น้อยกว่าการใช้นิโคตินทดแทนมีวิธีทำการวิจัยที่ยังไม่ถูกต้อง ทำให้ได้ข้อสรุปขัดแย้งกับการศึกษาในผู้ใช้จริง (การศึกษาทางคลินิก) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยสำหรับผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ เอฟเฟกต์ทีฟ ควิทติ้ง เอด (effective quitting aids) และทางหน่วยงานสุขภาพระดับชาติของอังกฤษก็รับรองผลและชี้แนะว่าควรนำไปใช้ด้วย”
คำชี้แจงดังกล่าวของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ จอห์น บริตตัน จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ Science Medical Centre โดยระบุว่า “ผลการศึกษาจากการสังเกตการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกามีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด เพราะเป็นการพิจารณาตัวแปรที่สุดโต่ง คือในผู้สูบบุหรี่ที่เสพติดขั้นรุนแรง และผู้สูบบุหรี่ที่ขาดแรงจูงใจในการพยายามเลิกหรือลดการเสพติดบุหรี่มวน หรือผู้ที่เคยล้มเหลวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่มาก่อนแล้ว จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยไม่เห็นความสำเร็จในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ ซึ่งแตกต่างจากงานวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trials) ที่มีการออกแบบการทดลองอย่างรอบคอบ ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้เสพติดบุหรี่ที่มีสารอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าได้จริงหรือไม่
นอกจากนี้ ศ.กิตติคุณ บริตตัน ยังระบุว่าข้อสรุปจากการวิจัยทางคลินิกที่แสดงผลชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยบำบัดผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่การปรับนโยบายสาธารณสุขของทางฝั่งอังกฤษ ที่ได้รับรองการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และมีคำแนะนำการใช้ที่เหมาะสมไว้ใน คู่มือการเลิกบุหรี่ หรือไกด์ไลน์ฉบับล่าสุดปี 2021 ของสถาบันสุขภาพและการดูแลสุขภาพแห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร หรือ NICE (UK National Institute for Health and Care Excellence)
“เครือข่ายเรามีสมาชิกและผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน ซึ่งหลาย ๆ คน ก็ยืนยันประสบการณ์จริงได้ว่าพวกเราอยากให้ตัวเองและคนรอบข้างได้รับอันตรายจากควันบุหรี่น้อยลง จึงเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าและไม่ได้สูบบุหรี่กันแล้ว เราจึงอยากให้ผู้กำหนดนโยบายได้มองรอบด้านและนำข้อมูลทั้งด้านลบด้านบวกมาพิจารณาในทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องสุขภาพ เพื่อที่จะพาเราไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับคนสูบบุหรี่ได้จริง ๆ ไม่ใช่อ้างงานวิจัยชิ้นเดียวแล้วมาออกข่าวใหญ่โตเพื่อสร้างความเข้าใจผิด เพื่อต้องการคงการแบนบุหรี่ไฟฟ้าไว้ต่อไป ทั้งที่การแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ทำให้สูบบุหรี่ในประเทศกว่า 9 ล้านคน และคนรอบข้างที่ได้รับควันมือสองอีกกว่า 15 ล้านคน ยังต้องได้รับอันตรายต่อไป เราจึงอยากเห็นการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเช่นเดียวกับที่เราจัดการเรื่องกัญชา กระท่อม ที่นำมาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย หรือเรื่อง พรบ สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ทำให้รัฐควบคุม เก็บภาษีสรรพสามิตได้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคกว่า 9 ล้านคน
ในขณะที่ป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชนได้เหมือนในอีก 79 ประเทศทั่วโลก จึงขอฝากไปถึงท่าน รมว. ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐที่ท่านได้กรุณาออกมาสนับสนุนการแก้ปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ที่ดูแลด้านกฎหมายการแบนห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ พรรคภูมิใจไทยที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุข หรือแม้แต่พรรคกล้า และ ส.ส. หลายท่านของพรรคก้าวไกล ที่ออกมาสนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ให้นำข้อมูลตรงนี้ไปพิจารณาด้วย”