“พรรคกล้า” ทำบุญครบ 2 ปี “กรณ์” ย้ำเดินหน้าการเมืองคุณภาพ ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว ลั่นไม่ได้เป็นพรรคสำรองของใคร พร้อมเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ที่ทำการพรรคกล้า ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม จตุจักร กทม. พรรคกล้า จัดงานทำบุญครบรอบ 2 ปี วันก่อตั้งพรรค โดยทำบุญทำพิธีศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ โดยมีผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากภาคต่างๆ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ก. และผู้สนับสนุนพรรค มาร่วมงานจำนวนมาก

โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันดี เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันครบรอบวันจดทะเบียนชื่อพรรค เป็นวันเริ่มต้นเส้นทางทำงานการเมืองคุณภาพ เวลาผ่านไป 2 ปี พรรคกล้ามีโอกาสช่วยเหลือประชาชน ทำภารกิจสำคัญให้กับบ้านเมืองมากมาย ทั้งที่ยังไม่มีใครมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้พิสูจน์ตัวเองในสนามการเมืองมาหลายสนาม จึงมีความพร้อม ความมุ่งมั่นตั้งใจ และใกล้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะมีโอกาสได้เสนอแนวความคิดและตัวบุคลากรคุณภาพ ให้ประชาชนมีโอกาสได้เลือก ในสนามเลือกตั้งใหญ่ที่คิดว่าจะมาถึงในอีกไม่ช้า

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า พรรคกล้ายึดหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะความเป็นชาติคือสังคมต้องเข้มแข็ง ความขัดแย้งทั้งหมดที่ผ่านมา ต้องก้าวข้ามให้ได้ เศรษฐกิจต้องเข้มแข็ง ซึ่งวันนี้ประชาชนสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง และหลักการที่พรรคฯ ยึดถือมาตลอดคือหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย ยอมรับในความเป็นอิสระส่วนบุคคล ที่จะคิดจะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้อื่น ไม่มีผลกระทบในแง่ลบต่อสังคม ยอมรับความแตกต่างความหลากหลาย ยึดหลักเสียงข้างมากแต่ต้องให้เกียรติเสียงข้างน้อย

แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรื่องนี้ขาดหายไปจากการเมืองไทย และทำให้เราติดกับดักความขัดแย้ง ทำให้ประเทศชาติไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ส่วนหลักการปฏิบัติ เรามุ่งมั่นลงมือทำ ด้วยหลักปฏิบัตินิยม อยู่บนโลกความเป็นจริง เอาผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง โดยเป้าหมายหลักคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ส่วนเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน คือการให้ความสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ตอบโจทย์ปัญหาความท้าทาย ทั้งหมดนี้คือแนวความคิดความตั้งใจของพรรคฯและนโยบายทั้งหมดที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชน

ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายกรณ์ กล่าวว่า เป้าหมายพรรคฯตอนนี้อยู่ที่สนามเลือกตั้งใหญ่เป็นหลัก เพราะรัฐบาลยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อใด ดังนั้นในวันที่รัฐบาลมีความชัดเจน พรรคกล้าก็จะมีความชัดเจน ซึ่งตนพูดเรื่องนี้มาโดยตลอดว่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือเลือกตั้งใหญ่ก่อน แต่พรรคกล้าก็มีการเตรียมชุดความคิดในแง่นโยบายว่าอยากจะทำงานให้คนกรุงเทพฯ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวกรุงเทพฯให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ทำมาหากินโดยสะดวก มั่นใจว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญมากในการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองในฝันของพวกเราทุกคน

สำหรับการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งสนามใหญ่นั้น นายกรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนรอคอยการแก้ไข แต่ดูเหมือนรัฐบาลขาดสมาธิ ขาดความคิดใหม่ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน สถานการณ์รอบตัวลักษณะนี้ อดคิดไม่ได้ว่าการเลือกตั้งอาจจะเร็วกว่าที่คิดก็ได้ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเดือนนี้หรือเดือนหน้า ก่อนหรือหลังเดือนพฤษภาคม ปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ตาม มีเวลาเหลืออีกไม่มาก ซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา สะท้อนว่าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง และบ่งบอกว่าพรรคกล้ามาถูกทางแล้ว ที่นำเสนอทางเลือกใหม่และว่าที่ผู้สมัครคนใหม่ ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดคือสิ่งที่สังคมต้องการ

นายกรณ์  กล่าวถึงการวางเป้าหมายส่งผู้สมัครส.ส.ว่า ด้วยกติกาการเลือกตั้งและความเป็นพรรคการเมืองใหม่ การส่งผู้สมัครส.ส.ลงทุกเขตคงเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นก็จะเลือกเขตที่มองว่ามีโอกาส มีผู้สมัครที่พร้อม และเป็นผู้สมัครที่มีชุดความคิดตรงกับอุดมการณ์ของพรรคชัดเจน ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเราไม่ดันทุรังส่งผู้สมัครที่ไม่พร้อม แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ประเมินถึงจำนวนว่าจะส่งผู้สมัครส.ส.เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าพรรคกล้าจะเข้าไปเป็นส่วนสำคัญ ในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลรอบหน้า ขอย้ำว่าพรรคมีความตั้งใจเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ได้ตั้งพรรคมาเพื่อเป็นพรรคสำรองของใคร และจะเสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวต่อว่าช่วงที่ผ่านมาความเดือดร้อนของประชาชนชัดเจน แต่ประชาชนมีความรู้สึกว้าเหว่ มีความรู้สึกว่ารัฐบาลขาดความคิดหรือสมาธิมาใส่ใจแก้ปัญหา เมื่อวันก่อนคณะของพวกเราที่กรุงเทพฯ ลงไปพบปะพี่น้องประชาชนเรื่องหนี้สิน ถือเป็นปัญหาหนักมากทั่วประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ โควิดโอกาสทำมาหากินไม่มี ค่าใช้จ่ายไม่ลดลง

สิ่งที่ตามมาก็คือหนี้สินที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมก็ยาก ต้องหันไปพึ่งนายทุนนอกระบบ แต่อัตราดอกเบี้ยโหดมาก ประชาชนไม่สามารถอยู่ได้ เพราะเหตุนี้ประชาชนถึงมองว่าถึงเวลาเปลี่ยนได้หรือยัง ถึงเวลาที่จะมีคณะบุคคล ที่มีแนวความคิดความตั้งใจและสมาธิในการทำงานตามภารกิจที่มอบหมาย และยิ่งเห็น ส.ส.ในสภาฯ เข้าประชุมบ้างไม่เข้าประชุมบ้าง ยิ่งทำให้ประชาชนเสียกำลังใจ อดมีคำถามไม่ได้ว่า ส.ส.ทั้งหมดที่เลือกมาเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่ต้องมีการเมืองคุณภาพ ถึงเวลาที่ประชาชนต้องมีทางเลือกใหม่แล้วอ