'กอบศักดิ์' ชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงในโลกเศรษฐกิจ หากเหตุ 'รัสเซีย-ยูเครน-พันธมิตร' ปะทุ!!

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กถึงปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจหากเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ว่า ...

ถึงเวลาที่เราต้องคิดเรื่อง Plan B ในกรณีของยูเครน !!!

ไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้ง ไม่อยากให้เกิดสงคราม อยากให้มีทางลงสวยๆ ที่ทุกคนตกลงยอมความกันได้ 

แต่จากสัญญาณต่างๆ ที่ออกมา ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

1.) การอพยพคนออกจากยูเครนของสถานทูตต่างๆ ซึ่งล่าสุด อิสราเอล ที่มีหน่วยข่าวกรองดีที่สุดประเทศหนึ่ง กำลังเร่งนำคนอิสราเอลออกยูเครนภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ เช่นกัน 

2.) การเคลื่อนไหวของกองทัพและยุทโธปกรณ์ของรัสเซียรอบๆ ยูเครน

3. การประชุมล่าสุด 62 นาทีระหว่างประธานาธิบดี Biden และ Putin ก็ไม่ได้มี breakthrough ซึ่งส่งผลอะไรที่จับต้องได้ในเชิงการเปลี่ยนใจ แต่ได้เป็นโอกาสในการส่งสัญญาณเตือนตรงๆ ว่า US will react decisively and impose swift and severe costs if Russia invade Ukraine.  

ทั้งหมดหมายความว่า เราควรจะเตรียมคิดไว้เบื้องต้นว่า จะต้องปรับตัวอย่างไร หากสถานการณ์ที่ยูเครนลุกลามมากขึ้น

สิ่งที่จะตามมาในเชิงเศรษฐกิจ ที่เราต้องรับมือ เมื่อปัญหาเริ่มลุกลามขึ้น คือ

1.) ความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งในส่วนหุ้น และ สินทรัพย์ทางเลือก

2.) ราคาน้ำมันและราคา Commodities บางตัวที่จะเพิ่มขึ้น (น้ำมันอาจจะทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล) จากการที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในน้ำมัน ก๊าซ ที่ยุโรปพึ่งพา และเป็นแหล่งผลิตสินค้า Commodities บางตัว เช่น พาลาเดี่ยม ที่จะมีนัยไปถึงการผลิต Chip ในตลาดโลก  

ทั้งหมดนี้ จะมีผลต่อเนื่องไปยังปัญหา Global supply disruption รวมทั้ง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ 

3.) การไหลเวียนของ Fund Flows ในโลกไปยัง Safe Haven ต่างๆ ทั้งในส่วนของ ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะ ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีความลึกมีสภาพคล่องที่ดี และจะส่งผลไปถึงค่าเงินดอลลาร์ต่อไป

ทั้งหมดนี้ จะผันผวนแค่ไหน ปรับตัวลึกเท่าไร กระทบกับเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ท่านผู้นำประเทศสำคัญต่างๆ จะเลือกเดิน ซึ่งมีนัยไปถึงความรุนแรง ความลุกลาม และความยาวนานของสถานการณ์เผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจเหล่านี้ 

แต่ก็หวังใจว่า จะไม่ลุกลามไปไกลสุดกู่ เพราะเมื่อ 2 วันที่แล้ว ในการสัมภาษณ์กับ NBC ท่านประธานาธิบดี Biden กล่าวว่า ไม่ว่าในกรณีใดใด สหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปที่ยูเครน เพื่อไปนำคนสหรัฐออกมา เพราะว่าการทำดังกล่าว จะนำไปสู่สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาที่สุด คือ การต่อสู้ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย .... "That's a world war — when Americans and Russians start shooting at one another, we're in a very different world than we've ever been in." ซึ่งก็ช่วยทำให้เห็นว่า อย่างน้อยฝ่ายสหรัฐจะพยายามไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจนเกินแก้

ก็ได้แต่หวังว่า สุดท้ายแล้ว ทุกฝ่ายจะใช้โค้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ ในการเดินออกจากปัญหา (ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ทุกคนรวมถึงตลาดก็จะหายใจโล่งขึ้น)

ซึ่งในระหว่างที่เขายังตกลงกันไม่จบ เราก็ควรคิดแผน Plan B ไปพลางๆ ก่อน จะได้พร้อมรับทุกกับทุกสถานการณ์ 

ตามคำที่เขาชอบพูดกันว่า 

Hope for the best but be prepared for the worst ครับ

#เรียนรู้เศรษฐกิจกับดรกอบ #ผลกระทบจากปัญหายูเครน


ที่มา : https://www.facebook.com/1044766528/posts/10223163736175479/