“รองโฆษกรัฐบาล” เผย รัฐจัดสินเชื่อดอกเบี้ยตำ่ ช่วยผู้ประกอบการ ใช้ประโยชน์จากสมาชิกRCEP ผลักดันส่งออก หลังยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าไทย  3.9 หมื่นรายการ 

นางรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนให้ภาคเอกชน ใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP ที่มี15 ประเทศสมาชิก ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา 

โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการในหลายด้าน คือ สร้างความเข้าใจกฎเกณฑ์ทางการค้าต่างแก่ผู้ประกอบการ ช่วยวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ชี้แนะแนวทางพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด RCEP ส่วนกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน

ทั้งนี้ประเทศไทย จะได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม จากการช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โอกาสส่งออกสินค้าและบริการ เกษตรกรไทยมีโอกาสขายสินค้าเกษตรได้เพิ่มขึ้น ด้านผู้บริโภคจะมีทางเลือกซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลาย นอกจากนั้นส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญของภูมิภาค โดยประเทศสมาชิก จะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย จำนวน 39,366 รายการ ลดภาษีเหลือ 0% ทันที จำนวน 29,891 รายการ

อาทิ ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง น้ำผลไม้ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ส่วนประกอบ เพิ่มโอกาสทางการส่งออกให้กับสินค้าไทย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากกฎถิ่นกำเนิดสินค้า เป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้วัตถุดิบของประเทศสมาชิก สินค้าไทยที่จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น อาทิ อาหารปรุงแต่ง อาหารสัตว์เลี้ยง รองเท้า เหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก ปลาทูน่ากระป๋อง ที่ไทยนำเข้าวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากแหล่งนอกภูมิภาค สามารถผ่านเกณฑ์ถิ่นกำเนิดและได้รับสิทธิ์การลดภาษีนำเข้าได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับความตกลง FTA อื่นๆ ก่อนหน้า

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ประกอบธุรกิจส่งออกหรืออยู่ในห่วงโซ่อุปทาน ที่เกี่ยวข้องในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม  ที่เน้นส่งออกไปยังประเทศสมาชิกRCEP หากต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM BANK )ออกบริการ “สินเชื่อเอ็กซิมลุยตลาด RCEP” คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ในปีแรก วงเงินสูงสุด 50 ล้านบาท โดยสามารถใช้หนังสือค้ำประกันบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกับบุคคล นิติบุคคลค้ำประกัน เป็นหลักประกันร่วมได้กรณีกู้เงินไม่เกิน 5 ล้านบาท แถมวงเงิน Forward Contract สูงสุด 1 เท่าของวงเงินสินเชื่อ เป้าหมายวงเงินสนับสนุนรวม 3,000 ล้านบาท  ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้ถึง 29 ก.ค.นี้ 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความตกลง RCEP เป็นความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นโอกาสของเกษตรกร ผู้ประกอบการทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร ที่จะส่งออกได้มากขึ้น นำรายได้เข้าประเทศอีกมหาศาล จึงอยากเชิญชวนให้เร่งใช้ประโยชน์จากความตกลงนี้ เริ่มจากการทำความเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศสมาชิก และศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนช่องทางการจำหน่ายทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งทางกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการทุกราย เรื่องการใช้สิทธิประโยชน์ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ โทร. 1385 หรือไลน์แอปพลิเคชัน @gsp_helper