'รองโฆษกรัฐบาล' เผย สิทธิ์ทัวร์เที่ยวไทย เหลือกว่า 168,000 สิทธิ์ ชวน นทท.เที่ยว-บริษัททัวร์ ร่วมโครงการ ด้าน “นายกฯ”ย้ำ เข้มงวดมาตรการคุมโรค

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล ขยายระยะเวลาโครงการทัวร์เที่ยวไทย ไปสิ้นสุด ในเดือนพ.ค.นี้ ขณะนี้ระบบเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนซื้อรายการนำเที่ยว บริษัทนำเที่ยวรายเดิมเริ่มส่งรายการนำเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวรายใหม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้แล้ว จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ และผู้ประกอบการนำเที่ยวเข้าร่วมโครงการ  

โดยประชาชนสามารถดำเนินการขอรับสิทธิตามโครงการผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ และสามารถตรวจสอบแพ็คเกจท่องเที่ยวของบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ที่แบ่งกลุ่มให้เลือก 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม silver เป็นแพ็คเกจทัวร์ราคาถูก กลุ่ม Gold แพ็คเกจทัวร์ราคาปานกลาง และกลุ่ม Platinum แพ็คเกจทัวร์ราคาสูง ขณะที่ผู้ประกอบการนำเที่ยวรายเดิม สามารถยื่นรายการนำเที่ยว ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและศึกษารายละเอียดขั้นตอนและหลักเกณฑ์ตามโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย โดยข้อมูลถึงวันที่ 9 ก.พ.นี้ เหลือสิทธิตามโครงการกว่า 168,000 สิทธิ จากที่รัฐบาลให้สิทธิ 2 แสนสิทธิ  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสิทธิตามโครงการนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนส่วนลดค่าแพ็คเกจท่องเที่ยวในประเทศให้ประชาชนผู้ร่วมโครงการ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ ให้ 1 สิทธิต่อคน รวมทั้งหมด 2 แสนสิทธิ โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่สามารถใช้แพ็คเกจท่องเที่ยวของโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเวลาเดียวกับการเข้าพักโรงแรม ที่พักของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ได้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับว่าเนื่องจากขณะยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เข้มงวดในเรื่องของการกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวภายใต้โครงการฯ และกำกับให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยวตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด โดย

นายกฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความแออัดของนักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่สนใจ เช่นกรณีอุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมถ้ำนาคาเป็นจำนวนมากและมีการตกค้างในพื้นที่ท่องเที่ยวในบางช่วงเวลา โดยให้ใช้ระบบการจอง ปรับกำหนดการเปิด-ปิด เช่นอาจมีการเปิดให้เข้าเช้าขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการตกค้างในพื้นที่อุทยานหลังเวลาปิดทำการ   

นอกจากนั้นให้กำกับเจ้าหน้าที่ บริษัทนำเที่ยว นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามข้อกำหนดของอุทยาน ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมากที่สุดเนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานนั้นเป็นภูเขาสูงชัน อาจเกิดอุบัติเหตุได้  เพิ่มการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเต็ม เพื่อดึงดูดให้เกิดการเที่ยวในประเทศ กระจายรายได้สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลให้เกิดความสมดุลระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน