เร่งแก้หนี้ระบบสหกรณ์ พร้อมตั้งเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 3% 

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินราชการในภาคสหกรณ์ ว่า เร็ว ๆ นี้ กรมฯ เตรียมออกประกาศฉบับใหม่เพื่อกำหนดเพดานดอกเบี้ยเงินฝากให้ไม่เกิน 3.5% ซึ่งเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแบบขั้นบันไดที่มีการปรับลงมาจากที่อัตรา 4.5% ลงมาที่ 4% และ 3.5%  ตามลำดับ เพื่อลดต้นทุนของแต่ละสหกรณ์ที่มีภาระผูกพันจากกการรับฝากเงินจากสหกรณ์อื่น ซึ่งรับฝากมาใช้เป็นทุนธุรกิจด้วยเช่นกัน สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น ได้แนะนำให้กำหนดเพดานไว้ว่าต้นทุนเท่าไหร่บวกได้ไม่เกิน 3% เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของสมาชิก 

ส่วนกรณีรายได้ของสมาชิกหลังหักหนี้ต้องเหลือไม่น้อยกว่า 30% นั้น เป็นประเด็นที่กรมฯ ได้หารือกับทุกภาคส่วนเห็นตรงกันว่าจำนวนดังกล่าวเพียงพอต่อการดำรงชีพ และไม่ควรหักลดน้อยลงไปต่ำกว่านี้  ถือเป็นสาระสำคัญที่บรรจุอยู่ในร่างกฎกระทรวงที่รอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  เสนอร่างที่กฤษฎีกาตรวจสอบแล้วให้กับที่ประชุมครม.เห็นชอบเพื่อนำออกมาประกาศใช้ 

“ได้เสนอว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือเร่งด่วนระหว่างรอกฎกระทรวงฉบับนี้  รัฐบาลควรมีกฎหรือระเบียบให้กระทรวงการคลังสั่งให้กรมบัญชีกลางกำหนดให้ส่วนราชการหักเงินเดือนข้าราชการที่มีภาระหนี้ผูกพันไว้ ต้องให้เหลือติดบัญชีไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะมีอานิสงส์ดูแลเรื่องรายได้ส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายของข้าราชการทุกภาคส่วน”

สำหรับร่างกฎกระทรวงเรื่องการบริหารจัดการและกำกับทางการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ...  ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง หลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเสร็จ ซึ่งหากครม.เห็นชอบ กระทรวงจะประกาศเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป สาระสำคัญในร่างนั้น เช่น เรื่องการกำกับเรื่องการให้เงินกู้การให้สินเชื่อ ที่กำหนดว่าสหกรณ์จะให้กู้ในวัตถุประสงค์ใดได้บ้าง