“มะห์ซูหรี่” (Mahsuri) ตำนาน!! ‘คำสาปแห่งลังกาวี’
ผู้อ่านจาก Facebook ดร.โญ มีเรื่องเล่า ‘คุณแจ็คกี้ มวยไทย’ เขียน In Box มาว่า “อยากให้อาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับสงครามประวัติศาสตร์หน่อยครับ ถึงตำนานแต่ละที่ของประวัติศาสตร์ เช่น คำสาปของเกาะลังกาวี ครับ” ซึ่งผมก็จัดให้เลย และขอมาเล่าเรื่องราวนี้ผ่าน THE STATES TIMES ก่อนนะครับ…
ลังกาวี (Langkawi) หรือ "ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์ (Kedah หรือไทรบุรีของราชอาณาจักรสยาม/ไทยในอดีต)" (Langkawi Permata Kedah) เป็นเกาะในทะเลอันดามัน ใกล้ฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียตะวันตก ขึ้นกับรัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซีย
ลังกาวี ตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองกัวลาปะลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเกอดะฮ์ 51 กิโลเมตร ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเขตร้อนจำนวน 99 เกาะ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและมาเลเซียจากตำนานของ มะห์ซูหรี่ สตรีผู้ถูกประหารด้วยความอยุติธรรม โดยนางได้สาปแช่งเกาะลังกาวีไว้ก่อนสิ้นใจ และรัฐบาลมาเลเซียต้องนำทายาทรุ่นที่ 7 ของเธอมาถอนคำสาป
"ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์ (Kedah หรือไทรบุรีของราชอาณาจักรสยาม/ไทยในอดีต)" (Langkawi Permata Kedah)
ชื่อของเกาะลังกาวี โดย "ลัง" ย่อมาจากคำว่า "ฮลัง" (Helang) ที่แปลว่า "นกอินทรีสีน้ำตาลแดง" ส่วนนาม "ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์" นั้นได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอับดุล ฮาลิม อันเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกส่วนพระองค์ โดยตั้งนามเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวว่า ลังกาวีเป็นส่วนหนึ่งของรัฐ Kedah
กล่าวว่าคำว่า 'ลังกาวี' มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรลังกาสุกะ 'Langgasu' ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่รัฐ Kedah ในปัจจุบัน ซึ่งเอกสารทางประวัติศาสตร์มีน้อยมาก อย่างไรก็ตามย้อนหลังไปถึง 500 ปีก่อนคริสตกาล ตามบันทึกของราชวงศ์เหลียง อาณาจักรนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษแรกเมื่อกษัตริย์ฮินดู บากัตตา ถวายส่วยจักรพรรดิจีนในสมัยนั้น ชื่อของกษัตริย์ปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในตำนานและเทพนิยายมาเลย์ 'ลังกาวี' จึงหมายถึงอาณาจักรของ 'Langgasu' ที่จัดตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 1
มีการอ้างอิงชื่อเกาะอื่นในหนังสือ The Legends of Langkawi โดย Tun Mohamed Zahir บอกว่า 'ลังกาวี' เป็นการรวมกันของคำภาษาสันสกฤตสองคำคือลังกา (ความงาม) และวี (นับไม่ถ้วน) ตามหนังสือลังกาวี หมายถึงสถานที่แห่งความงามอันยิ่งใหญ่ ข้อมูลอ้างอิงอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ลังกาวีหมายถึงเกาะนกอินทรี ตามนั้น คำว่าลังกาวีเป็นการรวมกันของคำสองคำคือ ‘ลัง’ และ ‘กาวี’ โดยที่ 'ลัง' มากจากคำว่า 'Helang' ในภาษามาเลย์ ซึ่งแปลว่านกอินทรี ส่วน ‘กาวี’ ก็มาจาก 'Kawi' ภาษามาเลย์เช่นกัน แปลว่า หินอ่อน เนื่องจากมีการพบทั้งนกอินทรีและหินอ่อนมากมายในลังกาวี สถานที่แห่งนี้จึงอาจได้รับการตั้งชื่อตามข้อเท็จจริง โดยจัตุรัสนกอินทรีที่เกาะนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงชื่อเกาะตามความหมายนัยนี้
แสตมป์สามอัฐ และสี่อัฐประทับตรา Kedah แสดงให้เห็นว่า Kedah (ไทรบุรี) เคยเป็นของสยาม
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมือง สรุปได้ว่า สุลต่าน Kedah เคยปกครองเกาะนี้ ต่อมา Kedah (ไทรบุรี) ถูกสยามยึด ลังกาวีก็ตกไปอยู่ในมือของสยามผู้ปกครอง และด้วยข้อตกลงตามสนธิสัญญาแองโกล-สยาม พ.ศ. 2452 สยามได้โอนอำนาจการปกครองไปให้แก่อังกฤษ ซึ่งยึดครองรัฐนี้เอาไว้จนมาเลเซียได้รับอิสรภาพ ไม่รวมระยะเวลาสั้น ๆ ของการปกครองไทยภายใต้การยึดครองมลายูของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อิทธิพลของไทยยังสามารถเห็นได้ในวัฒนธรรมและอาหารของลังกาวี อันที่จริงแล้ว คนมาเลย์เชื้อสายไทยจำนวนมากบนเกาะนี้ก็เข้าใจภาษาไทยเช่นกัน
มะห์ซูหรี่จึงบอกให้ฆ่าเธอด้วยกริชอาคมของครอบครัว
ตำนานคำสาปแห่งลังกาวี ตามตำนานเล่าว่า มะห์ซูหรี่ (Mahsuri) เป็นธิดาคนที่สามของสามีภรรยาชาวไทยเชื้อสายมลายูที่อพยพมาจากภูเก็ต (Negeri Pulau Bukit) ในสมัยของสุลต่านอับดุลลาห์ มูการ์รัม ชาห์ที่ 2 ผู้ปกครองรัฐ Kedah ระหว่างปี พ.ศ. 2305 ถึง 2343 (ค.ศ. 1762 ถึง 1800) มะห์ซูหรี่เป็นหนึ่งในหญิงที่สวยที่สุดในลังกาวี และได้แต่งงานกับรองสุลต่านที่ชื่อว่า วันดารุส (Wan Darus) น้องชายของ Dato Pekerma Jaya น้องชายของสุลต่านผู้ปกครองเกาะลังกาวี แต่ในเวลาอันไม่นานชีวิตอันสวยงามของพวกเขาก็ต้องจบลง ด้วยวันดารุสต้องออกไปรบกับสยาม ระหว่างที่สามีไม่อยู่ มะห์ซูหรี่บังเอิญได้รู้จักกับเดรามัน (Deraman) ชายหนุ่มคนหนึ่ง ทำให้แม่สามี (บ้างก็ว่า พี่สะใภ้ของสามี ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน) ของเธออิจฉาความงามที่เลื่องลือของมะห์ซูหรี่ จึงถือโอกาสที่จะกำจัดเธอ ด้วยการปล่อยข่าวลือว่า มะห์ซูหรี่ไม่ซื่อสัตย์ นอกใจต่อวันดารุส สามีของเธอ โดยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเดรามัน
ด้วยเหตุนี้ ข่าวลือจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เรื่องนี้ทำให้เธอถูกชาวบ้านทั้งหมดกล่าวหาว่า ลักลอบมีประเวณีกับชายอื่น และถูกตัดสินประหาร มะห์ซูหรี่ปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่ไม่มีใครยอมเชื่อเธอเลย ดังนั้นมะห์ซูหรี่จึงถูกจับมัดไว้กับต้นไม้ (หรือเสา) มะห์ซูหรี่ได้อธิษฐานว่า “หากนางไม่มีความผิด ขอให้โลหิตที่หลั่งออกมาเป็นสีขาวและไม่หลั่งลงพื้นดิน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง” และ “สำหรับความอยุติธรรมนี้ จะไม่เกิดสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองบนเกาะแห่งนี้ นานถึงเจ็ดชั่วอายุคน” แต่เมื่อเพชฌฆาตลงคมกริชประหาร คมของกริชนั้นกลับไม่ระคายผิวนางเลย หลังจากที่ความพยายามในสังหารเธอทุกครั้งประสบความล้มเหลว เมื่อเป็นเช่นนี้นางจึงบอกกับเพชฌฆาตให้ไปนำกริชอาคมพิเศษของต้นตระกูลจากบ้านของนางมา และเมื่อเพชฌฆาตใช้คมกริชอาคมพิเศษจรดลงไปบนคอของนาง โลหิตสีขาวก็พวยพุ่งขึ้นข้างบนราวกับเป็นร่มโดยไม่ตกลงบนพื้นดินเลย เมื่อเธอถูกแทง เลือดสีขาวก็ไหลออกมาจากบาดแผลของเธอ และฝูงนกก็บินเข้ามาปกคลุมเธอทั้งตัว อันแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเธอ ด้านพี่ชายของมะห์ซูหรี่ เกรงว่าหลานชายวัย 5 เดือน ทายาทคนเดียวของมะห์ซูหรี่ จะมีภัย จึงนำลงเรือล่องมายังเกาะภูเก็ต และเริ่มตั้งรกรากที่นี่ โดยบุตรของนางเติบโตขึ้นในนามว่า “โต๊ะวัน”
หลุมศพ (กุโบร์) ของมะห์ซูหรี่บนเกาะลังกาวี
ปาดังมาตสิรัต (ซึ่งหมายถึง ‘ทุ่งข้าวไหม้’)
ชาวบ้านจำนวนมากในลังกาวีเชื่อว่า ตำนานดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และโศกนาฏกรรมในช่วงหลายทศวรรษหลังการเสียชีวิตของมะห์ซูหรี่ กองทัพสยามสามารถพิชิตรัฐ Kedah และบุกยึดลังกาวีเอาไว้ได้ โดยชาวบ้านจุดไฟเผาไร่นาพืชผลเพื่อหยุดยั้งการบุกของกองทัพสยาม หรือแทนที่จะปล่อยให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกองทัพสยาม จนถึงทุกวันนี้ตามตำนานเล่าว่า หลังจากฝนตกชุก จะเห็นร่องรอยของข้าวไหม้ที่ปาดังมาตสิรัต (ซึ่งหมายถึง 'ทุ่งข้าวไหม้') ที่อยู่ใกล้เคียง แต่ที่สุดแล้วลังกาวีก็ตกเป็นอาณานิคมของสยาม และอังกฤษในเวลาต่อมา
น.ส.ศิรินทรา ยายี (Wan Aishah)
หลังจากเจ็ดชั่วอายุคนผ่านไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ลังกาวีเจริญก็กลับมารุ่งเรืองในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว และความสำเร็จครั้งใหม่นี้ชาวลังกาวีเชื่อว่า เกิดจากการสิ้นสุดของคำสาปของมะห์ซูหรี่ ด้วยในปี พ.ศ. 2543 รัฐบาลมาเลเซียโดยบัญชาของ ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ติดตามหาผู้สืบเชื้อสายของมะห์ซูหรี่ (ด้วยครอบครัวของมะห์ซูหรี่ได้อพยพกลับไปยังภูเก็ต (Negeri Pulau Bukit) ซึ่งต่อมาก็ถูกยึดครองโดยสยาม และเปลี่ยนชื่อเป็นภูเก็ต และกลายเป็นชาวไทยเชื้อสายมาเลย์) และได้นำ น.ส. ศิรินทรา ยายี (Wan Aishah) สตรีชาวไทยที่สืบเชื้อสายทายาทรุ่นที่เจ็ดของมะห์ซูหรี่ มาทำการถอนคำสาป เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่า การนำ น.ส. ศิรินทรา ยายี (Wan Aishah) มาถอนคำสาปเป็นการยุติคำสาปเจ็ดชั่วอายุคนชองมะห์ซูหรี่ อย่างเป็นทางการ
ในปี พ.ศ. 2529 รัฐบาลมาเลเซียโดย ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรี ได้ริเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงเกาะลังกาวี ด้วยการพัฒนาให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและรีสอร์ต กอปรกับปีนังเสียสถานะเมืองปลอดภาษีโดยรัฐบาลมาเลเซียได้โอนย้ายสถานะดังกล่าวไปยังเกาะลังกาวี นับแต่นั้นมาเงินจำนวนหลายพันล้านริงกิตได้หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ และหมู่บ้านชาวประมงที่ครั้งหนึ่งเคยหลับใหล และทุ่งนาที่รกร้างว่างเปล่า ปัจจุบันกลายเป็นท่าเรือและรีสอร์ตที่ได้มาตรฐานระดับโลก
สิ่งที่อยากจะเล่าเสริมเพิ่มเติมให้ทราบคือ มาเลเซียไม่ได้ลังเลใจที่จะระบุเป็นข้อมูลในประวัติศาสตร์ว่า สยาม หรือไทยในปัจจุบันเคยเป็นผู้รุกรานและยึดเอาดินแดนส่วนหนึ่งของมาเลเซียไปเป็นอาณานิคม แล้วต่อมาก็ต้องเปลี่ยนมือไปเป็นของอังกฤษ ในขณะที่รัฐบาลไทยกลับระมัดระวังในเรื่องนี้จนกลายเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยทางอ้อม ซึ่งความจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ก็ต้องถือว่า เป็นความจริงวันยังค่ำ
การห่วงใยในเรื่องที่จะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบควรจะระวังในเรื่องที่เกิดขึ้นปัจจุบันมากกว่า ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบของเราไม่เคยสนใจว่า การบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของตนเองนั้นจะกระทบความสัมพันธ์กับบ้านเราหรือไม่ บางครั้งถึงกับบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อให้ฝ่ายตนมีความชอบ เป็นฝ่ายถูกก็มี
ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลต่อการรับรู้ความจริงทางประวัติศาสตร์ของเด็ก ๆ รุ่นใหม่ สำนึกในความรักชาติจึงอ่อนด้อยลง และถูกผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองเล่าความเท็จ ใส่สีตีไข่ จูงให้เชื่อในเรื่องราวที่ผิดและบิดเบือน ซึ่งจะเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติบ้านเมืองในอนาคต ดังนั้นการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ของชาติจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต่อความเข้าใจในประวัติศาสตร์ อันเป็นรากของชาติบ้านเมืองที่บ่งบอกถึงตัวตน และความเป็นมาของชนชาติไทยด้วยเรื่องราวของความเป็นรัฐชาติที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่พันปีมาจนกระทั่งปัจจุบันทุกวันนี้
แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ Blockdit : THE STATES TIMES
???? https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32