ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบว่า ยุโรประบาดหนัก คนป่วยหนัก เสียชีวิตเพิ่มสูง ไทยจะเป็นอย่างไร? 

สถานการณ์ของไทย หากต้องเจอกับการระบาดระลอกใหม่ จะเป็นอย่างไร อาจดูสัญญาณจากอังกฤษ ซึ่ง Pascal Soriot CEO ของ AstraZeneca ได้ให้สัมภาษณ์ BBC เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า แม้สถานการณ์ในยุโรปจะระบาดหนัก รวมถึงในอังกฤษเอง แต่อังกฤษกลับมีผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรป 

เหตุผลคือ เขาเชื่อว่าวัคซีน AstraZeneca สามารถปกป้องผู้สูงอายุได้นานกว่าวัคซีน mRNA ทำให้ไม่ป่วยหนักและเสียชีวิต

โดย Soriot ได้อธิบายว่า ประชาชนใน UK ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จะฉีดวัคซีน AZ แต่ในยุโรป ในช่วงแรก ๆ เกิดกระแสความเชื่อว่า วัคซีนไวรัลเวกเตอร์นั้นกระตุ้นภูมิได้ไม่ดีเท่า mRNA โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่กระตุ้นภูมิยาก ทำให้รัฐบาลในยุโรปหลายประเทศเลือก mRNA โดยเฉพาะไฟเซอร์ให้กับผู้สูงอายุ

แต่การศึกษาในภายหลังพบว่า วัคซีน mRNA แม้จะกระตุ้นภูมิได้สูงกว่า เร็วกว่า แต่ภูมิก็ตกเร็วกว่าเช่นกัน โดยวัคซีน AZ นั้นต้องใช้เวลามากกว่าในการกระตุ้น T Cell แต่โดยรวมแล้ว สามารถกระตุ้น T Cell ได้ดีกว่าและอยู่ได้นานกว่าวัคซีน mRNA โดยมีผลการศึกษาพบว่าหลังเดือนที่ 4 ไปแล้ว ภูมิคุ้มกันของ AZ จะเหลือสูงกว่าไฟเซอร์ (แต่ยังไม่เคยเปรียบเทียบกับ MD) เพราะภูมิจาก PZ จะขึ้นเร็วลงเร็วกว่า 

ซึ่งถ้าข้อสมมติฐานของคุณ CEO AZ นี้ถูกต้อง ไทยเราก็อาจจะเบาใจได้ในระดับหนึ่ง สำหรับการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ ว่าถึงจะติด แต่อัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง อาจจะไม่มากเท่ากับที่ยุโรป และหวังว่าจะไม่ต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะวัคซีนที่เราฉีดให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงเกือบทั้งหมด จะเป็นตัวใดไปไม่ได้ นอกจาก...AZ ม้าเต็งของเรา ที่ผลิตโดย SBS บริษัทของคนไทย มรดกจากพ่อนั่นเอง 

#เขียนในฐานะประชาชนที่รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
https://www.politico.eu/article/astrazeneva-coronavirus-vaccine-protect-older-people-longer-than-mrna/