ขยายกรอบชดเชยมาตรา 28 เพิ่ม 1.5 แสนล. จ่ายเงินประกันรายได้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการขยายกรอบอัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นเป็น 35% เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับปีงบประมาณ 65 เพื่อเปิดเป็นวงเงินให้สำหรับโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล 

“เหตุผลที่ต้องขยายกรอบครั้งนี้ เพราะวงเงินภายใต้กรอบอัตรายอดคงค้าง ณ วันที่ 19 พ.ย.64 มีวงเงินคงเหลือเพียง 5,360 ล้านบาท ไม่เพียงพอกับการดูแลโครงการประกันรายได้ ดังนั้นเมื่อขยายกรอบเพิ่มขึ้นมาอีก 5% จะมีวงเงินเพิ่มได้อีก 1.55 แสนล้านบาท รวมเป็น 160,360 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอกับโครงการประกันรายได้ โดยเฉพาะโครงการที่รอการอนุมัติในส่วนที่ 2 ทั้งการประกันรายได้ข้าว และยางพารา เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินจากโครงการประกันครบทั้งหมด  และเมื่อผ่านการเห็นชอบแล้ว คาดว่า ในเดือนธ.ค.นี้ ธ.ก.ส.จะเร่งจ่ายเงินได้แล้วเสร็จสิ้นภายในฤดูเก็บเกี่ยวนี้”

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ยังได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ หารือกับกระทรวงการคลัง พิจารณาจัดทำโครงการประกันรายได้พืชผลการเกษตรจากนี้ไป ให้บรรจุไว้ในพ.ร.บ.งบประมาณปกติ เพื่อไม่ให้เป็นสะสมเป็นภาระการเงินการคลังตามมาตรา 28 เพราะการดำเนินการตามมาตรา 28 ไม่ใช่มีวัตถุประสงค์เพียงแค่การสนับสนุนโครงการประกันรายได้พืชผลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินด้วย เช่น มาตรการสินเชื่อของสถาบันการเงินของรัฐ ที่ใช้ช่วยเหลือประชาชนทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งการชดเชยการบริการสาธารณะต่าง ๆ ด้วย