Exercise Malabar 2021 ระยะที่สองพึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีการซ้อมรบร่วมของกองทัพเรือสี่ชาติ อันประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม สำหรับระยะแรก คือ 25-29 สิงหาคม พ.ศ. 2564 Exercise Malabar 2021 เป็นครั้งที่ 25 นับแต่ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2535 เป็นการซ้อมรบร่วมทางทะเลของชาติพันธมิตรที่ล้วนแล้วแต่มีความเป็นปฏิปักษ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน

Exercise Malabar เป็นการซ้อมรบทางทะเลของกองทัพเรือ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ในฐานะหุ้นส่วนถาวรด้านความมั่นคง Exercise Malabar ประจำแต่ละปี ประกอบด้วยการฝึกซ้อมปฏิบัติการทางทหารที่หลากหลาย ตั้งแต่การฝึกซ้อมปฏิบัติการรบจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ไปจนถึงปฏิบัติการป้องกันการปิดกั้นทางทะเล สงครามต่อต้านเรือดำน้ำ ปฏิบัติการกู้ภัยใต้น้ำ ปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ปฏิบัติการต่อต้าน - ปราบปรามโจรสลัด การฝึกลงจอดเฮลิคอปเตอร์บนเรือรบ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการฝึกทำในทะเลฟิลิปปินส์ นอกชายฝั่งของญี่ปุ่น อ่าวเปอร์เซีย ในอ่าวเบงกอล และทะเลอาหรับ

Exercise Malabar เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) ตามแนวชายฝั่ง Malabar ของอินเดีย ในตอนนั้นยังเป็นการฝึกซ้อมทวิภาคีระหว่างอินเดียกับสหรัฐอเมริกา ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 มี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เข้ามาร่วม ญี่ปุ่นกลายเป็นหุ้นส่วนถาวรของการฝึกนี้ในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ออสเตรเลียกลับเข้าร่วมการฝึกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) โดยจุดมุ่งหมายในการซ้อมรบจะรวมถึงการทำงานร่วมกันที่มากขึ้นระหว่างกองทัพเรือของชาติซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ Exercise Malabar

ห้วงการฝึกของ Exercise Malabar มีตั้งแต่ 1 ถึง 11 วัน ในภาคทะเล ความซับซ้อนของแบบฝึกหัดในการซ้อมรบเพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แบบฝึกหัดมีทั้งบนบก ในทะเล และบนอากาศ การซ้อมรบประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน (USS Nimitz, Kitty Hawk, Ronald Reagan, George Washington, John S. McCain, INS Vikramaditya, Viraat), เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (JS Kaga, Izumo, Ise, Hyūga), เรือรบ, เรือดำน้ำ (ดีเซลไฟฟ้าและนิวเคลียร์) เรือพิฆาต เรือขีปนาวุธนำวิถี เรือลาดตระเวน เรือสะเทินน้ำสะเทินบก และเรือสนับสนุนการรบ เช่น เรือบรรทุกน้ำมัน เรือยามชายฝั่ง เครื่องบินที่ร่วม ได้แก่ เครื่องบินปราบเรือดำน้ำ เครื่องบินลำเลียง เครื่องบินรบแบบต่าง ๆ อาทิ P3C Orion, Poseidon P8I, Tupolev Tu-142, Kawasaki P-1, ShinMaywa US-2, F/A 18 Super Hornets, Jaguars, Sea Harrier และเฮลิคอปเตอร์แบบ Sea King ตลอดจนกองกำลังพิเศษของชาติต่าง ๆ ที่เป็นหุ้นส่วนก็เข้าร่วมใน Exercise Malabar ด้วย

Exercise Malabar ครั้งแรกระหว่างอินเดียและสหรัฐอเมริกาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 เป็นการซ้อมรบตามแนวชายฝั่ง Malabar ของอินเดีย นครโคชิน อันเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการนาวิกโยธินเขตใต้ของอินเดีย ในระดับพื้นฐานด้วยเรือรบสี่ลำ มีการซ้อมรบอีกสองครั้งก่อนปี พ.ศ. 25441 (ค.ศ. 1998) และฝ่ายอเมริกันก็ระงับการฝึกหลังจากที่อินเดียได้ทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์

Exercise Malabar 1992 การฝึกครั้งแรก โดยกองทัพเรือ 2 ชาติ คือ  อินเดีย สหรัฐอเมริกา บริเวณชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย เรือรบอินเดียที่เข้าร่วมได้แก่ INS Gomati, INS Ranjit ฝ่ายเรือรบอเมริกันที่เข้าร่วม ได้แก่ USS Vandegrift, USS David R. Ray เป็นการซ้อมรบขั้นพื้นฐาน การฝึกซ้อมการค้นหาและกู้ภัย Exercise Malabar 1995 การฝึกครั้งที่สอง ระหว่างอินเดียและสหรัฐอเมริกา พื้นที่การฝึกบริเวณอ่าวเปอร์เซีย การฝึกครั้งที่ 3 Exercise Malabar 1996 ระหว่างอินเดียและสหรัฐอเมริกา พื้นที่การฝึกบริเวณชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย และระงับไปอันเนื่องมาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่พอใจต่อการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของอินเดีย

Exercise Malabar 2002 - 2007

เครื่องบินรบแบบ Jaguars ของกองทัพอากาศอินเดียคู่หนึ่งบินเคียงข้างคู่ของเครื่องบินรบแบบ Sea Harriers ของกองทัพเรืออินเดีย และเครื่องบินรบแบบ F/A-18 Super Hornets ของกองทัพเรือสหรัฐฯ บินเหนือเรือบรรทุกเครื่องบิน INS Viraat ในช่วง Malabar 2007

กองเรือโจมตี อันประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz และเรือบรรทุกเครื่องบิน INS Viraat เป็นส่วนหนึ่งของ Malabar 2005

ทหารอินเดียโดยกองพันที่ 9 ของหน่วยทหารราบซิกข์กำลังจดบันทึกระหว่างการฝึกใช้อาวุธขนาดเล็กบนเรือ USS Boxer ระหว่าง Malabar 2006

สหรัฐอเมริกากลับมาทำการฝึก Malabar อีกครั้งหนึ่งหลังจากการโจมตีเมื่อ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 (เหตุการณ์ 911) เมื่ออินเดียเข้าร่วมการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช การซ้อมรบในปี พ.ศ. 2546 Malabar 2003 นำเสนอการซ้อมรบแบบแบ่งย่อยเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2548 อินเดียและสหรัฐฯ ได้ลงนามในกรอบความร่วมมือและปฏิบัติการใหม่ในความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย การฝึก Malabar 2005 จึงได้เห็นการปฏิบัติการร่วมของเรือบรรทุกเครื่องบินจากกองทัพเรือทั้งสองชาติเป็นครั้งแรก และใน พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) นับเป็นครั้งแรกที่มีการซ้อมรบที่มีการสำรวจทางสมุทรศาสตร์ โดยมี United States Expeditionary Strike Group (ESG) เป็นผู้นำการฝึกซ้อม และใน Malabar 2007 เป็นครั้งแรกที่เรือบรรทุกเครื่องบินสามลำเข้าร่วม

เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz

ในปี พ.ศ. 2550 การเจรจาด้านความมั่นคงสี่เส้า ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มระหว่าง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอินเดีย ส่งผลกระทบต่อการฝึก Malabar ในปี พ.ศ. 2550 กำลังทางเรือที่ไม่ใช่เพียง อินเดีย และสหรัฐฯ เข้าร่วมการฝึกร่วมการฝึก ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 นอกจากนี้พื้นที่การฝึกยังเปลี่ยนจากมหาสมุทรอินเดียเป็นมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรกอีกด้วย พรรคแนวร่วมซ้ายของอินเดียได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์พลเรือนระหว่าง อินเดีย-สหรัฐฯ ได้มีประท้วงการซ้อมรบอย่างรุนแรงในอินเดีย โดยมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ จนมีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า รัฐบาลอินเดียต้องพิจารณาเลื่อนหรือยกเลิกการฝึกซ้อม แต่กองทัพเรืออินเดียเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบไปแล้ว โดยกล่าวว่า การขนส่งและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้ไม่สามารถเลื่อนหรือล่าช้าได้ มีการประท้วงต่อต้านเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz ในอินเดียเมื่อทอดสมอที่เมืองเจนไนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550

สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งไม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการซ้อมรบ Malabar แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า จีนไม่พอใจกับการซ้อมรบนี้ เนื่องจากจีนกำลังมีการปฏิบัติการในอ่าวเบงกอลเป็นครั้งแรก โดยจีนได้เริ่มความร่วมมือทางน้ำกับบังกลาเทศและเมียนมาร์ เพื่อเข้าถึงอ่าวเบงกอลและได้เสริมสร้างความร่วมมือทางทหารกับศรีลังกา ในเดือนมิถุนายนจีนได้เสนอ 'ความเห็นทางการเมือง' ให้กับอินเดีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมสี่เส้า ซึ่งเรียกว่าโครงการริเริ่มรูปสี่เส้า อินเดียและออสเตรเลียได้ให้ความมั่นใจกับปักกิ่งอย่างรวดเร็วว่า ประเด็นด้านความมั่นคงและการทหารไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวาระการประชุม

Exercise Malabar 2008 - 2014

กองเรือนานาชาติ Malabar 2009

ลูกเรือจาก USS Blue Ridge กองเรือที่ 7 ทำความสะอาด White Beach ในโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริการชุมชน Malabar 2009

ลูกเรือจาก USS Bunker Hill ทำงานร่วมกับชาวอินเดียเพื่อทำความสะอาดทะเลสาบระหว่างโครงการชุมชนสัมพันธ์ Malabar 2012

INS Shakti ฝึกปฏิบัติส่งของกับ USS Carl Vinson ในช่วง Malabar 2012

นายทหารจากกองทัพเรืออินเดียสังเกตการณ์ปฏิบัติการในศูนย์ข้อมูลการรบบนเรือ USS Bunker Hill Malabar 2012

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใน ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รวมทั้งการต่อต้านของจีน ส่งผลให้การฝึก Malabar 2008 มีขนาดเล็กลงมาก โดยมี อินเดียและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และดำเนินการฝึกเฉพาะในมหาสมุทรอินเดีย การประท้วงบางส่วนในอินเดียต่อต้านการซ้อมรบในปี พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) ซึ่งนำโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินเดีย ในขณะที่การฝึกซ้อมในปี พ.ศ. 2552 เป็นแบบไตรภาคี แต่อินเดียไม่ได้เข้าร่วมในการซ้อมรบสะเทินน้ำสะเทินบกในญี่ปุ่น อินเดียได้ยุติการให้ประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมในการซ้อมรบด้วย หลังจากที่ในปี พ.ศ. 2550 จีนได้ส่ง 'ความเห็นทางการเมือง' ไปยังชาติที่เข้าร่วมการซ้อมรบทางทะเลทั้ง 5 ชาติ ที่จัดขึ้นในอ่าวเบงกอลในปี พ.ศ. 2550 ด้วยการมีส่วนร่วมของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2552 โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ อินเดียจึงเห็นด้วยกับแนวคิดที่จะให้ กองกำลังป้องกันประเทศทางเรือ (JMSDF) เข้าร่วมการฝึก Malabar อีกครั้ง แต่แผ่นดินไหวและสึนามิที่โทโฮกุบนชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 ทำให้ญี่ปุ่นต้องถอนตัวออกจาก Exercise Malabar ในครั้งถัดมาซึ่งถูกกำหนดพื้นที่การฝึกบริเวณนอกชายฝั่งโอกินาว่า

Exercise Malabar 2015 - 2019

เรือรบ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และญี่ปุ่นในอ่าวเบงกอลระหว่างการฝึก Malabar 2017

เครื่องบินรบแบบ MIG-29K Fulcrum ของกองทัพเรืออินเดียขณะบินผ่านเหนือเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz

วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอินเดียเห็นพ้องต้องกันในแถลงการณ์ร่วมเพื่อยกระดับการฝึก Exercise Malabar อินเดียเชิญญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกที่อ่าวเบงกอล และญี่ปุ่นได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวร ในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) สหรัฐอเมริกาได้หยิบยกข้อเท็จจริงที่ว่าอินเดียได้ปฏิบัติการระดับ "ขั้นต่ำสุด" เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อม อย่างไรก็ตามต่อมาสหรัฐฯ ดูเหมือนเข้าใจถึงข้อจำกัดของอินเดีย ซึ่งสหรัฐฯ ก็ตอบสนองเช่นเดียวกัน สำหรับอินเดียสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Malabar เป็นการฝึกพหุภาคีคือ "การเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากร" เนื่องจากจำนวนการฝึกทวิภาคีทางทะเลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพิ่มมากขึ้น ทรัพยากรของกองทัพเรืออินเดียจึงมีความจำกัดอย่างมาก นอกจากนี้ ผลตอบแทนจากการฝึกซ้อมระดับนานาชาติดูเหมือนจะค่อย ๆ ลดลง มีการเสนอแนะให้จีน "เข้าร่วมสังเกตการณ์" ระหว่าง Exercise Malabar 

Exercise Malabar 2018 ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561 นอกชายฝั่งเกาะกวมในทะเลฟิลิปปินส์ เป็นการซ้อมรบครั้งที่ 22 และเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในดินแดนของสหรัฐอเมริกา การซ้อมรบแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน ระยะแรกภาคพื้นดินจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 10 มิถุนายนที่ฐานทัพเรือกวม และภาคทะเลตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 16 มิถุนายน จากรายงานข่าว อินเดียปฏิเสธไม่ให้ออสเตรเลียเข้าร่วมการฝึกเพื่อหลีกเลี่ยงท่าทีในการเป็นปฏิบัติการการซ้อมรบเพื่อต่อต้านจีน

Exercise Malabar 2020 - ปัจจุบัน

เฮลิคอปเตอร์แบบ MH 60R ออสเตรเลีย บินขึ้นจาก USS John S. McCain ใน Malabar 2020

เรือดำน้ำ INS Khanderi (S51) ของอินเดียขณะเข้าร่วม Malabar 2020 ในทะเลอาหรับเหนือ

เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikramaditya (R 33) ขณะเข้าร่วม Malabar 2020 ในทะเลอาหรับเหนือ

Malabar 2020 เป็นการฝึก "ไม่มีการสัมผัส เฉพาะภาคทะเลเท่านั้น" โดยคำนึงถึงการระบาดของ COVID-19 มีการตัดสินใจให้ออสเตรเลียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Exercise Malabar เพื่อสนับสนุนพื้นที่อินโดแปซิฟิกให้มีความเป็นเสรี เปิดกว้าง และยึดถือตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือทั้งสี่ชาติที่ได้ฝึกซ้อมรบร่วมกันในรอบ 13 ปี วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563 Stephen E Biegun รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า Exercise Malabar ควร "ทำให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น" และในบางจุดต้องมีความ "เป็นทางการ" ในเวลาที่เหมาะสม มีรายงานปรากฏใน Sunday Telegraph เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564 ระบุว่า ฝรั่งเศสวางแผนที่จะเข้าร่วมกับอีกสี่ประเทศในปี พ.ศ. 2564 และได้วางแผนซ้อมรบทางทะเลประจำปี Jeanne d'Arc ในรอบกิจกรรมนี้ แต่ด้วยข้อตกลง AUKUS ที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564 โดยสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร มีผลให้ออสเตรเลียล้มเลิกโครงการเรือดำน้ำที่ได้ว่าจ้างบริษัทฝรั่งเศสให้ดำเนินการ ฝรั่งเศสจึงประท้วงโดยไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางทหารดังกล่าว

เมื่ออินเดียเชิญออสเตรเลียเข้าร่วมการฝึก Malabar 2020 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ความเคลื่อนไหวนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนของประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ในระดับที่ China Daily กระบอกเสียงของรัฐบาลตำหนิรัฐบาลออสเตรเลียว่า "ส่งเรือรบในลักษณะที่เป็นการคุกคาม มุ่งเข้าสู่ประตูบ้านของจีน” อันเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก Exercise Malabar 2020 อย่างไรก็ตาม อินเดียและออสเตรเลียยังคงยืนหยัดในการเข้าร่วมการฝึก ซึ่งตรงกันข้ามอย่างมากกับในปี พ.ศ. 2550 เมื่อหลายประเทศที่เข้าร่วมการซ้อมรบทางเรือ Exercise Malabar ในที่สุดก็ต้องยอมถอนตัวเมื่อต้องเผชิญกับการประท้วงของจีน

ทหารจีนและอินเดียเผชิญหน้ากันบริเวณดินแดนลาดักห์

ด้วยแนวนโยบายต่างประเทศเชิงรุก ของประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ทำให้เกิดการรวมตัวของประเทศสมาชิกของพันธมิตรสี่ชาติเข้าด้วยกัน จากหลายปีที่มีการผลักดันให้ญี่ปุ่นอ้างสิทธิ์ในหมู่เกาะ Senkaku การคุกคามออสเตรเลียด้วยสงครามการค้า และการกล่าวถึงขีปนาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่ทำให้เชื่อว่า จีนมีขีปนาวุธดังกล่าวในทะเลจีนใต้ และจีนมีกรณีพิพาทกับอินเดียเมื่อทหารของกองทัพจีนในดินแดนลาดักห์ ทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างกันบริเวณชายแดนดังกล่าวที่ยืดเยื้อกว่า 6 เดือน

แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ Blockdit : THE STATES TIMES 
???? https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32