“เสี่ยโจ้” ซัด “ประยุทธ์” พูดใส่ร้าย “ยิ่งลักษณ์” จี้ตอบใช้หนี้ตอนไหน ตอกกลับเอางบใช้หนี้ซื้ออาวุธตัวเองสมัยเป็น ผบ.ทบ.หรือไม่ กวักมือชวน “เสี่ยหนู” ร่วมคว่ำร่างส่ง “บิ๊กตู่” กลับบ้าน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า งบประมาณปี 2565 จำนวน 3.10 ล้านล้าบาท อาวุธสงครามมาเพียบ แต่ไม่มีอาวุธฆ่าโควิดเลย การจัดงบประมาณไม่สอดคล้องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากรวมทั้งคนตาย แต่การจัดงบประมาณแทนที่จะให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาโควิด แต่กลับไปมุ่งเน้นงบด้านความมั่นคงของกองทัพ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ บอกใช้หนี้โครงการจำนำข้าว 7 แสนล้านบาทนั้น ตนเป็นรัฐมนตรีใน ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วย อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าไปใช้หนี้ตอนไหน ท่านเป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 58-65 ท่านใช้หนี้ประมาณ 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งเงินที่นำไปใช้เป็นค่าดอกเบี้ยที่กู้กันมา ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ใส่ร้าย พูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้อดีตนายกฯ เสียหาย ท่านใช้หนี้สมัยเป็น ผบ.ทบ.ที่ซื้ออาวุธไปเยอะหรือไม่ ถ้าไม่จริงขอให้ท่านมาตอบ
นายยุทธพงศ์ อภิปรายว่า การจัดงบ สธ.ไม่เพียงพอ ไม่มีการตั้งงบซื้อวัคซีน ที่บอกให้ไปใช้งบในส่วนของเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ถามว่าสภาฯ จะผ่านให้ท่านหรือไม่ยังไม่รู้เลย รัฐบาลประกาศให้ซื้อวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ แต่ยังหาซื้อวัคซีนไม่ค่อยได้เลย นอกจากนี้ขอให้ท่านเปิดสัญญาที่เซ็นไว้กับ บ.แอสตร้าเซเนก้าว่าซื้อวัคซีนจำนวนเท่าไร ส่งมอบเมื่อไร ถ้าส่งไม่ทันเสียค่าปรับหรือไม่ ท่านควรเปิดสัญญาให้ประชาชนทราบ วันนี้ไม่ควรมีใครเสียชีวิตหรือเจ็บป่วย ขอให้นายกฯ ทำเรื่องวัคซีนให้กระจ่าง ส่วนที่นายกฯ ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข นั่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้โควิดนั้น ท่านบริหารราชการเหมือนค่ายทหาร ขอฝากไปถึงนายอนุทินว่าไม่ต้องไปง้อ ขอให้มาร่วมกับป๋าพงษ์ (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ) ของตน ช่วยกันคว่ำร่างงบประมาณฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับบ้านเสียที
นายยุทธพงศ์ อภิปรายอีกว่า ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหม ทุกหน่วยงานมีงบลับรวม 470 ล้านบาท นายกฯ ในฐานะ รมว.กลาโหมต้องชี้แจงว่าทำไมต้องเป็นงบลับ เอาไปทำอะไรในเมื่ออ้างว่าบริหารราชการโปร่งใส ซึ่งในภาวะที่ประเทศเดือดร้อน ประชาชนล้มตายและลำบาก แต่กองทัพบกกลับเอาเงินไปซื้อยานเกราะล้อยางปี 63-65 วงเงิน 4,515 ล้านบาท และโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีปี 64-66 วงเงิน 4,226 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพัน ที่สำคัญคือการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ของกองทัพเรือ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ซึ่งกองทัพเรือเคยมีหนังสือลงวันที่ 31 ส.ค.63 ถึงประธานกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณปี 64 โดยปรับลดงบประมาณการจัดซื้อเรือทั้งสองลำเหลือศูนย์บาท เป็นการขอยกเลิกเองเลย เพราะประเทศเดือดร้อน แต่ในปี 65 ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ยังตั้งเรื่องขอซื้ออีก บริหารประเทศแบบนี้ใครจะไว้วางใจ หรือกองทัพอากาศมีโครงการจัดซื้อเครื่องบินโจมตีเบาปี 64-66 วงเงิน 4,500 ล้านบาท ท่านสามารถชะลอจัดซื้อออกไปก่อนได้ ทำไมไม่ทำ ที่เหลือเชื่อคือมีโครงการพัฒนาปฏิบัติการในห้วงอวกาศ ระยะที่ 1 ปี 64 -67 วงเงิน 1,470 ล้านบาท ท่านอย่าไปเพิ่งอวกาศ มาเอาชนะโควิดก่อน สรุปคืองบปี 65 วัคซีนไม่แน่นอนแต่รถถัง เครื่องบินรบและเรือดำน้ำมีแน่นอน ดังนั้นหากสมาชิกเห็นว่าการจัดงบไม่ตรงความต้องการของประชาชนและประเทศ ขอให้ช่วยกันคว่ำร่างฉบับนี้