รองโฆษก ปชป. ชื่นชมรัฐบาลเปิดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แรงงาน ม.33 เป็นสิ่งที่ดี แนะตั้งศูนย์ฉีดเคลื่อนที่ไปในสถานประกอบการ วอนเลื่อนกำหนดการฉีดประชาชนทั่วไปเร็วกว่าเดิม
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน เตรียมดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะดำเนินการ เนื่องจากขณะนี้มีผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยงยังมีความลังเลไม่ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีด ทำให้มีวัคซีนเพียงพอที่จะกระจายให้กับผู้ประกันตนในมาตรา 33 ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดโดยขอให้มีการตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกไปยังสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่จะมารวมตัวกัน รวมถึงในการดำเนินการฉีดวัคซีนขอให้ใช้งบประมาณของประกันสังคมมาจ้างบุคลากรจากภาคเอกชนมาดำเนินการเหมือนกับการตรวจหาเชื้อเชิงรุก เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้บุคลากรของภาครัฐที่จะต้องดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป
“อยากให้รัฐบาลเร่งตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบเคลื่อนที่เชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อลดความแออัด โดยใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม และบุคลากรจากภาคเอกชนในการดำเนินการบริการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้ไม่กระทบกับบุคลากรทางการแพทย์ภาครัฐที่จะการให้บริการกับพี่น้องประชาชนทั่วไป” นายอัครเดช กล่าว
นายอัครเดช ยังเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มทั่วไป โดยขอให้มีการเลื่อนกำหนดการฉีดขึ้นมาให้เร็วกว่าเดิม เนื่องจากการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุยังลงทะเบียนไม่ครบตามเป้าหมายเพราะบางส่วนยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยดังนั้นขณะนี้มีประชาชนทั่วไปมีความสนใจที่จะรับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก หลังจากที่รัฐบาลได้รณรงค์และสร้างความเชื่อมั่น จึงขอให้รัฐบาลได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปเร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมเพื่อจะได้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกด้วย