“บิ๊กตู่” ประชุม ครม. จับตาสถานการณ์โควิดระบาดไม่คลี่คลาย รัฐเร่งระดมจัดหา-ฉีดวัคซีนทางรอดวาระแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นสัปดาห์ที่สอง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ยังคงมีการกระจายที่สูงขึ้น อีกทั้งในส่วนของทำเนียบรัฐบาลยังคงมาตรการให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รวมทั้งสื่อมวลชนเวิร์คฟอร์มโฮม (WFH)
อย่างไรก็ตามต้องจับตาไปที่การรายงานสถานการณ์โควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ รวมถึงการตั้งโรงพยาบาลสนาม และการหารือการเตรียมพร้อมรับการกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจะกระจายฉีดปูพรหมไปยังต่างจังหวัด โดยรัฐจะทยอยส่งวัคซีนเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูในเรื่องของการวอล์กอิน เข้ารับการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป ที่ศบค.ชุดเล็กมีความกังวลเรื่องความแออัด จะบริหารจัดการยาก ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขต้องไปจัดทำแผนใหม่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของการช่วยเหลือแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. เห็นชอบลดอัตราเงินสมทบทั้งในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมฝ่ายละร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 2.5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลืออัตราเดือนละ 216 บาท เป็นเวลา 3 เดือนในงวดเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 ส่วนงวดเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป ให้ส่งเงินสมทบอัตราเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 3
ส่วนวาระอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ กระทรวงแรงงาน เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าทำศพที่ให้นายจ้างจ่าย นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง เสนอขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ในส่วนวาระการพิจารณาด้านอีก สทนช. เตรียมเสนอมาตรการการรับมือฤดูฝนปี 2564 กระทรวงมหาดไทย รายงานการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสถาบันการดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐ จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พ.ศ.2564