“จตุพร” ลั่นความมั่นคงไม่ใช่เรื่องต้องใช้ข้อมูล “มั่ว” มาพูดกัน ยัน! มีข่าวระดับสูงแจงมหาอำนาจพยายาหาพื้นที่สูงตั้งฐานยิงขีปนาวุธจริง ดีใจ “คงชีพ” ปฏิเสธ ชี้! บ้านเมืองต้องไม่หายนะ
“จตุพร” ลั่นความมั่นคงไม่ใช่เรื่องต้องใช้ข้อมูล “มั่ว” มาพูดกัน ยัน! มีข่าวระดับสูงแจงมหาอำนาจพยายามหาพื้นที่สูงตั้งฐานยิงขีปนาวุธจริง ดีใจ “คงชีพ” ปฏิเสธ ชี้! บ้านเมืองต้องไม่หายนะ ขอนัดคุยส่วนตัวที่ไหนก็ได้ ฟัด “ประยุทธ์” คนไทยขาดเชื่อมั่น บริหารเหลว เยียวยาไม่สอดคล้องความจริง ปชช. ปัดลงทะเบียนฉีดวัคซีน เผยเวทีไทยไม่ทนฯ สัปดาห์นี้คนดังแห่เปิดข้อมูลถล่มไล่นายกฯ ถึงกระอัก
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk โดยระบุถึง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ปฎิเสธถึงการตั้งฐานยิงขีปนาวุธในไทยด้วยมธุรสวาจาในท่วงทำนองไม่ทำร้ายกันว่า ไม่เป็นความจริง
พล.ท.คงชีพ ได้ชี้แจงเมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) เกี่ยวกับประเทศมหาอำนาจตั้งฐานยิงขีปนาวุธในไทยนั้น รัฐบาลปัจจุบัน ไม่เคยมีนโยบายต่อเรื่องดังกล่าว แต่ยึดมั่นในการสร้างความสมดุล พร้อมตั้งข้อกังขาว่า นายจตุพร ต้องการอะไร หรือทำเพื่อใคร และหวังผลอะไร มีแผนจะขยายผลต่ออย่างไร การให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยขาดข้อเท็จจริง จะยิ่งสร้างความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม สุ่มเสี่ยงกับความหวาดระแวงและละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศเป็นอย่างยิ่ง
นายจตุพร กล่าวว่า มธุรสวาจาเช่นนี้ เราอธิบายความกันได้ โดยตนตั้งคำถามให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้รับผิดชอบ พรบ.ทั้ง 31 ฉบับและความมั่นคงของชาติ อีกอย่างตนถ้าไม่มั่นใจ หรือมีข้อสงสัยแล้ว จะหลีกเลี่ยงในการระบุข้อมูลด้านในประเด็นต่าง ๆ ของประเทศ
ส่วนการข่าวตั้งฐานยิงขีบปนาวุธนั้น ตนต้องการพูดกับ พล.ท.คงชีพ เป็นการส่วนตัวสักครั้ง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งตนเคยอ้อมสอบถามไปยังอดีต ผบ.ทบ.ที่อยู่ใต้รัฐบาลนี้มาแล้ว ว่า การข่าวนี้เป็นความจริงหรือไม่ และได้รับว่า เคยมีอยู่จริงในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยพยายามเสาะหาพื้นที่สูงภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงใหม่ หรือเชียงราย และมีการสำรวจ กระทั่งมีการสร้างสถานที่โดยเปิดเผยที่เชียงใหม่ด้วยงบประมาณการสร้างที่บริการกลับใช้เงินจำนวนมากถึงขนาดนี้
อีกทั้ง เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่แล้วประชาชนมีการแต่งตัวอย่างสุภาพไปยื่นหนังสือตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้ระงับการตั้งฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นความกังวล และ พล.ท.คงชีพ ยังตอบด้วยความระมัดระวัง หากเรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว ประเทศเกิดหายนะขึ้นในวันนั้น
“ผมมีความรักชาติบ้านเมือง ซึ่งใครจะมาทำเรื่องเช่นนี้บนพื้นดินนี้ไม่ได้ เพราะไทยไม่ได้ประโยชน์ และยิ่งสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น โดยสถานการณ์ขณะนี้เราได้ติดตามใกล้ชิด อีกทั้งบรรดาผู้รู้ยังติดตามเช่นกัน ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องมามั่วกัน โดยผมไม่ได้ปรักปรำ แต่เป็นการตั้งคำถามให้ชี้แจง และโฆษกกลาโหมก็ออกมาบอกเรื่องนี้ด้วยมธุรสวาจา และหวังว่าจะได้พบกันสักวันเพื่อคุยกันในเรื่องชาติบ้านเมือง ขอให้ พล.ท.คงชีพ นัดมาได้”
นายจตุพร ย้ำว่า ในกรณีตั้งฐานยิงขีปนาวุธนั้น จะผ่านเลยไม่ได้ โดยเฉพาะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่บอกว่าไม่เป็นจริง แต่ก็เป็นจริงมามากเช่นกัน ดังนั้น ตนจึงภาวนาว่า เรื่องที่โฆษกกลาโหมออกมาพูดนั้น ขอให้เป็นเรื่องจริง นอกจากนี้ ขอให้ข้อเท็จจริงเป็นข้อพิสูจน์ ซึ่งตนไม่ต้องการให้เป็นเรื่องจริง เพราะมันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่แหล่งข่าวของตนก็ใหญ่มากและน่าเชื่อถือเช่นกัน
ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาไม่สอดคล้องความจริง เพราะการเยียวยา 3 ครั้งได้สะท้อนถึงภาวะสมองของผู้มีอำนาจ โดยมาตรการเยียวยาประชาชนลดลงไม่เป็นไปตามการระบาดรุนแรง เช่น ระบาดรอบที่หนึ่งไม่รุนแรงแต่กลับมีมาตรการเยียวยาสูง มาถึงรอบที่สองโควิดรุนแรงขึ้น กลับลดการเยียวยาลงมา แล้วถึงรอบที่สาม ซึ่งระบาดหนักที่สุด แต่รัฐบาลกลับเยียวยาเพียง 2,000 บาท โดยน้อยกว่ามาตรการที่ผ่านมาทั้งรอบหนึ่งและรอบสอง
พร้อมทั้งกล่าวว่า เมื่อ นายกฯ ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ยังไม่คิดจะดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบอีกหรือ โดยเฉพาะภาระการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ที่ยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย เมื่อยังต้องการนั่งเป็นนายกฯ อีก ตนจึงถามหามาตรการเยียวยาให้สอดคล้องความจริงของการระบาดแพร่เชื้อโควิดด้วย
“ใครทำการ์ดตกและมีความไร้ประสิทธิภาพ นายกฯ แก้ปัญหามีแต่ล้มเหลว แต่ต้องการได้อำนาจ กลับไม่เอาอำนาจมาช่วยเหลือประชาชน การใช้อำนาจมา 7 ปีเป็นไปตามอารมณ์บ้าบอของคน ๆ หนึ่ง ส่วนการแก้ปัญหาไม่ได้เรื่องสักเรื่องเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า ระบอบประยุทธ์ พาให้ประเทศพังทุกมิติ เพราะความเป็นอภิสิทธิชนที่อยู่สูงกว่า 3 อำนาจเสียอีก ดังนั้นการเสพติดทางอำนาจ ถ้านำมาแก้ปัญหาชาติจะเกิดความรู้สึกที่ดีของประชาชน อีกอย่างวันนี้มีแต่พวกสอพลอ และพวกปฏิบัติการไอโอ ที่ได้รับประโยชน์จากระบอบประยุทธ์ ส่วนคนไทยทั้งชาติเสียประโยชน์
รวมทั้งกล่าวว่า เมื่อความหิวเข้ามาถึงคนในเมืองแล้ว อะไรที่เป็นภาระของประชาชน รัฐต้องมาเป็นเจ้าภาพ โดยวางเรื่องการก่อสร้างวัตถุทุกอย่างไว้ เพื่อระดมมาช่วยประชาชนให้รอด ดังนั้น เมื่อวันนี้คนกำลังไม่มีกิน เราต้องช่วยคน ไม่เอาการสร้างวัตถุมาเป็นตัวเลือก
นายจตุพร กล่าวว่า อำนาจที่อยู่ในมือประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย การทำงานเกิดความผิดพลาดบ่อยครั้ง หากจะโทษความล้มเหลวทั้งหมดจึงมาจากนายกฯ ซึ่งทำให้คนไม่เชื่อมั่น และสะท้อนออกมาด้วยการไม่กล้าฉีดวัคซีน กระทั่งประเทศก้าวเดินต่อไปไม่ได้แล้ว
ส่วนเวทีไทยไม่ทนฯ เสาร์-อาทิตย์นี้ (15-16 พ.ค.) จะมีตัวแทนทุกภาคส่วนมาร่วม เพื่อมาพูดว่า อะไรคือวิกฤตของชาติ ซึ่งต้องยอมรับว่า ขณะนี้ประเทศเข้าสู่ภาวะหายนะ และต้องการกอบกู้ให้มีสภาพกลับมาดังเดิม โดยขอให้วางประโยชน์ตัวเองลง แล้วมาร่วมแรงเอาชาติมาก่อน จึงจะรักษาชาติเอาไว้ได้ และหวังว่า ความร่วมมือทุกภาคส่วนทำให้ไม่เดียวดาย เพราะสิ่งทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องชาติบ้านเมืองและประชาชน