ของแพง-ตกงาน ทำกำลังซื้อครัวเรือนไทยทรุดหนัก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนเกิดระบาดโควิด-19 รอบสามได้ปรับตัวลดลงอย่างมากอยู่ที่ระดับ 37.0 จากระดับ 40.4 ในเดือนมี.ค. ส่งผลต่อกำลังซื้อครัวเรือนในขณะที่มาตรการเยียวยาเพิ่มเติมยังไม่ออกมา รวมถึงราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มอย่างมาก และครัวเรือนกังวลด้านรายได้ การมีงานทำ ทิศทางของดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นในรอบ 8 ปี ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนด้วย
ทั้งนี้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ยังประเมินว่า ครัวเรือนยังเจอความเสี่ยงทั้งตลาดแรงงานในภาพรวมยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นกำลังซื้อของครัวเรือนจะถูกกระทบอย่างมากจากรายได้ที่มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ฐานะทางการเงินของครัวเรือนมีแนวโน้มเปราะบางลงเรื่อย ๆ ต่อเนื่องมาจากการระบาดในครั้งก่อน ๆ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเพื่อบรรเทาผลกระทบอยู่บ้าง แต่ขนาดไม่เท่ากับมาตรการเยียวยาในรอบก่อน ทำให้นอกจากการเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนแล้ว ครัวเรือนยังรอมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วย
ส่วนการว่างงานของผู้ประกันตนมาตรา 33 พบว่า อยู่ในระดับสูง โดยในเดือนก.พ.64 อยู่ที่ 310,031 คน เมื่อเทียบกับ 151,802 คน ในเดือนก.พ. 63 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เป็นตัววัดค่าครองชีพของประชาชนก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ในเดือนเม.ย. 64 เงินเฟ้อกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 14 เดือนอยู่ที่ 3.41% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาผักสดที่สูงขึ้น รวมถึงค่าสาธารณูปโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นหลังไม่มีมาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ในปีก่อนหน้า