กระบี่ - โลกโซเชียลแห่ชื่นชม ทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลกระบี่ ผ่าคลอดหญิงป่วยโควิด-19 ได้สำเร็จ เป็นรายแรกของจ.กระบี่ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก เผยต้องใช้ทีมแพทย์ พยาบาล และจนท. ถึง15คน

วันที่ 8 พ.ค.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการแชร์ และชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก  เมื่อผู้ใช้เฟซบุค “Jiravan Phaipana”  ได้โพสต์  ภาพและคลิปเรื่องราวที่สุดประทับใจ ขณะทีมแพทย์พยาบาล กำลังนำคนไข้หญิงที่ป่วยโควิด-19 ออกมาจากห้องผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางการแสดงความยินดี  พร้อมข้อความระบุว่า “ภารกิจวันนี้ สำเร็จ ลุล่วงผ่านไปด้วยดีค่ะผู้ป่วย COVID-19 ผ่าตัดทำคลอดเคสแรก ของประวัติศาสตร์ รพ.กระบี่ #บันทึกในความทรงจำ เผื่อแจ้งเตือนในวัยเกษียณ #ขอบคุณในความเป็นทีมเวิร์คครั้งยิ่งใหญ่ค่ะ” หลังจากที่เธอได้โพสต์รื่องราวดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีเพื่อน ๆ และเพื่อนชาวโซเชียล  ต่างเข้ามาแสดงความชื่นชมให้กำลังใจ แสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก ที่สามรถผ่าคลอด ผู้ป่วยโควิด-19  ได้สำเร็จ นับเป็นรายแรกของจังหวัดกระบี่ 

ผู้สื่อข่าวสอบถาม ไปยังน.ส. จิราวรรณ ไพพะนา ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเป็นพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่ตึกผู้ป่วยในโรงพยาบาลกระบี่ ได้รับการเปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายนี้เป็นผู้หญิง อายุ 33 ปี  อายุครรภ์ 39 สัปดาห์ ได้เข้ามารักษาตัวที่รพ. เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64  ที่ผ่านมา และผู้ป่วยมีอาการเจ็บท้องคลอดสูตินรีแพทย์ประเมินว่ามีความจำเป็นต้องผ่าตัด และได้นำผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด เมื่อวานนี้ (7.พ.ค.64) ซึ่งได้มีการวางแผนซักซ้อมเป็นอย่างดี เพราะต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ใช้เวลาในห้องผ่าตัดนาน 30 นาที ก็ทำการผ่าคลอดสำเร็จ เป็นทารกเพศหญิงสภาพร่างกายสมบูรณ์  จากนั้นผู้ป่วยก็อยู่ที่ห้องพักฟื้น30 นาที  ก่อนพากลับไปยังหอผู้ป่วย เบื้องต้นคนไข้ ไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ

น.ส. จิราวรรณ เปิดเผยอีกว่า การผ่าคลอดและดูแลต่อ ต้องใช้บุคลากรถึง 15 คน ในห้องผ่าตัด 5 คน ประกอบด้วยหมอผ่าตัด 1 คน  พยาบาลช่วยส่งเครื่องมือ 1 คน  วิสัญญี 1 คน พยาบาลผู้ช่วยดมยา 2 คน นอกจากนั้น ยังมีทีมรับเด็กไปตึกหลังคลอด 3 คน หมอเด็กอีก 1 คน พยาบาลเด็ก 2 คน ทีมเปล 3 คน และทีมพยาบาลดูแลอีก 3 คน 

“รู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ เป็นนครั้งแรกของกระบี่ แม้จะต้องมีความกดดันบ้าง แต่ก็ได้มีการซ้อมเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องความปลอดภัยของบุคลากร รวมทั้งแม่และเด็ก จนสำเร็จปลอดภัย แต่ก็พร้อมใจในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงเพียงใด แต่ด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พร้อมที่จะช่วยเหลือคนป่วย คนไข้ทุกรายแน่นอน และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนด้วย” น.ส. จิราวรรณ กล่าว


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์  ศรีปล้อง รายงาน