เมียนมาในเวทีอาเซียน!! ภายใต้บริบทแห่ง 'การเกา' ไม่ถูกที่คัน

จากการประชุมอาเซียนระดับผู้นำประเทศนัดพิเศษครั้งที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาตรงที่ 'นายพล มินอ่องหล่าย' ได้เป็นตัวแทนของเมียนมาไปร่วมประชุมในครั้งนี้ที่ประเทศบรูไน แต่ที่ประชุมมีฉันทามติออกมา 5 ข้อ ดังต่อไปนี้...

1.) ทางกองทัพเมียนมาต้องยุติการใช้ความรุนแรงในเมียนมาทันทีและทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจอย่างเต็มที่

2.) ต้องจัดการหารืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแสวงหาทางออกอย่างสันติเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวเมียนมา

3.) ผู้แทนพิเศษของอาเซียนจะอำนวยความสะดวกในการเป็นตัวกลางในการหารือดังกล่าวโดยความช่วยเหลือจากเลขาธิการอาเซียน

4.) อาเซียนจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางศูนย์ประสานงานเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

5.) ผู้แทนพิเศษและคณะจะเดินทางเยือนเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

แต่ในความเป็นจริงนั้น ทางเมียนมาสามารถทำเช่นนั้นได้จริงหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันนี้ยังมีการปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพกะเหรี่ยงกลุ่ม KNU และกองทัพคะฉิ่นกลุ่ม KIA

อย่างก่อนหน้านี้ก็มีการประทะกันใกล้เมืองสะเทิม (Thaton) เป็นผลให้มีการปิดการจราจร ซึ่งสร้างผลกระทบในการคมนาคมและการขนส่งในช่วงเวลาที่มีการต่อสู้กัน และล่าสุดก็มีการต่อสู้จากชาวบ้านในเมือง Mindat ในรัฐชิน

ฉะนั้นในส่วนข้อ 2 ที่บอกว่า ต้องมีการจัดการหารืออย่างสร้างสรรค์นั้น แม้ทางรัฐบาลทหารจะต้องการที่จะทำมากเพียงใด แต่ไม่มีการตอบรับจากกลุ่ม National Unity Government อยู่ดี ซึ่งดูจากวันนี้เหมือนทั้งสองฝ่าย ก็ไม่ได้มีความต้องการจะประนีประนอมกันหรือยอมหันหน้าเข้าหาเพื่อเจรจากันอยู่แล้ว

พูดตรง ๆ คือ ต่อให้อาเซียนจะบอกว่าพร้อมเป็นตัวกลางแค่ไหน? แต่ถ้าผู้นำของทั้งสองฝ่ายหรือแต่ละฝ่ายมองแค่ผลประโยชน์ตัวเอง มันก็ไม่มีประโยชน์

...และนั่นหมายความว่า ข้อ 4 ข้อ 5 ก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากทั้งสองฝ่ายยังเป็นเช่นนี้

นาทีนี้ สงสารก็เพียงชาวบ้านคนเมียนมาที่ต้องหนีตายหรือต้องมาตายกับอุดมการณ์อันเปล่าประโยชน์

ดังนั้นการแก้ปัญหาในครั้งนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่จะบอกว่าควรหันหน้าเจรจาหรือยัง แต่ควรจะบอกให้ฝ่ายต่อต้านเลิกปลุกระดมให้ประชาชนและกลุ่มชาติพันธุ์หยุดจับอาวุธเสียก่อน

เพราะฝ่ายยึดอำนาจได้ออกมาชี้แจงแล้วถึงสาเหตุการยึดอำนาจว่าเกิดจากการนับคะแนนไม่ถูกต้องและเตือนกรรมาธิการการเลือกตั้งของเมียนมาถึง 2 ครั้ง แต่ทางกรรมาธิการการเลือกตั้งที่ถูกคัดสรรมาจากรัฐบาล NLD เลือกจะนิ่งเฉยและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้กองทัพทำการรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามชอบธรรมที่ระบุไว้ในธรรมนูญที่ร่างไว้ฉบับปี 2008 ในการปกครองประเทศของเมียนมา ในข้อ 20 วรรค D ว่า...

"กองทัพมีหน้าที่หลักในการปกป้องการไม่สลายตัวของสหภาพและการไม่สลายตัวของความเป็นเอกภาพของประเทศรวมถึงการคงอยู่ตลอดไปของอำนาจอธิปไตย" ซึ่งการกระทำของกลุ่มต่อต้านในวันนี้ขัดกับที่รัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ในเมียนมา จนยิ่งส่งเสริมให้เกิดความชอบธรรมในการปฏิบัติการของทหารเข้าไปอีก

การต่อต้านทุกวันนี้เอย การที่อาเซียนไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้เอย ทั้งหมดทั้งมวลก็เนื่องจากรัฐธรรมนูญของเมียนมาได้ระบุไว้หมดทุกอย่างแล้วนั่นเอง


ที่มา: AYA IRRAWADEE