‘บิ๊กป้อม’ ห่วงแรงงาน กระทบโควิด-19 ประชุม กพร.ปช. ยกระดับฝีมือแรงงาน คนพิการ/ผู้ด้อยโอกาส/ผู้สูงวัย ควบคู่เยียวยา สั่งเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการฯ เห็นชอบแผนพัฒนาศก.ฐานราก ฟื้นฟู ทั่วประเทศ

เมื่อ 23 เมษายน พ.ศ.2564  พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.30น.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการพัฒนาแรงงาน และประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 3/2564 โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง. และ ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.รง. เข้าร่วมประชุม  ณ  ห้องประชุม 301  ตึกบัญชาการ 1  ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความคืบหน้า การดำเนินงานเพื่อการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve ปีพ.ศ.2564-2570 โดย รง.ได้ทำการรวบรวมแผน/โครงการด้านการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมฯ จากหน่วยงานหลักของภาครัฐ รวมทั้งสิ้น 174 โครงการ มีจำนวนผู้ที่จะได้รับการพัฒนา 891,207 คน ซึ่งมีแนวทางการจัดทำแผนพัฒนากำลังคนที่สำคัญ ได้แก่การนำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และมาตรฐานอาชีพ 

เชื่อมโยงสู่ระบบการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและกำลังแรงงาน มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และรับทราบการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการ รองรับการประกอบอาชีพ (พ.ศ.2564-2570) จำนวน 69 โครงการ มีเป้าหมายรวม 186,613 คน พร้อมทั้งรับทราบความคืบหน้า การดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ ตามมาตราการ "สร้าง ยก ให้" ช่วยแรงงานไทย ช่วยชาติ โดยมีเป้าหมายรวม 130,000 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณา

จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบ โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ในระดับพื้นที่ เพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ covid-19 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ของทุกภาคส่วนในแต่ละจังหวัด อย่างเป็นระบบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และนโยบายการขับเคลื่อนไปด้วยกัน

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้ รง. เร่งขับเคลื่อนแผนงาน การพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน ต่อการส่งเสริมทักษะฝีมือ คนพิการ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ โดยให้ประสานงานกับ พม. เพื่อรองรับการประกอบอาชีพ อย่างจริงจัง และทั่วถึง พร้อมขอให้ มท.,จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนโครงการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป