Monday, 9 June 2025
SPECIAL

ชลบุรี - วุ่นทั้งโรงพัก ตร.พัทยาติดโควิด นำ 40 ตร.ใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงเพื่อตรวจเชื้อ

วันนี้ 18 เม.ย.64 ที่ศาลาประชาคม อ.บางละมุง  จ.ชลบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา  รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์  สว.จร. สภ.เมืองพัทยา ที่ติดเชื้อโควิด-19 รวม 40 คน ไปตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19  นอกจากนั้นยังต้องกักตัวอีก 14 วัน

โดยทาง  พ.ต.ท.สมพล  นาคขำพันธุ์   รอง ผกก.( สอบสวน ) สภ.เมืองพัทยา  รรท. ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมาทางสารวัตรจราจรมีอาการตัวร้อนก็เลยไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพพัทยา พอวันที่ 16 เม.ย.  รู้ผลว่าติดเชื้อก็เดินทางเข้ารักษาที่ รพ.พญาไท ศรีราชา หลังจากนั้นทาง สารวัตรจราจรก็ได้ตรวจสอบทั้งตำรวจและบุคคลที่กลุ่มเสี่ยงรวมทั้งหมด 40 คน จึงได้ให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันนึ้ และหลังตรวจก็ต้องกักตัว 14 วันอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - 4 วัน ปรับสภาพชายหาดพัทยา สวยดังเดิมหลังฝนถล่ม

เมืองพัทยา ใช้เวลา 4 วัน คืนสภาพชายหาดพัทยาหลังถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายยับ ระบุสภาพชายหาดกลับมาสวยงามดังเดิม ขณะที่นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดช่วงหยุดต่อเนื่องแม้จะเป็นพื้นที่สีแดง

หลังจากที่เกิดกรณีมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงบ่ายของวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดมวลน้ำจำนวนมากไหลบ่ามาจากฝั่งตะวันออกเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังหลายจุด ขณะที่บริเวณชายหาดพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือไปจนถึงพัทยาใต้ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากมวลน้ำไหลบ่าลงสู่ชายหาด ส่งผลให้ทรายถูกน้ำกัดเซาะทรายไหลลงสู่ทะเลเป็นหลุม และทางน้ำไหลขนาดใหญ่ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยพบว่าทรายถูกน้ำเซาะลงทะเลไปนับแสน ลบ.ม. ซึ่งที่ผ่านมานายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักช่างเมืองพัทยา นำเครื่องมือหนักพร้อมบุคลากรเข้ามาทำการซ่อมแซมชายหาดพัทยาเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้ชายหาดกลับคืนมาสภาพดังเดิม

ล่าสุดวันนี้ (17 เม.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สำนักช่างได้ใช้รถแบ็คโฮตักขุดทรายที่กองอยู่ริมทะเลขนนำกลับมาถมคืนพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะ โดยเฉพาะบริเวณซอย 4 ถึง ซอย 5 พร้อมกันนี้ได้ใช้รถ JCB เข้ามาเกลี่ยผืนทรายให้กลับมาคืนสภาพเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แล้ว โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 4 วัน มีรายงานเพิ่มเติมว่าปัจจุบันยังพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดพัทยา ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องสงกรานต์ได้ แม้ว่าเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จะถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบร่มเตียงเองก็เข้มในมาตรการป้องกันโควิด-19 ของ ศบค .ทั้งการจัดเตียงแบบเว้นระยะห่าง การจัดวางเจลแอลกอฮอล์ ให้กับผู้มาใช้บริการ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

ชลบุรี - เริ่มวันนี้ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น เมืองพัทยา รับลูก ศบค. ดีเดย์ เปิดตี 4 ปิด 5 ทุ่ม

ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ สาขาเมืองพัทยา พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ แบะศบค. เลื่อนเปิดให้บริการระหว่างเวลา 04.00–23.00 น. ตั้งแต่วันนี้

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) หรือ ศบค. ได้ประกาศมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ จำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพมหานครฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่นนั้น

มีรายว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ โดยจะเปิดให้บริการระหว่างเวลา 04.00–23.00 น. ตั้งแต่วันนี้ วันที่ 18 เม.ย. 2564 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ พบว่า ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาต่าง ๆ ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของภาคตะวันออก ได้เตรียมพร้อมสำหรับการให้บริการโดยปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. อย่างเคร่งครัด คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด เพื่อสุขภาพอนามัยของพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ตามที่ได้ดำเนินการในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาใช้บริการ การเว้นระยะห่าง การล้างมือก่อนหยิบจับอาหารหรือสินค้า การทำความความสะอาดพื้นที่ อุปกรณ์ในร้าน รวมทั้งจุดสัมผัสร่วมตามระยะเวลาที่กำหนด และการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของร้าน เพื่อบรรเทา และแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

รับมืออย่างไรเมื่อไม่มีเขา...แต่เราต้องไปต่อ

เมื่อไม่นานมานี้ในระหว่างที่ผู้เขียน ไถฟีดเฟซบุ๊กตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็ได้ไปเจอกับภาพ ๆ นึงที่ชวนให้หวนคิดถึงเพื่อนรักที่จากไป ซึ่งภาพที่เห็นก็มาจากรายการ Cooking with Dog รายการทำอาหารที่ไม่ได้สอนแค่ทำอาหารแต่ยังแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพของหญิงวัยกลางคนที่ใครก็รู้จักเธอในหน้าที่ ‘เชฟ’ กับคู่หูคู่ใจอย่าง ‘เจ้าฟรานซิส’ สุนัขพุดเดิ้ลที่คอยอยู่เคียงข้างตลอดการดำเนินรายการ

ด้วยความน่ารักและมิตรภาพของทั้งคู่ทำให้รายการดำเนินมายาวนานหลายปีและสุดท้ายก็ถึงเวลายุติการทำหน้าที่ของพิธีกรคู่หูคนสำคัญอย่าง ‘เจ้าฟรานซิส’ เมื่อเขาได้จากไปในวัย 14 ปี 9 เดือน แต่ภาพที่ชวนสะเทือนใจยิ่งกว่าคือภาพของ ห้องครัวห้องเดิม ผู้หญิงวัยกลางคนคนเดิม แต่สิ่งที่เข้ามาแทนที่ฟรานซิส กลายเป็นตุ๊กตาตัวแทนของฟรานซิสแทน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำหน้าที่ต่อไปแต่รายการก็ยังคงต้องดำเนินต่อ ‘เพราะวันนึงที่ไม่มีเขาแล้ว เราก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป’

นี่แหละค่ะ จุดเริ่มต้นของการหวนคิดถึงเพื่อนรักในวัยเยาว์ และช่วงเวลาของการอยู่ต่อไปโดยไม่มีเขา ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนไม่ใช่กูรูในการจัดการบริหารความรู้สึก แต่เพียงแค่อยากแชร์ในมุมมองของผู้ที่ผ่านจุด ‘ไม่มีเขาแต่เราต้องไปต่อ’ ก็เพียงเท่านั้น

เชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน คงเคยสัมผัสบรรยากาศการพบปะและลาจากใช่ไหมคะ แน่นอนค่ะ สัตว์เลี้ยงแสนรักก็เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่อายุยืนเท่าเรา แต่ช่วงชีวิตอันสั้นของพวกเขาสร้างความสุขให้กับเราได้ไม่น้อย แต่ในวันที่เขาจากไป ดูเหมือนเขาจะพรากเอาความสุขนั้นไปด้วย แล้วเราจะจัดการอย่างไรล่ะเมื่อความสุขของเราหายไปกับเขา และเหลือเพียงแต่ความหม่นหมองในวันที่ไม่มีเขาอยู่?

แน่นอนว่ากลไกการรับมือของแต่ละคนคงต่างกัน แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ทุกคนต้องพยายามเผชิญและผ่านมันไปให้ได้คือ ‘การยอมรับ’ ซึ่งยอมรับในที่นี้นอกจากยอมรับว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราได้จากไปแบบไม่มีวันกลับแล้ว การยอมรับอีกอย่างที่สำคัญคือ ยอมรับเสียเถอะว่าเราเสียใจ การฟูมฟายในบางครั้งก็ระบายความเจ็บปวดได้ดีกว่าการเก็บเอาไว้ภายใน

บางครั้งการจัดการกับความรู้สึกด้วยตัวเองอาจไม่ดีเท่ากับมีใครรับฟังเรา ดังนั้น ‘การระบายกับใครสักคน’ ก็เป็นเรื่องที่ดีและไม่ได้น่าอาย เพราะการที่ได้พูดออกไปดีกว่าเก็บไว้คนเดียว ไม่แน่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับมานอกจากได้ระบายแล้วคุณอาจได้กำลังใจหรือมุมมองใหม่ ๆ ในการรับมือกับการจากไปของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณก็ได้

เช่นเดียวกับทุก ๆ เรื่อง เราต้องรู้จักให้เวลา เช่นเดียวกับการรับมือในการจากไปเช่นกัน หลาย ๆ คนคงคุ้นหูกับประโยคที่ว่า ‘เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง’ ซึ่งก็เยียวยาได้จริง ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อวันเวลาผ่านไปความทุกข์ที่มีจะคลายลงตามเวลา และภาพที่ยังคงอยู่คือเวลาดี ๆ ที่เรามีกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก การใช้เวลาในการเยียวยาของแต่ละคนไม่เท่ากันแต่แน่นอนว่าเราจะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน

วิธีรับมือกับการจากไปของสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ผู้เขียน บรรยายยาวเหยีดมาจนถึงตอนนี้ ล้วนเป็นบทเรียนจากเพื่อนรักสี่ขาของผู้เขียนที่มอบให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน และทำให้เรียนรู้ว่าสิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้ แม้ในวันนี้จะไม่มีเขาอยู่แล้วก็ตาม

การเยียวยาตัวเองต่อการจากไปคงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว และอาจเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละบุคคล แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าสิ่งที่ผู้เขียนได้บรรยายมาข้างต้นอาจช่วยให้เราจัดการกับความรู้สึกของตนเองได้ง่ายขึ้น เพราะแม้ว่าในวันที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราอยู่ข้างกายเหมือนเดิม แต่ชีวิตคนเราก็ยังต้องไปต่ออยู่ดี เหมือนอย่างที่ ‘เชฟ’ ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปแม้จะไม่มี ‘ฟรานซิส’ เพื่อนคู่ใจเหมือนเคยก็ตาม

ไม่ว่าจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมากมายแค่ไหน รักกันมากเพียงใด ถ้าไม่รู้จักการสื่อสารภาษารักที่ดีต่อกัน ความรักก็อาจเหือดแห้งหายไปได้ในที่สุด

คุณเคยมีปัญหาขัดแย้งกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักบ้างไหม?

บ่อยครั้งที่เราอาจรู้สึกว่า เราไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ความรัก หรือการให้ความสนใจเท่าที่ควร ในขณะที่คนที่รักเรา เขายังบอกว่ารู้สึกเป็นห่วง ใส่ใจ และต้องการดูแลเราอยู่ปกติ แต่ทำไมเราจึงรู้สึกตรงกันข้าม สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการใช้ภาษาในการสื่อสารความรักที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมากมายแค่ไหน รักกันมากเพียงใด ถ้าไม่รู้จักการสื่อสารภาษารักที่ดีต่อกัน ความรักคุณอาจจะเหือดแห้งหายไปได้ในที่สุด

ภาษารัก คือ การเรียนรู้ในการแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดและการแสดงออก เพื่อให้คนรักค่อย ๆ เดินทางเข้ามาหาเราทีละเล็กทีละน้อย ในทางจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า การครองใจคน “เกิดขึ้นในขณะที่คนรักอยู่กับเราแล้วเขาและเธอรู้สึกมีคุณค่าในขณะที่อยู่กับเรา”

ระหว่างคนสองคนเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วสามารถทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงคุณค่าในตัวเอง เป็นวิธีในการแสดงออกความรู้สึกรักที่แต่ละคนได้มีการเรียนรู้ ความชอบ รสนิยม ความเป็นตัวตน ซึ่งแตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะแสดงความรู้สึกรัก การยอมรับ และการใส่ใจ โดยในการแสดงออกถึงความรักนั้นมีอยู่เพียง 5 วิธีเท่านั้น คือ

1.) การดูแลและทำเรื่องดี ๆ ให้กับคนรัก

เป็นการแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ ทำอยู่เป็นประจำ ไม่ถือเป็นภาระหน้าที่ เช่น

• การช่วยเหลือเรื่องงาน

• การทำอาหารให้ทาน

• การช่วยขับรถให้

• การช่วยทำความสะอาด

• การซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับให้

• การช่วยถือกระเป๋า

• การให้ความสะดวกสบาย

• การดูแลเอาใจใส่ ห่วงใย

• การช่วยเป็นธุระให้

• การให้ความสำคัญ

• ฯลฯ

2.) คำพูดที่ดีต่อใจ

คือภาษารักที่สื่อสารผ่านถ้อยคำ คำพูด รวมทั้งการส่งข้อความ message ด้วย คำพูดที่เติมเต็ม (Word of Affirmation) ไม่ได้มีแต่การบอกรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการพูดในเรื่องที่สร้างความสุขให้กับคนที่รัก ให้คุณค่ากับคนที่รักด้วย เช่น

• การพูดขอบคุณ

• การพูดคำชื่นชม

• การพูดบอกรัก

• การพูดให้กำลังใจ

• การพูดให้รู้สึกสบายใจ

• การพูดให้เกียรติ

• การเคารพ

คำพูดที่เติมเต็มให้กันและกัน แม้นไม่ใช่คำพูดบอกรักกันอย่างตรงไปตรงมา และเป็นคำพูดที่อาจสังเกตได้ยาก เพราะบางครั้งคนเราจะมีมุมมอง ความคิดที่แตกต่างกันออกไป หากใช้คำพูดที่เติมเต็มหัวใจ การให้กำลังใจ หรือการชื่นชม ในเรื่องที่ไม่ถูกใจเรา หรือ เป็นเรื่องที่คนรักอาจไม่เคยให้คุณค่ามาก่อน อาจทำให้คนรักไม่ได้รู้สึกดี ไม่ได้รู้สึกถึงความเอาใจใส่แต่อย่างใด หรือในบางครั้งอาจถึงขั้นเกิดการทะเลาะกันก็เป็นได้

3.) การสัมผัส

เมื่อมนุษย์มีการสัมผัสกัน สมองจะหลั่งฮอร์โมนเช่นออกซิโทซิน (Oxycontin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความเกี่ยวข้องกับความรักออกมาทำให้เกิดความรู้สึก

การสัมผัส (Physical Touch) เกิดขึ้นตั้งแต่ทารกที่สามารถเข้าใจความหมายของคำว่ารัก ผ่านการสัมผัสของแม่ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงหลายอย่าง เช่น

• การจับมือ

• การกอด

• การโอบ

• การจูบ

• การแตะ

• การใกล้ชิด

• การมองตา

กิริยาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวอย่างของการแสดงออกความรักทั้งสิ้น

4.) การให้ของขวัญพิเศษแก่คนรัก

การให้ของขวัญในวันพิเศษ การให้ช่อดอกไม้ในวันแห่งความรัก การทำเซอร์ไพรส์ เราจะเห็นคนรักแสดงออกต่อกันในรูปแบบนี้บ่อยๆ ศิลปินดารา นักร้อง คนมีชื่อเสียง ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ยาวนาน ของขวัญถูกออกแบบไว้เพื่อทำให้แสดงออกถึงความรัก นั่นเอง

ของขวัญที่ให้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่มีราคาแพงหรือหรูหรา แต่มันอาจเต็มไปด้วยความหมาย หรืออาจเป็นบางอย่างที่ธรรมดา เช่น ของทำเอง เป็นการแสดงความตั้งใจทำให้คนรัก สื่อออกมาว่านี่คือความพิเศษสำหรับคนรักจริงๆ สิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้เติมเต็มได้เป็นอย่างดี

5.) การมีเวลาคุณภาพร่วมกัน

เวลาคุณภาพร่วมกัน (Quality Time) เป็นภาษารักที่เกิดขึ้นจากการใช้เวลาในการทำกิจกรรมร่วมกัน มีความสนใจคล้าย ๆ กัน โดยไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องอยู่ร่วมกันทางกายภาพอย่างเดียว แต่สามารถร่วมกิจกรรมกันได้หลาย ๆ ทาง เช่น

• การพูดคุยกัน

• การดูโทรทัศน์ ดูหนังด้วยกัน

• เล่นกีฬาร่วมกัน

• ทำการกุศลร่วมกัน

• การเล่นเกมส์ร่วมกัน

• การทำอาหารด้วยกัน

• การท่องเที่ยวด้วยกัน

• การเดินป่าด้วยกัน

• การดำน้ำด้วยกัน

• การตกปลาร่วมกัน

หากคุณได้ใช้เวลาร่วมกันโดยที่ไม่อยากให้มีอะไรมาแทรก ให้ความสนใจกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมอะไร สิ่งเหล่านี้คือการได้ใช้เวลาคุณภาพที่มีร่วมกันแล้ว

คุณลองพิจารณาตัวเอง เมื่อคุณรู้ว่าตัวเองมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ภาษารักแบบใด และลองสังเกตว่าคนรักของคุณมีแนวโน้มที่จะชอบใช้ภาษารักแบบไหนใน 5 แบบนี้

คุณอาจประหลาดใจว่า คนรักของคุณสามารถแสดงออกถึงความรักในรูปแบบของเขามากขึ้นจนเป็นที่พอใจ

นอกจากนี้คุณจะสามารถเข้าใจความห่วงใยของแต่ละคนที่ส่งมาให้คุณได้มากขึ้น และค่อยๆ ปรับความเข้าใจ เพื่อเข้าหากันได้ดีขึ้นเป็นลำดับ

เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์

#Talktonitima


อ้างอิงข้อมูล

https://www.focusonthefamily.com/marriage/understanding-the-five-love-languages/

https://www.5lovelanguages.com/5-love-languages/

https://cratedwithlove.com/blog/five-love-languages-and-what-they-mean/

ใช้ชีวิตท่ามกลางโควิดอย่างไร ? เรื่องเล่าจากสถาปนิกสาวไทย ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี กับวัคซีนเข็มแรก ‘Sputnik V’ ของรัสเซีย

ฮังการี ถือเป็นประเทศแรกที่สั่งซื้อวัคซีนจากประเทศรัสเซีย ชื่อวัคซีน Sputnik V (สปุตนิก วี หรือ สปุตนิก ไฟว์) วัคซีนนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความรีบเร่ง ขาดความโปร่งใส ไม่ปลอดภัย หรือบางคนก็บอกว่ารู้สึกกลัวมาก ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน หากเราเป็นผู้อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของฮังการี อย่าง บูดาเปสต์ (Budapest) มีประชากรมากที่สุดในประเทศฮังการี อยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านคน และหากกล่าวถึงช่วงสถานการณ์โควิดในบูดาเปสต์แล้ว ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อในเมืองบูดาเปสต์ รวม ๆ สะสมอยู่ประมาณแสนกว่าคน แล้วท่ามกลางสถานการณ์โควิดจะใช้ชีวิตอย่างไร ? กับการที่จะได้รับวัคซีน แต่ถูกกล่าวหาว่าไม่ปลอดภัย

คือ อาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยตกใจอะไรง่าย ๆ และอีกเพราะทางนี้ เราระบาดช้ากว่าทางจีน แรก ๆ ก็หาจะข้อมูล เตรียมความพร้อมไว้หลายอย่าง เหมือนก็ได้เตรียมตัวไว้ก่อน ได้อ่านข่าวทุกวัน เตรียมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ ถุงมือยาง หรือเรียกว่า ตุนไว้ก่อน ซึ่งปกติที่นี่ฝรั่งไม่ค่อยใส่หน้ากากกันในช่วงแรก ๆ แต่ถึงตอนนี้ก็ใส่ทุกคนแล้ว บางคนใส่หน้ากากหนา 2 ชั้น การใช้ชีวิตของเรายังค่อนข้างปกติ ยกเว้นการงดปาร์ตี้ ส่วนอื่น ๆ ยังคงออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย เรื่องอาหารการกิน ถ้าออกไปซื้อของกินที่ Supermarket ก็จะไปอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยเฉลี่ย ก็ดูก่อนว่าข้างในมีคนเยอะมากมั้ย ถ้าเยอะมาก ๆ ก็รอวันอื่น ไว้ค่อยไปใหม่วันหลัง เพื่อลดระยะห่างให้ได้มากที่สุด ทางที่ดีจะไม่ไปทานอาหารที่ร้าน จะสั่งมาทานที่บ้าน และทำอาหารทานเองสะส่วนใหญ่ แล้วก็พกข้าวกล่องเพื่อไปทานที่ทำงาน แต่ก็ยังคงไปทำงานทุกวัน ไม่เคย Work from Home เลย

ในขณะที่เราก็ยังป้องกัน ดูแลตัวเองทุกอย่าง ลดระยะห่าง และใส่หน้ากากตลอด ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ บริษัทสถาปนิกญี่ปุ่น ที่ฮังการี ซึ่งแรก ๆ อาจจะกังวลในเรื่องของการเดินทางไปทำงาน เพราะจากที่เคยขึ้นรถสาธารณะไปทำงานก็ต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากเสี่ยงโควิด ก็เปลี่ยนมาปั่นจักรยานไปทำงานบ้าง เดินไปทำงานบ้าง ในเรื่องนี้อาจจะแตกต่างจากสถานการณ์โควิด ตรงที่เรายังสามารถเตรียมตัวรับมือป้องกัน ซึ่งการเดินทางด้วยตัวเองก็ไม่ได้ง่าย ก็กลัวโดนทำร้ายจากการที่ป้องกันตัวเองได้ไม่ทัน เพราะก็มีเหตุการณ์ที่เห็นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ที่คนเอเชียมักจะโดนทำร้ายจากชาวตะวันตก ซึ่งยังไม่เคยเจอกับเหตุการณ์นี้ และหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น

ไม่เพียงแต่การความเตรียมพร้อมแค่นี้เท่านั้น ทุกคนอาจจะไม่ได้โชคดี.. แต่เราเองก็รอดมาตลอด 90% เลย เพราะมีคนที่ทำงานใน บริษัท สถาปนิก ทีมเดียวกัน ติดโควิดไปแล้วถึง 3 รอบ เท่ากับที่ผ่านมา 1 ปี เราก็เลยต้องได้ตรวจโควิด ไปถึง 3 ครั้ง ตรวจ Antigen ไป 1 ครั้ง เช่นกัน (แอนติเจน มักเป็นสารที่แปลกปลอมหรือเป็นพิษต่อร่างกาย เช่น ตัวเชื้อแบคทีเรีย) แล้วถ้าเกิดว่าวันนึงเราไม่โชคดีแล้ว…จะยอมรับวัคซีนป้องกันก่อนดีกว่าไหม

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 เราได้ฉีดวัคซีนมาแล้ว เป็นแข็มแรก และครั้งแรก... วัคซีนที่ได้ฉีดนั้นเป็นของผู้ผลิตจากประเทศรัสเซีย ชื่อว่า “ Sputnik V ” (สปุตนิก ไฟว์) เป็นวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยและพัฒนากามาเลยา (Gamaleya Research Institute of Epidemiology and Microbiology) ของประเทศรัสเซีย ซึ่งขณะนี้ “ Sputnik V ” (สปุตนิก ไฟว์) ได้รับการอนุมัติให้ใช้แล้วหลายประเทศทั่วโลก อย่าง อาร์เจนตินา เมียนมา ลาว อิหร่าน อินเดีย ตูนิเซีย และปากีสถาน ซึ่งระบุถึงประสิทธิภาพ 91.6% หรือกลม ๆ 92 % โดยไม่มีผลข้างเคียงที่ผิดปกติ ทำให้ Sputnik V นี่ยิ่งได้รับความไว้วางใจมากยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับวัคซีนตัวอื่น ๆ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในฮังการีเริ่มลดลงจากระดับสูงสุดที่เคยทำไว้กว่า 6,000 รายต่อวัน ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2,000 รายต่อวัน และยังได้ถูกตีพิมพ์ผลการทดลองเชิงคลินิคในเฟสที่ 3 ตีพิมพ์ลงในวารสารแลนเซต วารสารการแพทย์ระดับนานาชาติ ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 “เวลานี้มีวัคซีนชนิดใหม่ในการร่วมต่อสู้ เพื่อลดอาการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว”


ข้อมูลอ้างอิง

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2559957

ผู้เขียน : สถาปนิกสาวไทย บริษัท สถาปนิกญี่ปุ่น ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

กาฬสินธุ์ - “อ.ยักษ์ แม่โจ้” ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาระดับประเทศ เยี่ยมและแนะนำวิธีปลูกกัญชาแก่วิสาหกิจชุมชนฯ ผู้ปลูกกัญชาถูกกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ จ.กาฬสินธุ์ ดร.อานนท์ สุทน ผอ.ศูนย์สาธิตแม่โจ้เกษตรศิลป์ จังหวัดกำแพงเพชร, นางพรรณี ดวงจันทร์ทิพย์ เจ้าพนักงานส่งเสริมสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารปลูกกัญชาถูกกฎหมายของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดย มี น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนฯ และนักวิชาการ ของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่พร้อมสมาชิก ให้การต้อนรับ

ดร.อานนท์ สุทน ผอ.ศูนย์สาธิตแม่โจ้เกษตรศิลป์ จ.กำแพงเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกกัญชาระดับประเทศได้ให้คำแนะนำ และแลกเปลี่ยนแนวทางการปลูกกัญชากับ นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษา-นักวิชาการของวิสาหกิจชุมชนฯ ที่จำเป็นต้องมีการเตรียมดินพร้อมกับการดูแลต้นและบำรุงรากให้มีความแข็งแรง ก่อนที่ลำต้นจะเติบโตมากขึ้น

ดร.อานนท์ กล่าวว่า ต้นกัญชาที่ปลูกแห่งนี้เป็นพันธุ์หางกระรอก ซึ่งตามแผนงานการปลูกจะมีอายุประมาณ 3 เดือนที่ต้องพร้อมต่อการเก็บเกี่ยว ดังนั้นในการดูแลรวมไปถึงการให้ปุ๋ย จำเป็นต้องมีระบบและเป็นเวลา จนกว่าที่ลำต้นจะเติบโตในช่วง 1 เดือนแรก

“ผมไม่ต้องการให้เกษตรกรผู้รับอนุญาตถูกต้อง จะต้องมาเสียเวลาในการดูแล เพราะต้นกัญชาสามารถที่จะทำให้เจริญเติบโตได้ สิ่งสำคัญขณะนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตถูกต้องสามารถปลูกได้เพียง 50 ต้นที่ถือว่าน้อยมาก แต่หากสามารถดูแลและทำให้มีใบกัญชาได้มากขึ้นกว่าเดิม ก็จะทำให้เกษตรกรวิสาหกิจผู้ปลูกกัญชามีรายได้ในจุดนี้ และในอนาคตกระบวนการแลกเปลี่ยนก็จะเกิดขึ้นอยู่ตลอด ขอให้วิสาหกิจฯ มีความมั่นใจและพัฒนาตามที่แนะนำ”

สำหรับวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับอนุญาตถูกต้อง เป็นหนึ่งในสามแห่งของจังหวัดกาฬสินธุ์  รับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และได้ทำการปลูกลงดินเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่คาดว่าผลผลิตจะสามารถออกสู่ตลาดได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า


ภาพ/ข่าว ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

พัทลุง - สุดทึ่ง...เด็ก 10 ขวบ ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม ทำโรตีขาย ช่วยเหลือครอบครัว

เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับเด็กวัย 10 ขวบ ที่ชื่นชอบในการทำโรตี ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ลูกค้าที่พบเห็นต่างชื่นชมแห่อุดหนุน แม่ค้าวัย 10 ขวบ  มีชื่อเล่นว่าน้องไปร์  ด.ญ.รวิสรา คงเกื้อ  อายุ 10 ขวบ  เรียนอยู่ ชั้นประถมปีที่ 4  โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง  น้องไปร์เล่าให้ฟังว่าตนมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตัวเองเป็นคนโต หลงใหลการทำโรตีมาตั้งแต่เล็ก เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว เริ่มหัดทำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ

โดยมีอา นางสาวโฉมเฉลา คงเกื้อ เป็นคนถ่ายทอดวิชาให้  เริ่มตั้งแต่คอยเป็นลูกมือหัดห่อ หัดหัน  และ วิ่งเสิร์ฟ โรตี ให้กับลูกค้า จนกระทั้งหมั่นใจว่าหลานสาวชื่นชอบและตั้งใจจริง จึงได้หัดให้หลานสาวทุบแป้งโรตี จนชำนาญ และขั้นตอนสุดท้าย คือการทอดโรตี ซึ่งมีทั้งโรตีกรอบ และโรตี ใส่ไข่ ใส่นม ใส่กล้วย  1 ปี ผ่าน  ไม่น่าเชื่อว่า หลานสาววัย 10 ขวบ จะเรียนรู้จดจำ และพัฒนาสิ่งที่ชอบ จนทำโรตีขายเองได้อย่างน่าทึ่งของผู้พบเห็น  ลูกค้าแห่อุดหนุน กันล้นหลามทุกวัน

เมื่อถามว่าโตขึ้นมา น้องไปร์ อยากจะประกอบอาชีพอะไร น้องไปร์ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า อยากเป็นแม่ค้าโรตี เพราะตัวเองเป็นคนชอบทำโรตี เลยอยากให้ลูกค้าได้กินโรตีอร่อย ๆ มือของตน  และ อีกอาชีพหนึ่งที่ชอบคือ ครูสอนภาษาไทย  เพราะอยากให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับภาษาไทย

สำหรับลูกค้าที่ต้องความชิมความอร่อยรสชาดฝีมือของน้องไปร์ ได้ที่ร้าน โรตีดีไซน์  บายหญิงโฉม ในตลาดเรื่องเล่ากับข้าวยามเย็น  อ.เมืองพัทลุง  โทร 0936345456

แม่ฮ่องสอน – ผลกระทบจากพายุฝนในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 17 เมษายน 2564 เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ท่วมสวนเกษตรในพื้นที่หมู่ 10 ต.แม่ลาน้อย ทำให้พืชผลทางการเกษตร(สวนถั่วเหลือง)เสียหายและอุปกรณ์การเกษตรเช่น ท่อน้ำ(pvc)เสียหายและมีเศษของวัสดุเช่น เศษไม้ต่างๆอุดตันท่อระบายน้ำทิ้งระหว่างทางลอดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ซึ่งเกรงว่าหากมีมวลน้ำ หลากเพิ่มอีกจะทำให้เกิดความเสียหายต่อถนนหลวงได้ ในเบื้องต้นจะเข้าไปสำรวจก่อนส่งรายงานทางอำเภอ,ท้องถิ่นและแขวงการทาง กรมทางหลวงเพื่อแก้ไขต่อไป

และในวันเดียวกันเวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตำบลแม่ลาน้อย ตำบลท่าผาปุ้ม ตำบลแม่ลาหลวงและตำบลแม่นาจาง ทำให้ดินสไลด์ทับถนนสายบ้านห้วยหมากหนุน ต.ท่าผามปุ้ม ถนนคอสะพานบ้านห้วยไม่ขีดและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งอำเภอได้ประสานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว


ภาพ/ข่าว  เกียรติศักดิ์  รักสัตย์ / เกียรติยศ  รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน

                

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส ประชุม ศบค. จังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ติดตามการดำเนินงาน พร้อมปรับมาตรการให้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนด กำชับทุกอำเภอบริหารจัดการยับยั้งการระบาดอย่างทันท่วงที

วันนี้ (18 เม.ย. 64) ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดนราธิวาส (ศบค.จังหวัด) โดยมีคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดนราธิวาส ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ออกข้อกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 20 จึงต้องมีการปรับให้เข้ากับพื้นที่ โดยทุกส่วนราชการต้องร่วมกันระงับยับยั้งป้องกันโรค ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ทำให้ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อปรับมาตรการให้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนด

โดยคณะทำงาน ศบค. จังหวัดนราธิวาส ทั้ง 9 คณะ ได้นำเสนอการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอต้องมีมาตรการแก้ไขปัญหาระงับยับยั้งได้ทันที เพื่อควบคุมสถานการณ์ตามแนวทางที่กำหนด เมื่อมีผู้ที่ติดเชื้อขอให้บริหารจัดการในพื้นที่ทุกกรณี โดยรายงานด่วนมายังจังหวัดเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที

จากนั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส เพื่อพิจารณาออกมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งในวาระแรกเป็นเรื่องมาตรการของจังหวัดนราธิวาสตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 ซึ่งมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่บังคับใช้ในปัจจุบัน คือ การควบคุมตลาดและถนนคนเดิน , การให้ทุกคนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และคำสั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกัน

สำหรับมาตรการที่จะต้องมีการปรับปรุงคำสั่ง คือ มาตรการควบคุมแต่ละพื้นที่ โดยกำหนดมาตรการพื้นที่ควบคุมให้ตรงกับข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 20 รวมทั้งจะมีการกำหนดมาตรการในเรื่องการห้ามการดำเนินการ หรือจัดกิจกรรม หรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งยังไม่ได้กำหนดมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการกำหนดมาตรการในเรื่องการงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางให้ครอบคลุมทั้ง 18 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมทั้งการกำหนดมาตรการจัดกิจกรรมทางสังคม การดำเนินรูปแบบปฏิบัติงานที่เหมาะสม และในด้านมาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ ที่จะต้องมีข้อสั่งการเพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนราธิวาสเตรียมการในเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ในด้านมาตรการตามประกาศของจุฬาราชมนตรี ฉบับที่ 4/2564 ลงวันที่ 12 เมษายน 2564 และมาตรการที่ออกตามข้อกำหนด ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ประชุมได้ร่วมกันหารือและนำเสนอร่วมกัน โดยจะยึดตามประกาศจุฬาราชมนตรี และให้งดการออก “ดะวะห์” และ “โยร์” ซึ่งจะมีการออกคำสั่งจังหวัดและแจ้งมาตรการในพื้นที่ให้ถือปฏิบัติต่อไป

ในด้านการกักตัวสังเกตอาการแบบ Home Quarantine จะใช้มาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น โดยให้ทุกอำเภอควบคุมดูแลตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสยังได้เน้นย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดดระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

ยะลา - เบตง ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ อ.เบตง ณ ด่าน กม 23 หลังจากที่ขณะนี้ จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่ด่าน กม.23 อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เข้าประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในการกำหนดเพื่อยกระดับการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ภาย หลังจังหวัดยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย อ.เมืองยะลา 2 ราย อ.เบตง 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย โดยมี ตำรวจ ฉก.ตชด.44 ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ รพ.เบตง ผอ.รพ.สต. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล ท้องถิ่นอำเภอเบตง ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วม

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในครั้งนี้ ตนได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบูรณาการในหมู่บ้านเพื่อดำเนินการในการ ตั้งจุดตรวจ/จุดคัดกรอง ในการการเข้า-ออกหมู่บ้านโดย ให้ทุกฝ่ายจัดเตรียมความพร้อมสถานที่กักตัวสำรองเพื่อรองรับผู้เข้าสังเกตการณ์อาการเริ่มป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมเน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการตำบล (ศปก.ต.) ร่วมค้นหาและคัดกรองคนในหมู่บ้านที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเชิงรุก และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ยกระดับปฏิบัติการการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยกระดับการปฏิบัติคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ณ ด่าน กม 23

โดยสถานการณ์ COVID19 ในจังหวัด ยะลา ระลอกเดือนเมษายน 2564 " (เริ่ม 1 เม.ย. 2564 วันที่ 18 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย โดยพบในพื้นที่ อ.เมืองยะลา 2 ราย และอำเภอเบตง 1 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต  โดยที่ประชาชนทุกคน ต้องให้ความร่วมมือ สวมหน้ากากอนามัย ร้านอาหาร ยังไม่ปิด แต่ให้มีการจัดการตามรูปแบบที่เคยปฏิบัติ มีแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างในการเข้าใช้บริการ ปิดสถานบริการ/สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ/อาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID19 เป็นการชั่วคราวเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 – 23 เมษายน 2564 การจัดงานแต่งงาน ต้องจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ/จุดล้างมือ เว้นระยะห่างในการนั่ง สวมแมส ตลอดยกเว้นช่วงทานอาหาร พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจล แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย เว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น หลีกเลียงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ติดตั้งและสแกน Application "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนในการเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการปกป้องดูแลสุขอนามัย ของประชาชนจากการแพร่ระบาดของโรคฯ และหากผู้ใดไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถานมีความผิดตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

เชียงราย - ผู้ป่วยโควิด เพิ่ม 17 ราย ยอดรวม 140 รายแล้ว เริ่มทยอยส่งผู้ป่วยเข้าศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง

วันที่ 18 เม.ย.64  สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในจังหวัดเชียงราย พบว่ามีผู้ป่วยรวม 140 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 17 ราย แยกเป็น อ.เมือง 71 ราย แม่สาย 36 ราย เชียงของ 5 ราย เชียงแสน 4 ราย เทิง 4 ราย แม่สรวย 3 ราย แม่ลาว 3 ราย พาน 3 ราย แม่จัน 3 ราย เวียงป่าเป้า 2 ราย พญาเม็งราย 2 ราย ขุนตาล 2 ราย เวียงชัย 1 ราย แม่ฟ้าหลวง 1 ราย โดยเวลา 08.30 น. พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และสอบถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่เวรที่ขึ้นปฏิบัติงานหมุนเวียนดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยรวม (cohort ward) อาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลศูนย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจความพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19

โดยในวันนี้ได้มีการประสานไปยังทางโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวน 11 ราย จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้จำนวน 200 เตียง โดยแบ่งเป็นโซนละ 7 -8 เตียง มีห้องน้ำเฉพาะโซน แยกหอผู้ป่วย หญิง ชาย โดยมีอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์เตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยทีจะเขารับการรักษา

นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณะสุขจงหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้ผู้ที่ไปตามจุดดังกล่าวที่อยู่ในไทม์ไลน์ผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเอง โดย 1.ให้สังเกตอาการ และงดเดินทางไปในสถานที่ชุมชน โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า งานบุญประเพณี หรือสถานที่อื่นใดที่มี ลักษณะเดียวกันสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เป็นเวลา 14 วัน   2.ผู้ที่ไปสถานที่ในวันและเวลาดังกล่าวภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ใกล้บ้าน  โดยสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไป ในพื้นที่ อ.เมือง คือ

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 18.00 น. - 03.00 น. รถโดยสาาร บขส. พิษณุโลก - เชียงราย  วันที่ 6 เม.ย.64 ร้านฟ้อน วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 14.00 น.-15.55 น. บ้านสวนภูเพียง วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 16.00 น.-17.00 น. ส้มตำปูม้าเจ็ดยอด วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 19.00 น.-20.00 น.เซ็นทรัลพลาซาเชียงราย วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 18.00 น.-19.00 น.โฮมโปรเชียงราย วันที่ 9,11,12 เม.ย.64 เวลา 17.00 น. -19.00 น.กาดหลวง  วันที่ 10 เม.ย.64 00.00 น.ร้าน Super Karaoke   วันที่ 8,9 เม.ย.64 โรงแรม NAP Hotel วันที่ 7-8 เม.ย. เวลา 17.20 น.-20.20 น. ร้านตูบสิงห์ วันที่ 7-16 เม.ย.64 หอพักจีเกสเฮ้าส์ วันที่ 10 เม.ย.64 ช่วงเช้า คลินิกหมออัจฉรา วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 16.30 น.-16.50 น.ร้านชาบู 77 วันที่ 11-13 เม.ย.64 บ้านงานศพ ม.5 ต.ป่าอ้อดอนชัย วันที่ 14 เม.ย.64 20.00 น. - 21.00 น. ร้าน 7-11 ศรีทรายมูล     ในส่วนของ อ.แม่สาย   วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 15.00 น.-15.30 น. ที่ว่าการอำเภอแม่สาย  วันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 11.00 น.-14.00 น. งานแต่งงานบ้านป่าเหมือด ซอย 5  วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. - 12.00 น. คริสตจักรบ้านถ้ำ    ส่วนของ อ.แม่จัน วันที่ 9 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. ร้านมองดอยคาเฟ่   ส่วนของ  อ.เชียงของ  วันที่ 11-22 เม.ย.64 20.00 น.-07.30 น. รถทัวร์ กรุงเทพฯ -เชียงของ นั่งแว 9B-9C ทะเบียนรถ 96242 หากพบว่มีอาการข้างต้นให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เมื่อสัตว์ทุกตัว ทุกชนิด ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงเสมอไป การฝืนธรรมชาติ ไม่อาจฝืนสัญชาตญาณดุร้าย นำไปสู่ภัยร้าย ใกล้ตัวกว่าที่คิด

ในปัจจุบัน การมีสัตว์เลี้ยงแทบจะเป็นแฟชั่นประจำตัวของผู้คนในยุคนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน แต่ละคนก็มักจะมีสัตว์เลี้ยงข้างกาย ที่พบเห็นมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น สุนัข แมว ฟังดูก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาขณะนี้ คือสัตว์บางชนิดไม่เหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยง หรือกล่าวคือ ไม่เหมาะกับการอยู่ในสังคมและสภาพแวดล้อมของมนุษย์

ในยุคนี้พบว่า นอกจาก สุนัข แมว ปลา หนู ผู้คนยังนิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ มากมาย อาทิ แมงมุม กิ้งก่า ชูก้าไรเดอร์ แพรรีด็อก หรือแม้กระทั่ง สัตว์ที่ไม่น่าจะนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ งู ที่หลายคนต่างเสาะแสวงหาสายพันธุ์ที่ไม่มีพิษ และลวดลายความสวยงาม มาเลี้ยงประดับไว้ โดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติของพวกมัน

ถึงแม้จะเชื่องแค่ไหน แต่สัญชาตญาณสัตว์ป่าไม่สามารถเดาใจได้ ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดในสหรัฐอเมริกา ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวว่า มีผู้พบ น.ส.ลอร่า เฮิร์สท์ อายุ 36 ปี นอนนิ่งโดยมี งูเหลือม ขนาดยาวเกือบ 2.5 เมตรพันรอบๆ คอ ขณะที่บ้านซึ่งพบศพน.ส.เฮิร์สท์มีงูอาศัยอยู่อีก 140 ตัว ในจำนวนนี้ 20 ตัวเป็นงูของน.ส.เฮิร์สท์ ที่ต้องเข้ามาดูแลเป็นประจำ

หรือกรณีของ แน็ก ชาลี ที่ได้โพสต์คลิปขณะที่ถูกงูหลามที่เลี้้ยงเอาไว้กัดจนได้เลือด ถึงแม้จะพูดติดตลกว่า งูหลามของตนกัดพลาด เพราะคิดว่าเป็นน่องไก่ ล้านปีไม่เคยกัด เป็นงูที่ใจดีที่สุด กรณีนี้ทำให้เราต้องหันมาตระหนักว่า ไม่เคยกัด ไม่ใช่ว่ากัดไม่เป็น

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สัตว์ทุกชนิดไม่ได้เหมาะแก่การเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่เหมาะที่จะนำมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่ของพวกมัน บางครั้งผู้คนนิยมแค่ตอบสนองความต้องการของตัวเอง ใช้ความแปลก ความหายาก ความนิยมของสัตว์แต่ละชนิด ดึงพวกมันออกมาจากสิ่งแวดล้อมที่ควรอยู่

สัตว์บางชนิดมีความต้องการและพฤติกรรมตามธรรมชาติที่ซับซ้อน ซึ่งมีแค่สภาพแวดล้อมเดิมเท่านั้นที่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ และเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงความทุกข์ทรมานนี้

มีข้อมูลว่า สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวนั้นถูกนำมาเลี้ยงดูนับหลายพันปี ทำให้พวกมันถูกคัดเลือกสายพันธุ์ให้มีลักษณะเฉพาะที่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้โดยปราศจากความกลัวหรือความทุกข์ทรมาน แต่สัตว์ป่าหรือสัตว์บางชนิดไม่ได้เกิดมาเพื่ออาศัยอยู่ในบ้าน เพราะลักษณะนิสัยสัตว์ป่า ทำให้พวกมันไม่เหมาะที่จะถูกเลี้ยงไว้ในสภาพแวดล้อมภายในบ้าน

หากสังเกตข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ จะพบว่าประเด็นสัตว์เลี้ยงทำร้ายคนมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลอย่าง เจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมอ้วนที่ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวมนุษย์ อยู่ภายในตลาดนัดเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ที่มีน้ำหนักมากจนเกือบถึง 20 กก. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวมาดูแล ซึ่งเจ้าก๊อตซิลล่าตัวนี้ยังได้กัดมือนักข่าวสาวที่ไปทำข่าว แผลลึกถึงกระดูก เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ลิงแสมตัวนี้ได้เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้ว ตามสันชาตญาณสัตว์ป่านั้น ลิงจะเริ่มดุร้ายขึ้นและอาจจะกัดหรือทำร้ายคนรอบข้างทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของที่เคยเลี้ยงดูมา ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนได้

ที่ยกมาเป็นแค่กรณีตัวอย่างเท่านั้น เชื่อว่ายังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เจ้าของถูกสัตว์เลี้ยงของตัวเองทำร้าย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว หรือสัตว์แปลก ๆ เหล่านั้น การก้าวก่ายห่วงโซ่อาหาร พยายามเปลี่ยนแปลงวัฏจักรชีวิตของสัตว์ ดึงพวกมันออกมาและพยายามเลี้ยงในวิถีของมนุษย์ สุดท้ายสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าของพวกมันที่ถูกกดไว้ก็จะแสดงออกมาตามธรรมชาติ อย่างที่ควรเป็น เมื่อนั้นคงไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เพราะพวกมันไม่ได้เป็นผู้เลือกที่จะอยู่ แต่เป็นฝีมือมนุษย์ ที่พยายามฝืนธรรมชาติ เปลี่ยนความเป็นสัตว์ร้ายของพวกมันให้อยู่ในคราบสัตว์เลี้ยง


อ้างอิงข้อมูล:

https://www.worldanimalprotection.or.th/news/5-resasons-not-buy-exotic-pet

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3021984

ประจวบคิรีขันธ์ - หวาดเสียว กองทัพเรือช่วยเหลือลูกเรือประมง ถูกแทงกลางทะเล

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 18.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย ดีล้วน นามเรียกขาน มดดำนาวี 152 ว่าลูกเรือประมง จ.ธีรเจริญชัย 5  (เรืออวนลากคู่) ทะเลาะวิวาทแล้วแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณ แลต 12 องศา 35 ลิปดา เหนือ ลอง 100 องศา 09 ลิปดา ตะวันออก (แบริ่ง 222 ระยะ 14.1 ไมล์ จากปากน้ำปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ จึงขอความช่วยเหลือมายัง ทัพเรือภาคที่ 1 ให้ส่งเรือไปรับผู้บาดเจ็บที่กลางทะเลกลับเข้าฝั่ง เพื่อนำส่งโรงพยาบาล

ในการนี้ พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้ สั่งการให้ เรือ ต.264 ซึ่งจอดเรือเฝ้าตรวจอยู่ที่ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี ออกทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังมีสติ สามารถพูดคุยได้ปกติ จึงได้ทำการกดปิดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด และนำตัวลูกเรือประมงที่ได้รับบาดเจ็บ มาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี พร้อมประสานรถกู้ชีพ มารับตัวนำส่งยังโรงพยาบาลปราณบุรี ส่วนผู้ที่ก่อเหตุได้จับกุมตัวส่ง สภ.หัวหิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่ให้การช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ประสบเหตุในครั้งนี้ส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที สมกับที่เป็น  “กองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"


ภาพ/ข่าว : กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช /นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ฉะเชิงเทรา - หยุดไม่อยู่ทะลุ 100 ผู้ติดเชื้อโควิค -19 ระลอก 3 จังหวัดเตรียมเปิดใช้ รพ.สนาม

วันนี้ 18 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ของจังหวัดจังหวัดฉะเชิงเทราล่าสุดวันนี้ครบ 100 ราย พอดีขณะที่นายไมตรี  ไตรติลานันท์ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราขอให้พี่น้องประชาชน การ์ดอย่าตก เพิ่มความเข้มในการดูแลตัวเองให้มากขึ้น ใส่แมสตลอดเวลาที่ออกจากบ้านไปไหนมาไหนหมั่นล้างมือบ่อย ๆ อย่าลืมเว้นระยะห่างกันด้วย

ขณะนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดโรงพยาบาลสนาม 90 เตียง ที่จะเปิดในวันที่19 เมษายนนี้ เป็นศูนย์พุทธโสธรประชารักษ์โดยรพ.พุทธโสธร ณ.ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชา การทหารพัฒนา อ.พนมสารคามซึ่งได้มีการซักซ้อมแผนขั้นตอนการปฏิบัติในการรับตัวผู้ป่วยโควิด -19 เข้ามาพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ถูกจัดเตรียมไว้โดยแยก เป็นชายหญิงอย่างชัด เจนซึ่งจะมีทีมแพทย์พยา บาลคอยเฝ้าดูอาการ ผ่านระบบ Intercom เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในโรงพยา บาลหลัก  เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น​อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางจังหวัดจึงได้จัดเตรียมสถานที่และพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการเข้ารับการรักษาตัวของผู้ป่วยโควิด-19

และก่อนหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดยังใด้เซ็นต์คำสั่งงดกิจกรรมทุกชนิดให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เรื่องมาตรา การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในสถานที่ทำงานและกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง

ให้หัวหน้าส่วนราชการ/ผู้บริหารหน่วยงานมอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พัก (Work from Home) และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการปฏิบัติงานทุกชนิด โดยให้เปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา และให้ทุกหน่วยงานพิจารณาจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ. สถานที่ทำงาน ในแต่ละวันทำการโดยให้คำ นึงถึงบุคลากรที่จำเป็นสำ  หรับการให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญให้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงาน งดกิจกรรมการจัดประชุม การฝึกอบรม การศึกษาดูงาน การสัมมนาต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมากเว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ควรมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน  50 คน และให้ควบ คุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด และควรจัดในสถานที่เปิดโล่งมีระบบระ บายอากาศถ่ายเทได้ดี พร้อมดำเนินการตามมาตรา การป้องกันโรคของกระ   ทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการตรวจเช็ตในแต่ละอำเภอที่เป็นเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรืออำเภอที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากสำหรับพนักงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา(ต่างจังหวัด)หรือพนักงานที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต่างจังหวัดในช่วงเทศการสงกานต์และเดินทางกลับมาพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปรกติในวันจันทร์ที่19เมษายนนี้พบว่ายังไม่มีการกักตัวหรือราย งานตัวต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่ออำเภอ โดยเฉพาะที่บางปะกง  ที่มีรอยต่อจ.ชลบุรี และสมุทรปราการเกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก


ภาพ/ข่าว  สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top