Tuesday, 10 June 2025
SPECIAL

เกษตรฯ เดินหน้า "5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" วางหมุดหมายแผน 5 ปีพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนแม่น้ำโขงรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ ดึงทุกภาคีร่วมขับเคลื่อน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการเกษตรจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขง เปิดเผยถึงผลการประชุมผ่านระบบ ZOOM ในวันนี้ (28 พ.ย.) โดยมีนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวง นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นายทินกร อ่อนประทุม คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา ประธานสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน ศ.ดร.ทวนทอง จุฑาเกตุ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายกฤษฎา บุญชัย จากสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนองค์กร ตัวแทนเกษตรกรจากทุกจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ในประเด็นความก้าวหน้าของการทำงานโดยคณะอนุกรรมการฯในพื้นที่ และแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 - 2570 พร้อมพิจารณาการตั้งของบประมาณในปี 2566 ตามโครงการพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของประชาชนต่อผลกระทบของแม่โขงที่เปลี่ยนแปลงไป

คิดแต่เรื่องดีๆ พูดกันแต่เรื่องดีๆ ทำแต่เรื่องดีๆ ไปสู่สถานที่ดีๆ สมาคมกับคนดีมีปัญญา

คิดแต่เรื่องดีๆ พูดกันแต่เรื่องดีๆ

ทำแต่เรื่องดีๆ ไปสู่สถานที่ดีๆ

สมาคมกับคนดีมีปัญญา

- คำสอน หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -
 

Red Cross Fun(D) Fair x Sharing Show งานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบ The Musical Show เปิดประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติ

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 พร้อมด้วย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย รองประธานกรรมการฯ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแผนกประชาสัมพันธ์งานกาชาดประจำปี 2564 นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กรรมการและเลขานุการฯ จัดงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบ The Musical Show “Red Cross Fun(D) Fair x Sharing Show” ขึ้นเป็นครั้งแรก ร่วมด้วยคณะกรรมการแผนกต่าง ๆ อาทิ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สมาคม มูลนิธิ อาสาสมัคร ผู้เข้าประกวดขวัญใจงานกาชาด คณะกุลบุตร-กุลธิดากาชาด และสื่อมวลชนทุกแขนง รวมถึงสื่อมวลชนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด ร่วมชมพร้อมกันผ่านระบบ ZOOM Meeting และทางเว็บไซต์ www.งานกาชาด.com, www.redcrossfair.com   

โดยงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดในปีนี้จะนำผู้ชมทุกท่านทะลุผ่านมิติเข้าสู่ดินแดนแห่งการผจญภัย ในโลกที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการให้และการแบ่งปัน ในรูปแบบ The Musical Show ผจญภัยไปพร้อมกับ AVATAR เสมือนจริง สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย เชิญชวนท่านชอปเพลินกับสินค้ามากมาย พิชิตรางวัลแบบ non stop และการเปิดตัวผู้เข้าประกวดขวัญใจงานกาชาดประจำปี 2564 จากหน่วยงานต่างๆ และกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ ที่จะพาทุกท่านได้เปิดประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติไปพร้อมกัน นำแสดงโดย อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ และนักแสดงรับเชิญจากขวัญใจงานกาชาดประจำปี 2562-2563 คณะกุลบุตร-กุลธิดากาชาด ร่วมด้วยนักแสดงกิตติมศักดิ์ นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย 

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 กล่าวถึงการจัดงานกาชาดในรูปแบบออนไลน์ปีนี้ว่า “งานกาชาด เป็นมหกรรมรื่นเริงการกุศลที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานเกือบศตวรรษ มีการปรับเปลี่ยนพัฒนากิจกรรมและรูปแบบตามยุคสมัยแบบไม่เคยหยุดนิ่ง ซึ่งปีนี้คณะกรรมการจัดงานทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจสานต่อกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นร้านโครงการส่วนพระองค์ หน่วยงานจากภาครัฐ กลุ่มพลังงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ ห้างร้านต่างๆ อาสาสมัคร และสื่อมวลชนที่ร่วมกันสร้างสรรค์งานกาชาดให้เป็นมหกรรมการกุศลคู่คนไทยมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน งานกาชาดปีนี้พัฒนาให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงกิจกรรมความสนุกสนานต่างๆ ที่รอคอยให้ทุกท่านได้เข้าไปเยี่ยมชม สั่งซื้อสินค้า ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัล ซื้อสลากกาชาด ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชมการประกวดขวัญใจงานกาชาด และร่วมเป็นผู้ให้กับสภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ตกทุกข์ได้ยากในด้านต่างๆ ต่อไป”

นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 เผยถึงการจัดงานเปิดตัวแพลตฟอร์มในรูปแบบ The Musical Show และกิจกรรมพิเศษในงานกาชาดว่า “การจัดงานกาชาดในแต่ละปีมีความท้าทายที่แตกต่างกันไป งานกาชาดที่จัดมาเกือบหนึ่งร้อยปีจะทำอย่างไรให้คณะกรรมการแผนกต่างๆ หน่วยงานที่ร่วมออกร้านและผู้ชมงานยังตื่นเต้น ยังรอคอย และสนุกไปกับงานในแต่ละปี จึงเป็นโจทย์ยากที่ทีมงานต้องช่วยกันคิดให้มีความแปลกใหม่ โดดเด่น แตกต่าง และเข้าถึงง่ายตามยุคสมัยและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ปีนี้งานเปิดตัวแพลตฟอร์มในรูปแบบ The Musical Show เรียงร้อยเรื่องราวกิจกรรมในงานกาชาดออนไลน์ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ด้วยการแต่งเป็นบทเพลง เนื้อร้องทำนอง เติมบทพูดใส่สีสันต่างๆ ให้ผู้ชมที่รอคอยเที่ยวชมงานได้สัมผัสบรรยากาศและเห็นภาพจินตนาการเป็นรูปธรรมมากขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมด้วยการเชิญให้คณะกรรมการทุกแผนก สื่อมวลชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดผ่านระบบ ZOOM Meeting เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด”

โดยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติ #Fun(D) Fair x Sharing” ระหว่างวันที่ 14 – 27 ธันวาคม 2564 รวม 14 วัน 24 ชั่วโมง สามารถเข้าชมงานได้ทั้งสองช่องทางที่ www.งานกาชาด.com และ​www.redcrossfair.com มีการพัฒนารูปแบบและกิจกรรมภายในงานให้มีความหลากหลายสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความชื่นชอบของผู้เที่ยวชมงานทุกวัยมากยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการเข้าแพลตฟอร์มโดยไม่ต้อง log in เข้าระบบ กรอกข้อมูลเพียงครั้งเดียวเมื่อถึงขั้นตอนชำระสินค้าหรือการบริจาคเงิน โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ เมื่อเข้าแพลตฟอร์มแล้วจะพบกับหน้า Lite Version : ช้อปเพลินเดินทีหลัง สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าโดยเฉพาะ และหน้า Full Version : ชมให้ครบจบที่ช้อปปิ้ง สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวชมงาน ร่วมกิจกรรม เล่นเกม ลุ้นรับของรางวัลและซื้อสินค้า 

สำหรับสีสันกิจกรรมงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบออนไลน์ ประกอบด้วย... 

•การแปลงโฉม AVATAR ก่อนเข้างาน โซนสวนสนุก ออกแบบให้เสมือนจริงยิ่งขึ้น 

• บ้านผีสิงแบบ interaction ชวนหลอนทะลุมิติ   

• ชิงช้าสวรรค์ทิพย์ชมวิว 360 องศา 

• ฉายหนังกลางแปลง 14 วัน 14 เรื่อง 

• เขย่าเซียมซีลุ้นคำทำนาย

• การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ร้านโครงการส่วนพระองค์ อาทิ ผ้าไทย กระเป๋า เครื่องจักสาน อาหาร ผักดองวังสระปทุม ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และสินค้าจากร้านค้าหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมชื่นชม

• การออกแบบประกวดร้านงานกาชาด จากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ พลังงาน สถาบันการศึกษา สมาคม มูลนิธิ 

• ช้อปร้านค้าเอกชนแบรนด์ดังมากมาย และร้านจากเหล่ากาชาดจังหวัด คัดสรรสินค้าดีประจำจังหวัดมาจำหน่ายในโซนสภากาชาดไทย รวมทั้งสิ้นกว่า 200 ร้าน 

• การประกวดขวัญใจงานกาชาด ชวนโหวตดอกไม้เฟ้นหาทูตแห่งการให้ 

• พยากรณ์ดวงชะตาออนไลน์ หลากหลายศาสตร์จากโหรดังมากประสบการณ์ จาก 3 สมาคม 

• ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม โขนละคร การแสดงดนตรีจากศิลปิน นักแสดงจากหลากหลายสังกัด หรือจะเลือก... 

• สั่งอาหารมื้อพิเศษกับเครื่องดื่มโอวัลติน x KOI พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงานกาชาด จัดส่งรวดเร็วกับพันธมิตรขนส่งระดับประเทศ นอกจากนั้นยังมี

• Virtual exhibition แหล่งเรียนรู้จากหน่วยงานต่างๆ และสถานเสาวภาสภากาชาดไทย เปิดสวนงูให้ชมถึงหน้าจอ การบริจาคดวงตา อวัยวะ ร่างกายกับสภากาชาดไทย จองคิวบริจาคโลหิต ผ่านระบบออนไลน์ 

• อุดหนุนเสื้อและสินค้าที่ระลึกงานกาชาดประจำปี 2564 

• สลากกาชาดจากหน่วยงานต่าง ๆ และลุ้นรางวัลใหญ่พร้อมกันในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 และ

• กิจกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของงานกาชาด ในรูปแบบเกมออนไลน์ อย่างสอยดาว ปาเป้า เกมเศรษฐีตอบคำถามชิงรางวัล จับคู่ลุ้นรางวัล 

• ค้นหาผู้พิชิตภารกิจ e-Passport คว้ารถยนต์จากการเข้าชมแพลตฟอร์ม และร่วมบริจาคสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประสบภัยพิบัติตามภารกิจของสภากาชาดไทย 

‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ฟันเฟืองสำคัญ ขับเคลื่อน ‘Metaverse’ โลกสุดล้ำแห่งอนาคต!! | LOCK LENS GURU EP.56

LOCK LENS GURU รายการที่จะพาทุกคนมาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจ ไปกับ ‘กูรู’ ตัวจริง 

???? พบกับ กูรู ‘ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์’ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

???? ช่องทางรับชม LIVE 
YouTube : THE STATES TIMES

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/post/2021102306

“ปลอม - เท็จ”!! ระเบิดเวลา ‘สหกรณ์ออมทรัพย์’ คอร์รัปชัน...ไหมครับท่าน ตอนที่ 8

สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร อยู่ภายใต้กฎหมายสหกรณ์ มีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รับผิดชอบทำหน้าที่ “นายทะเบียน” ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง

ในด้านดี สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นสถาบันการเงินที่เป็นการจัดสวัสดิการภายในให้กับหน่วยงาน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้สมาชิก ส่งเสริมการออม และเป็นแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยราคามิตรภาพให้แก่สมาชิก ในขณะที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าตลาดในการระดมเงินฝาก หรือจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับการฝากธนาคาร ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์มีความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังเกษียณอายุ

แม้ว่าในระยะหลังข่าวคราวของวงการสหกรณ์จะไม่สู้ดี เนื่องจากมีบางสหกรณ์ที่ไม่ทำหน้าที่ตามปรัชญาและอุดมการณ์ของสหกรณ์ จึงเกิดกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาล กรณีคลองจั่น กรณีรถไฟ ซึ่งทั้งหมดพัวพันกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการดำเนินการ ส่วนกรณีทั่วไปที่ไม่เป็นข่าว เช่น การปลอมลายมือชื่อ การโกงของเจ้าหน้าที่ ความเสียหายยังจำกัดวง และสามารถแก้ไขได้ แต่ความน่าเชื่อถือของสหกรณ์นั้น ๆ จะลดลงไปเป็นลำดับ

ในบทบาทหนึ่งของสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้นั้น สหกรณ์มีบทบาทในการส่งเสริมและช่วยเหลือให้สมาชิกมีบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดี สหกรณ์ส่วนใหญ่จึงมักให้สินเชื่อระยะยาวกับสมาชิกที่ซื้อหรือสร้างบ้าน เพื่อให้ผ่อนรายเดือนน้อย ๆ มีการสร้างฐานะและมีสวัสดิการที่ดีขึ้น

ในการกู้ซื้อบ้านพร้อมที่ดินตามโครงการจัดสรรส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหาเนื่องจากราคาที่ดิน และการปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้เอกสารต่าง ๆ ถูกต้องตามกฎหมายสามารถนำไปยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ และการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยก็ทำให้สมาชิกสหกรณ์ที่มีเครดิตดี มีความสามารถชำระหนี้ ก็เลือกกู้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารทั่วไป ในขณะที่สหกรณ์ส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยไม่ยืดหยุ่นนัก และบางแห่งมีอัตราเดียวที่สูงกว่าธนาคารทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ จะเห็นได้ว่า กรณีเช่นนี้จะก่อให้เกิดปัญหาคลาสสิกที่ทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า Adverse Selection หรือ การเลือกในทิศทางที่แย่

เรื่อง การเลือกในทิศทางที่แย่ รองศาสตราจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ อธิบายไว้โดยใช้ตัวอย่างของระบบประกันภัยหรือประกันสุขภาพ ที่ว่า มีคนสุขภาพดีและคนป่วยอยู่ปนกัน หากบริษัทประกันเก็บเบี้ยประกันราคาเดียวจะทำให้มีแนวโน้มจะได้คนป่วยทำประกันมากกว่าคนสุขภาพดี แต่หากบริษัทประกันเก็บเบี้ยประกันตามความเสี่ยงทางสุขภาพหรือประวัติการขับรถ ก็จะทำให้ไม่เกิดปัญหา การเลือกในทิศทางที่แย่ 

รองศาสตราจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ

ดังนั้น สหกรณ์ออมทรัพย์ ที่ทำการปล่อยกู้นั้น จึงต้องคำนึงถึงปัญหาคลาสสิกนี้ เพราะมิเช่นนั้น การที่มีผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง ๆ รวมกันเป็นจำนวนมาก จะทำให้มีความเสี่ยงในการบริหารเงิน และต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญซึ่งกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล

ผู้กำกับดูแลสหกรณ์ จึงเคร่งครัดในเรื่องการปล่อยกู้ตามวัตถุประสงค์ และให้กรรมการและฝ่ายจัดการที่เกี่ยวข้องคอยกวดขันการปล่อยกู้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ รวมถึงให้กรรมการคอยสอดส่องไม่ให้หลักประกันบกพร่อง โดยกำหนดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการ

นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ส่งกำลังใจให้ "คริสโตเฟอร์" คนพิการ ผู้ทำความดี สู้ชีวิต!!

ณ อาคาร ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการเอเชียและแปซิฟิก (APCD) แขวงราชวิถี เขตทุ่งพญาไท กทม. ภายในพื้นที่บ้านราชวิถี "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ได้ไปกับ "คริส เบญจกุล" หรือ "คริสโตเฟอร์" อดีต นักแสดงหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจากการช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังประสบอุบัติเหตุ จนตนเองต้องบาดเจ็บสาหัสกลายเป็น "คนร่างพิการไม่สมบูรณ์" เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ "คริสโตฟอร์" ก็ไม่เคยย่อท้อต่อชะตาชีวิตของตนเอง ลุกขึ้นต่อสู้กับการใช้ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ถึงแม้จะมีร่างกายพิการ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการทำความดีได้ทำงานเชิงสังคมรณรงค์ความตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยบนท้องถนน และยังได้ฝฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ และเป็นกำลังใจ แบบอย่างการสู้ชีวิต ให้กับน้อง ๆ "เด็กพิการ" ที่เข้ามาฝึกอบรมการทำเบเกอรี่ ที่ "60 Plus By Yamazaki" ณ APCD แห่งนี้

โดย "นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย" ได้สอบถามถึงการสร้างอาชีพเสริม คือทำ "น้ำส้ม" ขายที่มีพี่น้องประชาชนพอทราบข่าวก็มาร่วมให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนซื้อน้ำส้มของคุณ "คริสโตเฟอร์" เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกและมีหนี้สินจากการลงทุนประกอบอาชีพ จึงได้ตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้ายไปลงทุน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ 

เลยตัดสินใจไปนั่งขายตรงฟุตบาทแถว "สวนหลวง ร.9" พอพี่ ๆ เทศกิจมา ผมกับแฟนก็ช่วยกันยกหนี ผมก็จะนั่งและตะโกนนำส้นสด ๆใหม่ 100% ครับไม่มีน้ำเชื่อมไม่มีสารกันเสียครับ 7 ขวด 100 บาท แต่ก็ดีที่พี่เทศกิจห้ามขายขอบคุณครับ (ผมตะโกนดัง ๆ) แล้วก็ขนของขึ้นรถแล้วก็ขับหนีไปซ่อนสักพักหนึ่ง ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็ขับรถมาดูแล้วขายต่อ บางคนอาจจะมองว่าเป็นอุปสรรคก็แล้วแต่ใครจะมองแต่สำหรับผมมองโลกในแง่ดีเป็นเรื่องสนุกดีสร้างเสียงหัวเราะให้ชีวิตตนเองได้ครับ 

สำหรับตอนนี้ผมไปขายที่ "ตลาดอยู่สอาด" ซอยศรีนครินทร์ 53 เลยซีคอน / ตลาดรถไฟ หรือท่านใดสนใจที่จะให้การสนับสนุนสามารถติดต่อออนไลน์ทาง facebook "happy and Healthy" และเบอร์โทรศัพท์ 062 232 9456 ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

“มะห์ซูหรี่” (Mahsuri) ตำนาน!! ‘คำสาปแห่งลังกาวี’ 

ผู้อ่านจาก Facebook ดร.โญ มีเรื่องเล่า ‘คุณแจ็คกี้ มวยไทย’ เขียน In Box มาว่า “อยากให้อาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับสงครามประวัติศาสตร์หน่อยครับ ถึงตำนานแต่ละที่ของประวัติศาสตร์ เช่น คำสาปของเกาะลังกาวี ครับ” ซึ่งผมก็จัดให้เลย และขอมาเล่าเรื่องราวนี้ผ่าน THE STATES TIMES ก่อนนะครับ…

ลังกาวี (Langkawi) หรือ "ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์ (Kedah หรือไทรบุรีของราชอาณาจักรสยาม/ไทยในอดีต)" (Langkawi Permata Kedah) เป็นเกาะในทะเลอันดามัน ใกล้ฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียตะวันตก ขึ้นกับรัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซีย

ลังกาวี ตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองกัวลาปะลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเกอดะฮ์ 51 กิโลเมตร ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเขตร้อนจำนวน 99 เกาะ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและมาเลเซียจากตำนานของ มะห์ซูหรี่ สตรีผู้ถูกประหารด้วยความอยุติธรรม โดยนางได้สาปแช่งเกาะลังกาวีไว้ก่อนสิ้นใจ และรัฐบาลมาเลเซียต้องนำทายาทรุ่นที่ 7 ของเธอมาถอนคำสาป

"ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์ (Kedah หรือไทรบุรีของราชอาณาจักรสยาม/ไทยในอดีต)" (Langkawi Permata Kedah)

ชื่อของเกาะลังกาวี โดย "ลัง" ย่อมาจากคำว่า "ฮลัง" (Helang) ที่แปลว่า "นกอินทรีสีน้ำตาลแดง" ส่วนนาม "ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์" นั้นได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอับดุล ฮาลิม อันเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกส่วนพระองค์ โดยตั้งนามเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวว่า ลังกาวีเป็นส่วนหนึ่งของรัฐ Kedah

กล่าวว่าคำว่า 'ลังกาวี' มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรลังกาสุกะ 'Langgasu' ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่รัฐ Kedah ในปัจจุบัน ซึ่งเอกสารทางประวัติศาสตร์มีน้อยมาก อย่างไรก็ตามย้อนหลังไปถึง 500 ปีก่อนคริสตกาล ตามบันทึกของราชวงศ์เหลียง อาณาจักรนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษแรกเมื่อกษัตริย์ฮินดู บากัตตา ถวายส่วยจักรพรรดิจีนในสมัยนั้น ชื่อของกษัตริย์ปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในตำนานและเทพนิยายมาเลย์ 'ลังกาวี' จึงหมายถึงอาณาจักรของ 'Langgasu' ที่จัดตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 1

มีการอ้างอิงชื่อเกาะอื่นในหนังสือ The Legends of Langkawi โดย Tun Mohamed Zahir บอกว่า 'ลังกาวี' เป็นการรวมกันของคำภาษาสันสกฤตสองคำคือลังกา (ความงาม) และวี (นับไม่ถ้วน) ตามหนังสือลังกาวี หมายถึงสถานที่แห่งความงามอันยิ่งใหญ่ ข้อมูลอ้างอิงอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ลังกาวีหมายถึงเกาะนกอินทรี ตามนั้น คำว่าลังกาวีเป็นการรวมกันของคำสองคำคือ ‘ลัง’ และ ‘กาวี’ โดยที่ 'ลัง' มากจากคำว่า 'Helang' ในภาษามาเลย์ ซึ่งแปลว่านกอินทรี ส่วน ‘กาวี’ ก็มาจาก 'Kawi' ภาษามาเลย์เช่นกัน แปลว่า หินอ่อน เนื่องจากมีการพบทั้งนกอินทรีและหินอ่อนมากมายในลังกาวี สถานที่แห่งนี้จึงอาจได้รับการตั้งชื่อตามข้อเท็จจริง โดยจัตุรัสนกอินทรีที่เกาะนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงชื่อเกาะตามความหมายนัยนี้

แสตมป์สามอัฐ และสี่อัฐประทับตรา Kedah แสดงให้เห็นว่า Kedah (ไทรบุรี) เคยเป็นของสยาม

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมือง สรุปได้ว่า สุลต่าน Kedah เคยปกครองเกาะนี้ ต่อมา Kedah (ไทรบุรี) ถูกสยามยึด ลังกาวีก็ตกไปอยู่ในมือของสยามผู้ปกครอง และด้วยข้อตกลงตามสนธิสัญญาแองโกล-สยาม พ.ศ. 2452 สยามได้โอนอำนาจการปกครองไปให้แก่อังกฤษ ซึ่งยึดครองรัฐนี้เอาไว้จนมาเลเซียได้รับอิสรภาพ ไม่รวมระยะเวลาสั้น ๆ ของการปกครองไทยภายใต้การยึดครองมลายูของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อิทธิพลของไทยยังสามารถเห็นได้ในวัฒนธรรมและอาหารของลังกาวี อันที่จริงแล้ว คนมาเลย์เชื้อสายไทยจำนวนมากบนเกาะนี้ก็เข้าใจภาษาไทยเช่นกัน

มะห์ซูหรี่จึงบอกให้ฆ่าเธอด้วยกริชอาคมของครอบครัว

ตำนานคำสาปแห่งลังกาวี ตามตำนานเล่าว่า มะห์ซูหรี่ (Mahsuri) เป็นธิดาคนที่สามของสามีภรรยาชาวไทยเชื้อสายมลายูที่อพยพมาจากภูเก็ต (Negeri Pulau Bukit) ในสมัยของสุลต่านอับดุลลาห์ มูการ์รัม ชาห์ที่ 2 ผู้ปกครองรัฐ Kedah ระหว่างปี พ.ศ. 2305 ถึง 2343 (ค.ศ. 1762 ถึง 1800) มะห์ซูหรี่เป็นหนึ่งในหญิงที่สวยที่สุดในลังกาวี และได้แต่งงานกับรองสุลต่านที่ชื่อว่า วันดารุส (Wan Darus) น้องชายของ Dato Pekerma Jaya น้องชายของสุลต่านผู้ปกครองเกาะลังกาวี แต่ในเวลาอันไม่นานชีวิตอันสวยงามของพวกเขาก็ต้องจบลง ด้วยวันดารุสต้องออกไปรบกับสยาม ระหว่างที่สามีไม่อยู่ มะห์ซูหรี่บังเอิญได้รู้จักกับเดรามัน (Deraman) ชายหนุ่มคนหนึ่ง ทำให้แม่สามี (บ้างก็ว่า พี่สะใภ้ของสามี ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน) ของเธออิจฉาความงามที่เลื่องลือของมะห์ซูหรี่ จึงถือโอกาสที่จะกำจัดเธอ ด้วยการปล่อยข่าวลือว่า มะห์ซูหรี่ไม่ซื่อสัตย์ นอกใจต่อวันดารุส สามีของเธอ โดยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเดรามัน

ด้วยเหตุนี้ ข่าวลือจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เรื่องนี้ทำให้เธอถูกชาวบ้านทั้งหมดกล่าวหาว่า ลักลอบมีประเวณีกับชายอื่น และถูกตัดสินประหาร มะห์ซูหรี่ปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่ไม่มีใครยอมเชื่อเธอเลย ดังนั้นมะห์ซูหรี่จึงถูกจับมัดไว้กับต้นไม้ (หรือเสา) มะห์ซูหรี่ได้อธิษฐานว่า “หากนางไม่มีความผิด ขอให้โลหิตที่หลั่งออกมาเป็นสีขาวและไม่หลั่งลงพื้นดิน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง” และ “สำหรับความอยุติธรรมนี้ จะไม่เกิดสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองบนเกาะแห่งนี้ นานถึงเจ็ดชั่วอายุคน” แต่เมื่อเพชฌฆาตลงคมกริชประหาร คมของกริชนั้นกลับไม่ระคายผิวนางเลย หลังจากที่ความพยายามในสังหารเธอทุกครั้งประสบความล้มเหลว เมื่อเป็นเช่นนี้นางจึงบอกกับเพชฌฆาตให้ไปนำกริชอาคมพิเศษของต้นตระกูลจากบ้านของนางมา และเมื่อเพชฌฆาตใช้คมกริชอาคมพิเศษจรดลงไปบนคอของนาง โลหิตสีขาวก็พวยพุ่งขึ้นข้างบนราวกับเป็นร่มโดยไม่ตกลงบนพื้นดินเลย เมื่อเธอถูกแทง เลือดสีขาวก็ไหลออกมาจากบาดแผลของเธอ และฝูงนกก็บินเข้ามาปกคลุมเธอทั้งตัว อันแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเธอ ด้านพี่ชายของมะห์ซูหรี่ เกรงว่าหลานชายวัย 5 เดือน ทายาทคนเดียวของมะห์ซูหรี่ จะมีภัย จึงนำลงเรือล่องมายังเกาะภูเก็ต และเริ่มตั้งรกรากที่นี่ โดยบุตรของนางเติบโตขึ้นในนามว่า “โต๊ะวัน”

หลุมศพ (กุโบร์) ของมะห์ซูหรี่บนเกาะลังกาวี

ปาดังมาตสิรัต (ซึ่งหมายถึง ‘ทุ่งข้าวไหม้’)

ชาวบ้านจำนวนมากในลังกาวีเชื่อว่า ตำนานดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และโศกนาฏกรรมในช่วงหลายทศวรรษหลังการเสียชีวิตของมะห์ซูหรี่ กองทัพสยามสามารถพิชิตรัฐ Kedah และบุกยึดลังกาวีเอาไว้ได้ โดยชาวบ้านจุดไฟเผาไร่นาพืชผลเพื่อหยุดยั้งการบุกของกองทัพสยาม หรือแทนที่จะปล่อยให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกองทัพสยาม จนถึงทุกวันนี้ตามตำนานเล่าว่า หลังจากฝนตกชุก จะเห็นร่องรอยของข้าวไหม้ที่ปาดังมาตสิรัต (ซึ่งหมายถึง 'ทุ่งข้าวไหม้') ที่อยู่ใกล้เคียง แต่ที่สุดแล้วลังกาวีก็ตกเป็นอาณานิคมของสยาม และอังกฤษในเวลาต่อมา 

น.ส.ศิรินทรา ยายี (Wan Aishah)

กระบี่ - กกต.กระบี่ ปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่โดยออกณรงค์การเลือกตั้ง อบต.โค้งสุดท้าย ครอบคลุม 8 อำเภอ 25 -27 พ.ย. เพื่อปลุกกระแสให้ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิ์โปร่งใส

นายวีระยี่แพร ผู้ตรวจการ เขตตรวจการที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จำนวน 10 คันออกจากบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของ ที่จะถึงวันเลือกตั้งอบต .พร้อมกันทั่วประเทศ โดยอบตไสไทย ยกทีมเข้าร่วมบรรยากาศคึกคัก

นางสาวขนิษฐา ปั้นทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ การเลือกตั้งอบต .ขึ้น ในช่วง 3 สัปดาห์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้งอบต.พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสภาอบต และนายกอบต. ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ด้วยสโลแกน ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริตใช้สิทธิ์โปร่งใส  โดยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่รณรงค์การเลือกตั้งอบต. ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจัด ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ของอำเภอทั้ง 8 อำเภอ    

ด้าน องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย ร่วมได้จัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ พร้อมขบวนรถกว่า 10 คัน นำเจ้าหน้าที่ ออกประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ตำบลไสไทย ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้ง 14 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 10,140 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด ในการเลือกตั้งอบต.เขตอำเภอเมืองกระบี่  

 

นครนายก - ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ่ำซ้อนนครนายก จัดการแข่งขันกีฬาภายในของคนตาบอดและพี่เลี้ยง

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนนครนายก (บ้านรื่นสุข) ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จัดการแข่งขันกีฬาภายในของคนตาบอดและพี่เลี้ยง เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายของผู้พิการ ได้มีความสุข สนุกสนาน มีความรักความสามัคคีร่วมกัน ในการแข่งขันกีฬาภายในจะมีการจัดขึ้นทุกปี โดยมีนางกาญจนา พรมแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เป็นประธานเปิดงานการแข่งขันฯ และนักกีฬาล้วนเป็นผู้พิการตาบอด โดยมีพี่เลี้ยงช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น ในการแข่งขันได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภท อาทิ วิ่งสามขา ปิดตาตีปีบ ปั๊มระเบิด กินวิบาก วิ่งกระสอบ ลูกโปร่งข้ามแดน กู้ระเบิด พรมล่องหน ซึ่งแต่ละกิจกรรมสร้างความสนุกสนานเฮฮา ให้กับผู้พิการตาบอด

‘ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ’ กำชับทุกหน่วย!! เตรียมพร้อมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย มีโทษทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติกำชับหน่วยงานในสังกัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามแรงงานต่างด้าว ตามมติ ครม. เมื่อ 28 ก.ย. 64 ให้นายจ้างและแรงงาน 3 สัญชาติ(ลาว กัมพูชา เมียนมา) ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการจ้างงานตามกฎหมาย ภายในวันที่ 1-30 พ.ย.64 รวมถึงประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมกลุ่มแรงงาน MOU นั้น

เนื่องด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้างและสถานประกอบการที่ขาดแคลนแรงงาน พร้อมกับควบคุมมิให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ อีกทั้งได้มีมติให้มีการตรวจสถานที่ประกอบการต่าง ๆ เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าว รวมถึงให้นำแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าสู่ระแบบการจ้างงานตามกฎหมายประเทศไทย เพื่อให้ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี ภายในวันที่ 30 พ.ย. 64 หลังจากนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายอย่างจริงจัง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สนองนโยบายรัฐบาลโดยได้กำชับและสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ให้ทำการประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประชาสัมพันธ์พร้อมสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้างและแรงงาน 3 สัญชาติ( ลาว กัมพูชา เมียนมา) เพื่อให้มาดำเนินการภายในกำหนดตาม มติ ครม.  โดยหลังจาก 30 พ.ย.64 ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบสถานประกอบการ โรงงาน ที่พักคนงาน และพื้นที่สุมเสี่ยง ทำการสืบสวนปราบปราม จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยผิดกฎหมายและนายจ้างที่เกี่ยวข้อง  เพิ่มการกวดขันการตรวจตราการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยให้ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยร่วมปฏิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ตลอดจนขยายผลไปยังเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดทุกราย  พร้อมให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามหลักยุทธวิธีตำรวจและถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้กำหนด

หากตรวจพบว่าพื้นที่ใดหย่อนยาน ปล่อยปละละเลย หรือมีความผิดพลาดเกิดขึ้น จะถือว่าเป็นความบกพร่อง ต่อหน้าที่ อีกทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ห้ามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือเรียกรับผลประโยชน์ทุกกรณี ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อมก็ตาม หากพบจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทุกราย

ผู้ที่ให้การช่วยเหลือหรือนำพาบุคคลต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดน จะมีโทษฐานเป็นบุคคลที่นำพาบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองซึ่งจะมีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 100,000 บาท แต่ถ้าเกิดมีการช่วยเหลือซ่อนเร้นคือบุคคลต่างด้าวนั้นเข้ามาหลบอยู่ในบ้านท่านหรือมีการอำนวยความสะดวกให้ขึ้นรถหรือว่ามีการหลบหลีกด่านตรวจต่างๆ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 50,000 บาท

 

ตร.เตือน!! BEC (Business Email Compromise) ‘แฮก’ หรือ ‘ปลอม’ อีเมลธุรกิจ...ความเสียหายหลักล้าน!!

วันที่ 26 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

จากกรณีที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาเป็นหญิงไทยจำนวน 3 ราย และชายแคมมารูน จำนวน 1 ราย ซึ่งมีพฤติการณ์แบ่งหน้าที่กันทำ ในการแฮกอีเมลบริษัทผู้เสียหาย ปลอมอีเมลสวมรอยบริษัทเพื่อพูดคุยกับบริษัทลูกค้า การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด จัดหาบริษัท และบัญชีธนาคารในการรับโอนเงิน ไปจนถึงการถอนเงินออกจากบัญชี ซึ่งทำให้บริษัทผู้เสียหายได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนรวมกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นอาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบ Business Email Compromise (BEC) หรือ การสร้างความเสียหายต่ออีเมลทางธุรกิจ โดยการแฮกหรือปลอมอีเมลของคู่ค้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อสวมรอยเป็นบริษัทคู่ค้า หรือตัวแทนที่ติดต่อเจรจาทางธุรกิจ และหลอกเอาทรัพย์สิน ข้อมูล หรือผลประโยชน์อื่น ๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้การติดต่อธุรกิจผ่านทางอีเมล ให้ใช้ความระมัดระวัง และหากมีการแจ้งเปลี่ยนการชำระเงิน หรือสถานที่ส่งสินค้า ให้ติดต่อกับคู่ค้าโดยตรงนอกเหนือจากทางอีเมล เช่น โทรศัพท์ การสนทนาผ่านวีดิโอ หรือช่องทางอื่น ๆ ที่สามารถติดต่อกับคู่ค้าได้โดยตรง ก่อนที่จะทำการโอนเงินหรือส่งมอบสินค้า เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง และขอให้องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญในการให้ความรู้และการอบรมแก่บุคลากร ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงถูกโจมตีในรูปแบบ BEC

 

ปทุมธานี - จัดพิธีมอบเงินพระราชทาน ช่วยเหลือสถานศึกษา ที่ปรับสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนามโควิด-19

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. ที่อาคารศาลารักษ์ปทุม ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมืองปทุมธานี  จังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีมอบเงินพระราชทานพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นางสาวกนิษฐา ทองเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 นายเทอดเกียรติ ยามโสภา รองฯผอ. สพป. ปทุมธานี เขต 2 นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเงินส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ปรับสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่กักตัว หรือศูนย์พักคอย ให้แก่ผู้ป่วย COVID - 19

ซึ่งหลังจากภารกิจเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่กักตัว หรือศูนย์พักคอยแล้วเสร็จ และเมื่อมีการส่งคืนพื้นที่และอาคารสถานที่ให้แก่สถานศึกษาแล้ว สถานศึกษาแต่ละแห่งอาจมีภาระต้องชำระค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารให้คืนสู่สภาพเดิมเพื่อจัดการเรียนการสอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้ความร่วมมือปรับสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง จำนวน 50 เตียง และปรับสถานศึกษาเป็นศูนย์พักคอย 3 แห่ง จำนวน 67 เตียง รวมทั้งสิ้น 117 เตียง บัดนี้หน่วยงานที่เข้าใช้ ได้ส่งคืนพื้นที่และอาคารสถานที่ให้แก่สถานศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ปทุมธานี – รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ" พัฒนาคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เนื่องในโอกาสวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09:00 น. นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ" พัฒนาคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือ วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยมี นางสาวกันตรัตน์ เริ่มสูงเนิน นายอำเภอธัญบุรี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี พร้อมด้วย คณะ จิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่เทศบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ในอำเภอธัญบุรี เข้าร่วมพิธีการและทำกิจกรรมจิตอาสาฯ ในวันนี้ ที่บริเวณริมเขื่อนเทศบาลตำบลธัญบุรี ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงประกอบพระราชกรณียะกิจ นานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติ ทั้งในอดีตและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน ตลอดจน เป็นการดำเนินการตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำเพ็ญประโยชน์พื้นที่ชุมชนและผู้อื่น ด้วยความเสียสละ โดยไม่หวังผลตอบแทน และดำเนินการตามศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในการปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสา ในโอกาสวันสำคัญของชาติไทย ตามความเหมาะสมในบริบทของพื้นที่

กาฬสินธุ์ - กู๊ดไอเดีย!! เปิดตัว “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใยอัจฉริยะ” ผ่าน APP Line เพื่อแจ้งเบาะแสยาเสพติด

จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2565 พร้อมพัฒนา “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใจอัจฉริยะ” ผ่าน Line  เข้าถึงง่าย ใช้ง่าย เพื่อรับแจ้งเบาะแสยาเสพติด การเข้ารับการบำบัดยาเสพติด คาดหวังจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานปล่อยแถวชุดปฏิบัติการ ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2565 เพื่อมุ่งสู่ชุมชนมั่นคง สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน โดยมีนายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถว

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การปล่อยแถวชุดปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ พร้อมกันทั้งจังหวัด รวม 86 จุดเป้าหมาย โดยกำหนดดำเนินการทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาไปพร้อมกัน นอกจากนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.กาฬสินธุ์ (ศอ.ปส.จ.กส.) ยังได้เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น โดยนำเทคโนโลยีการสื่อสาร App Line มาพัฒนาเป็น “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใยอัจฉริยะ” ในการรับข้อมูลข่าวสารจากประชาชนเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ขอเข้ารับการบำบัด และการรายงานต่าง ๆ อีกด้วย

 

กระบี่ - ‘ทหารจิตอาสา’ สนธิกำลัง ‘ตำรวจอาสารักษาดินแดน’ เข้าฟื้นฟูบ้านที่ดินสไลด์ทับห้องครัว – ห้องน้ำเสียหา เพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ตำบลเขาเขน ให้อยู่ต่อได้

เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน 2564 พันเอก ภาณุวัฒน์ สุคชเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก อาทิตย์ ภากรสังขรัตน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา สนธิกำลังทหารจิตอาสา ตำรวจจิตอาสา และอาสารักษาดินแดนอำเภอจิตอาสา เราทำความดีเพื่อชาติศาสตร์กษัตริย์  ระดมกำลังเข้าร่วมฟื้นฟูพัฒนาบ้านเรือนพร้อมนำสิ่งของบริโภคและอุปโภค ไปมอบให้กับนายเล็ก และนางสุจินต์ คำศิริ อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ที่  6 บ้านคลองปัญญา ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

ที่ถูกดินจากเนินเขาหลังบ้านสไลด์ไหลลงมาทับบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ โรงรถยนต์ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนอิ่มตัวจึงเกิดดินล้วนซุยไม่สามารถเกาะตัวกันได้ จึงเปิดดินสไลด์ไหลลงมาทับบ้านกลังดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 นาฬิกา ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเกิดเหตุทหารจิตอาสาของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ และอาสารักษาดินแดนอำเภอปลายพระยา ร่วมถึงตำรวจจิตอาสาสถานีตำรวจภูธรอำเภอปลายพระยา ได้เข้าให้การช่วยเหลือไปครั้งหนึ่งแล้ว

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top