‘โรม’ เรียกร้อง หยุดใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมถามนายกฯ มีเหตุผลอะไรไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีที่มีการแจ้งดำเนินคดีอาญาตาม มาตรา 112 ต่อบุคคลสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฟลูเอนเซอร์ กรณีที่มีการโฆษณาสินค้าในแอปพลิเคชั่นลาซาด้า รวมกรณี ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายนี้เป็นรายล่าสุด
รังสิมันต์ กล่าวว่า การตีความประกอบคดี โดยเฉพาะคดีตามมาตรา 112 ยิ่งจำเป็นต้องตีความอย่างเคร่งครัดและต้องชี้ให้ชัดว่ากรณีแบบไหนมีความผิด เพราะสิ่งที่บุคคลเหล่านี้แสดงออกหรือสะท้อนความคิดเห็นผ่านสื่อต่างๆ ไม่มีทางเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 ได้เลย
“ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษคิดเกินเลยมาก ไปใช้จิตนาการมากกว่าพื้นฐานความเป็นจริง กรณีแบบนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำปัญหาของการใช้มาตรา 112 ที่ทำให้สังคมไทยอยู่ในความหวาดกลัว ซึ่งสังคมที่หวาดกลัวแบบนี้เป็นสังคมที่ไม่ก้าวหน้า ไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างสรรค์เพื่อนำพาประเทศให้ก้าวหน้าไปได้ และยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า การใช้กฎหมาย มาตรา 112 ในการดำเนินคดีโดยไม่ไตร่ตรองเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกตั้งคำถามมากขึ้น”
รังสิมันต์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีของ ปิยบุตร ซึ่งเป็นนักวิชาการกฎหมายมาหลายสิบปี ไม่เคยถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 แต่เมื่อเข้าสู่แวดวงการเมืองกลับมีคดีติดตัว จึงเป็นข้อสังเกตว่า สรุปแล้วการดำเนินคดีตามมาตรา 112 เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองใช่หรือไม่ จึงอยากใช้โอกาสนี้ในการเตือนสติผู้มีอำนาจว่า หากปล่อยให้ใช้ มาตรา 112 แบบนี้ต่อไปจะไม่ยิ่งส่งผลดีต่อพระมหากษัตริย์ ขอวิงวอนให้หยุดใช้ มาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการจัดการผู้เห็นต่าง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ทนายสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา มีการใช้ มาตรา 112 ไปแล้ว 216 คดี ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยบนเวทีโลกมากมาย เพราะทุกครั้งที่มีวาระด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ประเทศไทยมักจะถูกตั้งคำถามถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ หากรัฐบาลมีหัวใจและมีความจริงใจจะบริหารประเทศจริงต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้
