Tuesday, 13 May 2025
NEWSFEED

‘ชาวเน็ต’ จวก!! ‘เพลงถ้าไม่รักจะปล้ำ’ เนื้อหาคุกคามทางเพศ ด้าน ‘นาย คอมเมเดี้ยน’ ไม่สะท้าน ถามกลับ “ดรามา จริงดิ?”

ทำเอาโซเชียลวิจารณ์สนั่น กับเพลง ‘ถ้าไม่รักจะปล้ำ’ ของตลกดัง ‘นาย คอมเมเดี้ยน’ และ ‘วงวันดรีม’ ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมและไม่สร้างสรรค์ แถมยังส่อไปในทางคุกคามทางเพศ อย่างท่อนที่ว่า ‘ถ้าน้องไม่รักระวังโดนปล้ำ’ โดยชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งใน ยูทูบ ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ (X) อาทิ นี่มันยุคไหนแล้ว ทำไมยังมีคนทำเพลง ทำคอนเทนต์แบบนี้อีก ทั้งที่เขารณรงค์เรื่องนี้กันอยู่, ลองนึกว่าคุณมีลูกสาว แล้วเด็กวัยรุ่นแถวบ้านมาชอบลูกคุณ แต่ลูกคุณไม่เล่นด้วย แล้วเขาเลยส่งเพลงนี้มาให้อ่ะ คุณคิดว่าเขาสื่อถึงอะไร, เนื้อเพลงนี้กลั่นออกมาจากสมองแล้วจริงดิ? เป็นต้น

แต่งานนี้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่สะทกสะท้าน เพราะได้แคปข้อความท้วงติงต่าง ๆ มาลงต่อ และใส่ข้อความว่า “คืออะไรครับเนี่ย” ก่อนจะใส่แคปชั่น “ไปกันใหญ่แล้วเด้อ” พร้อมใส่แฮชแท็กชื่อเพลงละชื่อวงตามปกติ ก็เลยโดนทัวร์ลงยับอีกรอบ ว่าเตือนขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ จนล่าสุดโพสต์ดังกล่าว…ได้หายไปจากติ๊กต็อกของเจ้าตัวแล้ว

โดยเพลงนี้ได้ปล่อยออกมาเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่กลับมีเป็นประเด็นอีกรอบ เพราะว่ามีการทำชาเลนจ์ในติ๊กต็อก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็มาคนเข้าไปท้วงอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข แถมยังแคปคอมเมนต์ที่บอกว่า “ในขณะที่ในประเทศ มีคดีแนวนี้เยอะเป็นว่าเล่น แต่คุณกลับเอามาทำเพลง รอเลยครับเพลงเป็นกระแส น่าจะมีข่าวแน่ๆ” มาลงพร้อมใส่ข้อความว่า “ดรามา…จริงดิ…เพลงนี้อะนะ”

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีชาวเน็ตบางส่วน ที่เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แถมมองว่าเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงอย่าคิดเยอะ ถ้าฟังแล้วไปก่อคดีก็อยู่ที่ตัวบุคคลแล้วแหละ ซึ่งเจ้าตัวก็เข้าไปตอบกลับคอมเมนต์นั้นๆ ด้วยอีโมจิ 3 ตัว ได้แก่ หัวใจสีแดง รูปพนมมือไหว้ และหน้าหัวเราะ “❤️🙏🏻😂”

‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ประกาศขายบ้านหรู ในกรุงเทพฯ ลั่น!! รู้สึกเสียดายมาก แต่ต้องจำใจเพราะไม่มีเวลาดูแล

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 เป็นนักร้องสาวชื่อดังที่มาพร้อมความสามารถ และหาเงินเก่ง ทำงานเพื่อครอบครัวมาตลอด สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ หรือ ‘เจนนี่ รัชนก’ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้ซื้อบ้านหลังแรกในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นของขวัญให้ลูกสาวคนแรก ‘น้องยูจิน’ เมื่อช่วงปลายปี 2021

ล่าสุด ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ประกาศขายบ้านหลังดังกล่าว โดยว่า "ปล่อยขายบ้านหลังนี้นะคะ ตัดสินใจนานมากกว่าจะขายเพราะเสียดาย ชอบหลังนี้สุดๆ ตรงข้ามคลับเฮาส์ ตรงข้ามสระว่ายน้ำและสวนของโครงการ แต่เสียดายไม่มีเวลาดูแลน้องเลย ใครสนใจ 093-5153618 นะคะ"

ซึ่งงานนี้ สาวเจนนี่ ก็ได้เผยเหตุผลของการขายบ้านหลังนี้ เพราะไม่มีเวลาดูแลนั่นเอง แต่อย่างทราบกันดีว่าเธอนั้นมีบ้านหลายหลัง แต่ละหลังนั้นราคาแพง แถมซื้อสดด้วยเงินเก็บของตัวเอง งานนี้เรียกว่าปังมากๆ

‘NSDF’ แจง!! เหตุ 'น้องออก้า' แชมป์เจ็ตสกีโลกวืดเงินอัดฉีด เพราะต้องมีผู้เข้าร่วมแข่ง 6 ประเทศ แต่ในอีเวนต์นี้มีแค่ 2

(3 ก.ย. 66) หลังจากที่ 'น้องออก้า' นครา ศิลาชัย ลูกชายของ 'เปิ้ล' นาคร ศิลาชัย คว้าแชมป์โลกการแข่งขันเจ็ตสกี ที่สหรัฐอเมริกา ในรายการ 'ดับเบิลยูจีพี วัน เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรี่ส์ 2022' รุ่นจูเนียร์ สกี้ 10-12 ปี เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อแลกประสบการณ์มากมายเกินเด็กวัย 10 ขวบ และทำให้พ่อแม่รวมถึงทุกคนดีใจนั้น

แต่จากนั้น 'เปิ้ล' นาคร ศิลาชัย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กสุดเดือดจวกยับหลังถูก 'ยกเลิก' เงินสนับสนุน และเงินอัดฉีด ที่นักเจ็ตสกีไทยไปสร้างชื่อเสียงคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ทาง 'ผู้ใหญ่' ตัดสินใจว่า ยกเลิกเงินสนับสนุน และเงินอัดฉีดทั้งหมด รวมถึงปีต่อๆ ไป แซะนักกีฬาทีมชาติตั้งใจแค่ไหน ก็ตัวใครตัวมัน และขอบคุณการจัดงบที่ทำให้การพัฒนากีฬาไทยริบหรี่ลงทุกวัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบระเบียบข้อบังคับของ 'กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ' (NSDF) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า 'แห่งประเทศไทย' ซึ่งสาเหตุที่กองทุนฯ ไม่สามารถอนุมัติเงินรางวัลดังกล่าวให้กับ 'น้องออก้า' นครา ศิลาชัย เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบที่กำหนดไว้

โดยตามหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ ที่จะสามารถอนุมัติเงินรางวัลได้ในกรณีนั้น จะต้องมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 6 ประเทศ แต่ในอีเวนต์ของ 'น้องออก้า' นครา ศิลาชัย ที่คว้าเหรียญทองมีเพียง 2 ประเทศเข้าร่วมคือ ไทย กับทีมสโมสรในประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนทั้งหมด 6 ลำเท่านั้น โดยไม่ได้เป็นตัวทีมชาติสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด ทำให้ไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัล

‘บุ๋ม ปนัดดา’ เปิดค่ารักษาที่สิงคโปร์ โดนไปจุกๆ 2 หมื่นบาท หลังเกิดอุบัติเหตุถูกรถชนท้าย เข้าโรงพยาบาลแค่วันเดียว

(3 ก.ย. 66) ถึงคราวฟาดเคราะห์จริงๆ สำหรับ ‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ ที่ก่อนหน้านี้เธอได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @boompanadda ว่าได้ประสบอุบัติเหตุขณะนั่งรถเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ โดยถูกรถยนต์ชนจากบริเวณด้านหลังรถยนต์ที่เธอนั่งมาเข้าอย่างแรง ซึ่งในเวลาต่อมา ‘บุ๋ม ปนัดดา’ เผยว่าได้เดินทางไปโรงพยาบาลแล้ว โดยระบุแคปชันว่า

“อ่ะ! ไม่รอดค่ะ เพื่อนฝนมึนหัว อาเจียนหลายรอบ ส่วนบุ๋มปวดร้าวหลังล่างและคอ อาเจียนมีเลือดปน 2 รอบ หมอฉีดยาและเอ็กซเรย์เรียบร้อย ผลตรวจคือ Muscle Spasm กล้ามเนื้อตรงคอกับหลังล่างอักเสบเฉียบพลัน มีผลกับเส้นประสาท ก็ค่อยๆ รักษากันไปค่ะ ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ มาสิงคโปร์เป็น 100 ครั้งไม่เคยเจออุบัติเหตุบนถนน ไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเอง ต้องขอขอบคุณน้องโบว์ชมพู @bow_bowchompoo ที่มาช่วยดูแลที่ รพ. จนเรียบร้อยทุกอย่าง ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ”

ล่าสุด ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมอัปเดตอาการอีกครั้งและเผยถึงค่ารักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลในประเทศสิงคโปร์ว่า “หายดีแล้วทุกคน เพราะเจอค่ารักษาหมอไปสองหมื่นกว่า ประสบการณ์เข้าโรงพยาบาลที่สิงคโปร์ เอกซเรย์คอกับหลัง ฉีดยาแก้ปวดหนึ่งเข็ม ยากลับบ้านสี่อย่าง ยาคลายกล้ามเนื้อ แก้อาเจียน บำรุงประสาท และแผ่นแปะแก้ปวด พร้อมกับค่าเจอหมอตอนดึก ค่าเอกสารที่ขอกลับบ้าน 20,000 กว่าบาท หายดีเลยจ้า แม่แข็งแรงแล้ว จริงจิ๊งงง”

‘นิกกิ้ ณฉัตร’ ไม่สบายจนต้องแอดมิท นอนดูอาการที่ รพ. ด้าน ‘ก้อย’ ส่งกำลังใจ ชาวเน็ตชมมิตรภาพยังสวยงามเสมอ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 ทำเอาแฟนคลับและเพื่อนในวงการบันเทิง แห่ส่งกำลังใจให้นักแสดงหนุ่ม ‘นิกกี้ ณฉัตร’ หายป่วยไวๆ หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ภาพตัวเองขณะไม่สบาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมแคปชันว่า…

“มา MRI Scan ผลออกมาเเล้ว คุณหมอบอก ไม่เจอ ผมเลยถาม ไม่เจอเนื้องอก? หมอบอก ไม่เจอ สมองงง นั้นนน!!”

ซึ่งงานนี้ทางด้านนักแสดงสาว ‘ก้อย อรัชพร’ อดีตแฟนสาวก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “หาสักที หายไวๆ ค่ะ” ซึ่งหนุ่มนิกกี้ ก็ตอบกลับว่า “หายป่วย?” งานนี้ทำเอาแฟนคลับแห่ชมมิตรภาพ และความน่ารักของทั้งคู่กันอย่างล้มหลาม

‘อ้วน รังสิต’ พา ‘มะม่วง-น้องโรฮา’ กลับไทยแล้ว หลังบินไปเกาหลี ง้อคืนดีสำเร็จ หวิดขาเตียงหัก

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 หลังเดินหน้าง้อภรรยาสาว ‘มะม่วง’ หรือ ‘ปาร์ค ฮยอน ซอน’ ได้สำเร็จ ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม ‘อ้วน รังสิต’ ได้เผยคลิปที่ทำเอาแฟนๆ หลายคนใจชื่น เมื่อหนุ่ม ‘อ้วน’ กำลังพา ‘มะม่วง’ และลูกชาย ‘น้องโรฮา’ เดินทางกลับมาอยู่ที่ไทย หลังไปอยู่ที่เกาหลีด้วยกันมานานนับเดือน พร้อมแคปชัน "โรฮากลับไปหาโรงเรียนก่อนนะครับ"

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ‘อ้วน รังสิต’ ได้โพสต์คลิปไป ก็มีเพื่อนๆ ดาราคนดังเข้าไปคอมเมนต์ร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวนี้กันเป็นจำนวนมาก อาทิ ดีใจจังกลับเมืองไทยแล้ว, ครอบครัวอบอุ่น ฯลฯ

‘บุ๋ม ปนัดดา’ ถูกรถชนท้ายอย่างแรงที่สิงคโปร์ ระบมทั้งหลัง-คอ มึนหัวจนอยากอาเจียน!!

(2 ก.ย. 66) ทำเอาแฟนๆ ตกใจอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ ‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ เผยผ่านอินสตาแกรมว่า ตอนนี้ตัวเองขึ้นรถแท็กซี่อยู่ประเทศสิงคโปร์ และถูกรถที่วิ่งตามหลังมาชนโครมใหญ่ จนระบมหลังล่างกับคอ มึนหัวจนอยากอาเจียน ด้านเพื่อนที่มาด้วยกันถูกโทรศัพท์มือถือกระแทกเข้าหน้า

“ต้อนรับการมาถึงสิงคโปร์ ด้วยรถชนจ้า โครมใหญ่มาก โดนชนจากข้างหลัง เพื่อนฝน มือถือหลุดกระเด็นกระแทกตา ส่วนของบุ๋มระบมหลังล่างกับคอ มึนหัวจนอยากอาเจียน แง

ปล. ดีที่เราใส่สายคาด แต่มันแน่นจนตัวไม่ขยับ แต่ก็เกิดแรงกระแทกหนักอยู่”

นอกจากนี้ บุ๋มยังเข้าไปเมนต์ตอบชาวเน็ตที่บอกว่า “ถ้าเจ็บมากให้รีบไปตรวจ” ด้วยข้อความว่า “ตอนนี้รู้สึกชาๆ มึนๆ อยู่”

‘ใยไหม ชินารดี’ โอดอยากลบภาพจำดาราเด็ก ลั่น!! “หนูโตแล้วค่ะ” พร้อมบอก อยากลองรับบทฆาตกร-โรคจิต เผื่อคนจะสลัดภาพจำได้บ้าง

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 เข้าวงการตั้งแต่ 3 ขวบ ขึ้นแท่นดาราเด็กสุดฮอต และหลายคนจำชื่อและหน้าตากันได้ดี สำหรับ ‘น้องใยไหม ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ’ นักแสดงสาวน้อยมากความสามารถ แถมฉายแววสวยตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้กลายเป็นสาวเต็มตัว อายุ 18 ปีแล้ว

แม้ว่าเจ้าตัวจะกลายมาเป็นนางเอกเต็มตัวแล้ว แต่หลายคนยังติดภาพจำวัยเด็ก และยังมีคนทักอยู่บ่อยๆ ว่า “น้องใยไหมโตแล้วเหรอเนี่ย”

ล่าสุด ‘ใยไหม’ มาร่วมงาน ‘First Preview ละคร Across the Sky ลัดฟ้าล่าฝัน’ ในฐานะนักแสดงของเรื่อง ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธออยากให้คนจำบทบาทใหม่ๆ ในชีวิตนักแสดงของเธอบ้าง 

“ตอนนี้อายุ 18 ปีแล้วค่ะ (ยิ้ม) ล่าสุดตอนนี้เรียนอยู่ปี 1 ที่ มศว. คณะอุตสาหกรรม เอกการแสดงค่ะ” น้องใยไหม กล่าว

>> ได้เป็นเฟรชชี่แล้ว?
“จริงๆ ค่อนข้างตื่นเต้นค่ะ เพราะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และสังคมใหม่ๆ”

>> ตั้งใจเรียนตรงสายเลยใช่ไหม?
“จริงๆ ถ้าตรงสายของหนูตั้งแต่เด็กก็คงจะเป็นนวัตกรรม ค่ะ แต่หนูเคยเล่นละครเวทีตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกว่าเราชอบแนวนี้ ก็เลยอยากลองศึกษาเพิ่มเติม ก็เลยเลือกเข้าศิลปกรรม เพราะว่าศิลปกรรมกับนวัตฯ จะคนละแบบ”

>> ชีวิตตอนเป็นนักแสดงเด็ก กับชีวิตการเป็นนักแสดงวัยรุ่นแตกต่างกันไหม?
“แตกต่างนะคะ เพราะตอนเด็กๆ การตัดสินใจในหลายๆ เรื่องจะไม่ค่อยซับซ้อนเท่าตอนโตเท่าไหร่ แต่พอโตมาและได้รับบทใหม่ๆ ที่โตขึ้น มันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่ซับซ้อน คดเคี้ยวมากขึ้น”

>> คนก็ทักตลอด?
“ใช่ค่ะ ทุกคนก็จะบอกว่าน้องใยไหมโตแล้วเหรอ (ยิ้ม) จริงๆ มันก็ผ่านมา 15 ปีแล้ว (หัวเราะ)”

>> คนเข้ามาถามเยอะมั้ยกับบทบาทใหม่ๆ ที่เราได้รับ?
“มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่เข้ามาคอมเมนต์ในไอจีหรือเฟซบุ๊กเยอะว่าอายุ 18 แล้วเหรอ โตเร็วจัง”

>> ดีใจมั้ยที่หน้าเรายังบล็อกเดิม ไม่เปลี่ยน?
“(หัวเราะ) ดีใจค่ะ เพราะรู้สึกว่าใบหน้าเราก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้ทุกคนจำได้”

>> พออายุ 18 แล้วอยากทำอะไรที่แตกต่างจากตอนเป็นเด็กไหม?
“ก็ต้องเรียกว่าแสดงได้ทุกบทแหละค่ะ แต่ในอนาคตก็คงจะมีคาแร็กเตอร์บางอย่างที่ชาเลนจ์ตัวเรามากขึ้น”

>> อยากให้คนมองภาพเราเปลี่ยนไปจากตอนเด็กไหม?
“อยากนะคะ เพราะคนส่วนใหญ่จะติดภาพที่ไหมตอน 3 ขวบ แต่อยากจะบอกว่าโตแล้วนะ (หัวเราะ) ก็อยากให้ทุกคนจำเราในบทบาทใหม่ๆ บ้าง”

>> งานที่เข้ามาเป็นยังไงบ้าง โตขึ้นมั้ย หรือยังมีแนวเด็กๆ อยู่?
“เหมือนตอนนี้เรายังเป็นวัยรุ่น บทต่างๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็เป็น 17-20 ก็เลยอาจจะยังไม่ได้ดูโตมากขนาดนั้น แต่จริงๆ หนูอยากลองเล่นบทโรคจิต ฆาตกร อยากเล่นแนวนั้นเลย เพราะน่าจะทำให้ทุกคนพอจะสลับภาพจำไปได้บ้าง (หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาจะมีบทดรามาที่คนจะจำได้เยอะๆ คนจะจำว่าน้องใยไหมเป็นนักแสดงที่ร้องไห้ได้เก่งๆ ก็เลยรู้สึกว่ามีสกิลอื่นๆ ที่เราทำได้ดีเช่นกัน ก็อยากให้ทุกคนได้เห็นค่ะ”

>> แสดงว่าภาพจำก็มีผลกับงาน?
“มีค่ะ เพราะส่วนใหญ่เวลาเล่นละครก็จะได้บทดรามาเยอะมากๆ ก็เลยอยากจะได้ลองเล่นบทอื่นๆ ด้วย”

>> ได้เอาสิ่งที่เรียนมาใช้ไหม?
“จริงๆ ที่เรียนที่มหาวิทยาลัยก็คือเพิ่งเปิดเทอมค่ะ ก็เลยยังไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก แต่หวังว่าในอนาคตถ้าได้เรียนในชั้นปีที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็คงได้เอาสกิลอะไรบางอย่างมาใช้จริงบ้าง”

>> กลัวการทำงานจะกระทบกับผลการเรียนไหม?
“จริงๆ ไม่กลัวนะคะ เพราะที่ผ่านมาเราก็สามารถจัดการเวลาระหว่างเรียนกับทำงานได้ และหวังว่าอนาคตก็คงจะไม่มีอะไรที่ทำให้สองอย่างนี้กระทบกันค่ะ แต่สุดท้ายแล้วไหมก็จะเลือกเรื่องเรียนก่อนอันดับแรกค่ะ”

>> ผลงานตอนนี้?
“ที่เพิ่งถ่ายจบไปก็ Across the Sky และอีกเรื่องนึงก็คือ Shadow เงาล่าตาย ก็เลยยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอีเวนต์หรือเป็นงานโปรโมตมากกว่าค่ะ”

>> กลัวในอนาคตมั้ยว่าเราเลี่ยงไม่ได้ที่อาจจะต้องจบช้ากว่าเพื่อน?
“จริงๆ ที่บ้านไหมไม่ซีเรียสเรื่องการเรียน คือไม่ได้ซีเรียสว่าถ้าวันนึงเรางานเยอะขึ้นมา จะต้องจบพร้อมเพื่อน เพราะที่บ้านไหมไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น เขาเข้าใจในการทำงานของเรา แต่ความตั้งใจของไหมก็คือให้จบพร้อมเพื่อน และจริงๆ หนูเป็นคนค่อนข้างซีเรียสเรื่องผลการเรียน ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น แต่เราก็อยากจะให้มันดีทั้งคู่ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องการทำงาน”

>> ถ้ารับงานก็จะเลือกไม่ให้กระทบกับเวลาเรียนใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ”

‘เก้า สุภัสสรา’ เผยประสบการณ์ทริประทึก วิ่งวุ่นหาเที่ยวบินกลับไทย หลัง ‘จีน’ ประกาศเตือนพายุ 3 ลูกจ่อถล่ม ‘ฮ่องกง’ ล่าสุดปลอดภัยแล้ว

‘เก้า สุภัสสรา’ โพสต์ไอจีเผยความเคลื่อนไหววันนี้ หลังเจอทริปโกลาหลที่ฮ่องกง พายุเข้า 3 ลูก ต้องรีบวิ่งแจ้นมาสนามบินสุดทุลักทุเล ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่แฟนคลับอดเป็นห่วงหนักมากไม่ได้

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 ‘เก้า สุภัสสรา ธนบุตร’ ดาราสาววัย 28 ปี ได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ทริปการเดินทางระทึกที่สุดเท่าที่ตัวแสนจะบอบบางของเธอเคยเจอมา

หลังจากสาวเก้าเดินทางไปทริปที่ประเทศฮ่องกง แล้วบังเอิญต้องเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนหนัก จากมรสุมพายุเข้าเต็มเปาถึง 3 ลูก จนทำดาราสาวมากความสามารถต้องวิ่งโร่ตีไฟลต์เครื่องบินกลับด่วน แถมต้องออกแรงวิ่งจนแข้งขาอ่อนเพื่อไปสนามบินให้ทันเวลาอีกด้วย

โดยเนื้อหาทั้งหมดที่เก้า สุภัสราเขียนเล่าไว้ในสตอรี่ไอจี ระบุว่า…

“ทริปนี้ โกลาหลมาก ต้องบินกลับพรุ่งนี้แต่พายุเข้า เลยรีบวิ่งมาสนามบินเพื่อหาไฟท์กลับให้ได้ภายในคืนนี้ ทุกไฟท์คือเต็มหมด ทั้งไป ตปท. รอบๆ ไทยก็ด้วย เราเลยตั้งใจรอสแตนด์บายบายทุกสายการบินที่บินไปไทย เพื่อรอที่นั่งหลุด และใช่ค่ะ!! มีคนหลุดพอดีจำนวนคนเราพอดี เราได้กลับไทยก่อนที่ไฟท์พรุ่งนี้จะแคนเซิลทั้งหมด”

“ได้นั่งสายการบิน airasia ecoได้ราคา 13,000 บาทกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะว่าเรามีงานถ่ายโฆษณาวันที่ 2 กองจะพังเพราะเราไม่ได้ ! ทริป คือ ทุลักทุเลตั้งแต่ขาไปยันกลับ เป้อกับพี่นิวที่จะมาด้วยกันคือวีซ่าแชงเก้นไม่ให้พาสปอร์ตคืน ทำให้สองคนอดบินไปพร้อมกัน แต่สุดท้ายก็ออกเช้าวันที่เราใกล้จะขึ้นเครื่องไปพอดี สองคนก็เลยตามมาช่วงเย็น”

“กลับมาต่อที่ทริปนี้ ตอนจะกลับ รีบกลับ รร. แพ็กของและวิ่งมาสนามบินหน้าตาตื่นมาก รู้สึกที่คิดถูกในการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะไม่งั้นน่าจะไม่ได้กลับอีกหลายวันเลย”

“มีพายุทั้งหมด 3 ลูก คนตุนของกันแล้ว บางพื้นที่ราบต่ำอพยพแล้ว เพราะดวงจันทร์เต็มดวงทำให้น้ำขึ้นสูงกว่าปกติ พวกเราโชคดีมากที่เดินทางกลับมาได้และปลอดภัย”

“ขอบันทึกให้เป็นทริปที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยไปมา ไม่เคยตื่นเต้น ระทึกอะไรเท่านี้มาก่อน ขอให้เดือนกันยาใจดีกับพวกเราด้วยเถอะ”

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความตระหนกตกใจของแฟนคลับที่หลาย ๆ คนอาจจะยังรู้สึกคลายความกังวลถึงนักแสดงสาวขวัญใจลงไม่ได้ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่ารอดพ้นวิกฤตที่พาตะลึงมาได้แบบปลอดภัยแล้วก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ จึงต้องขออนุญาตนำเซตปลอบประโลมความเป็นห่วงที่ส่งไปถึงได้แค่ในโซเชียล แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องแสดงออกด้วยเซตภาพถ่ายเซตแฟชั่นเผยความงามเบา ๆ ของเจ้าตัวที่ลงเปิดเผยความดีต่อใจไว้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยเป็นโพสต์ที่ตัวแม่สายความงามแบบมีรสนิยมนี้ได้ติดแคปชันเบา ๆ ไว้ว่า “สวยแบบเต็ม 10 ไม่หักก 💗”

‘แคทรีโอนา เกรย์’ มิสยูนิเวิร์ส 2018 เที่ยวชมวัดพระแก้ว แฟนๆ นางงามปลื้มใจ!! ชม ออร่า ‘สวยสมมง’ เหมือนเดิม

เป็นมิสยูนิเวิร์สที่คว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล บนเวทีรอบไฟนอลในประเทศไทย สำหรับ ‘แคทรีโอนา เกรย์’ สาวงามจากฟิลิปปินส์ มิสยูนิเวิร์ส 2018

ซึ่งปีนั้น ‘แคทรีโอนา’ และผู้เข้าประกวดท่านอื่น ๆ ได้มาเก็บตัวทำกิจกรรมที่ประเทศไทย และได้เยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ อาทิ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม รวมถึงทะเลกระบี่ และแม้ว่าจะผ่านไปหลายปี ก็ยังคงเดินทางมาทำกิจกรรมที่ประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง

ล่าสุด แคทรีโอนา ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าได้เดินทางไปชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วอีกครั้ง โดยมีข้อความว่า

“ย้อนรำลึกถึงความรู้สึกที่ได้กลับเข้ามาที่พระบรมมหาราชวังอีกครั้ง นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ทริปที่ได้มาตอนทำกิจกรรมมิสยูนิเวิร์ส ที่พวกเราทั้ง 95 คนอยู่ด้วยกัน ปีนี้ครบรอบ 5 ปีแล้วที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันซาบซึ้งใจมาก การเดินทางครั้งนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตฉัน และประเทศไทยจะอยู่ในใจเสมอ”

โดยมีเหล่าแฟนคลับชาวไทย เข้าไปคอมเมนต์แสดงความยินดีจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top