Wednesday, 14 May 2025
NEWSFEED

29 กันยายน ตรงกับ ‘วันหัวใจโลก’ หวังให้คนตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจ

วันที่ 29 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันหัวใจโลก’ จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและความรุนแรงของโรคหัวใจ

วันหัวใจโลก (World Heart Day) ตรงกับวันที่ 29 กันยายน ของทุกปี จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและความรุนแรงของโรคหัวใจ เนื่องจากสถานการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก จึงควรรณรงค์ให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญในการดูแลและป้องกัน 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด และพันธุกรรม ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม จึงร่วมรณรงค์ให้ทุกคนดูแลหัวใจตนเองให้แข็งแรง

ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า ‘หัวใจ’ เป็นอวัยวะสำคัญ ที่ทำหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจละเลยไป คือการดูแลรักษามัน ขณะเดียวกันมีกิจกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวันที่เป็นการทำร้ายหัวใจโดยที่ไม่ได้คาดคิด ยกตัวอย่างเช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารแบบผิด ๆ การไม่ออกกำลังกาย หรือการคิดมากจนทำให้เกิดความเครียด เป็นต้น

‘อุ้ม ลักขณา’ เปิดใจทั้งน้ำตา วินาทีตัดสินใจหย่า ‘บอล กฤษณะ’ เผย ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง-เดินหน้าต่อเพื่อลูก

(28 ก.ย. 66) หลังจาก ‘อุ้ม ลักขณา’ ตัดสินใจหย่ากับอดีตสามี บอล กฤษณะ ที่คบหากันมากว่า 7 ปี เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจในรายการ ‘WOODY FM’ เผยรู้สึกชีวิตเหมือนตกจากสวรรค์ ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองด้วยวัย 40 เดินหน้าต่อเพื่อลูกในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม ทำให้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยั่งยืน

อุ้มบอกว่ากับเรื่องนี้สิ่งที่ได้เรียนรู้คือไม่มีอะไรที่ยั่งยืน

“คือเราฝากชีวิตไว้กับเขา แล้วคิดว่าอุ้มทิ้งทุกอย่างเลยนะ ทิ้งตั้งแต่ทำงานวงการ เพื่อที่จะมาใช้ชีวิตอยู่กับเขา ทิ้งครอบครัว ทิ้งเพื่อน สังคมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาคนเดียว จนกระทั่งมีลูก แล้วมันก็เลยทำให้เราตัดหนทางการทำงานของตัวเองไปเลย เหมือนตัดโอกาสตัวเองไปด้วย”

แต่แฮปปี้เพราะมีลูก รู้สึกว่าความสุขของเราคือลูก แล้วก็คิดว่าฝากฝังชีวิตเราไว้กับคนๆ นี้

“ก็เหมือนเป็นพวกเพ้อฝันในอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นคนโลกสวยอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากจะมีสามีที่ดี เพราะเห็นพ่อเราเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบของคนที่เป็นสามีของครอบครัว เราก็อยากจะมีมุมๆนั้น และในวันหนึ่งที่เราได้แต่งงานได้ใช้ชีวิตจริงๆ”

อุ้มเล่าต่ออีกว่า “เราก็รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยเนอะ ก็ยังพูดกับเขา อุ้มเคยกราบเท้าเขาในวันพ่อเมื่อปีที่แล้วก่อนที่จะมีเรื่อง แล้วก็พาลูกๆไปกราบ ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ก็เอาพวงมาลัยไปกราบเท้า แล้วบอกเขาว่า ขอบคุณ (น้ำตาคลอ) ที่เป็นพ่อที่ดี ที่ดูแลอุ้ม และเคยบอกเขาว่า เราโชคดีเนอะที่มีสามีที่ดีมากๆ ทุกคนจะบอกกับอุ้มตลอดว่า เหมือนกับเป็นผู้หญิงที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ที่มีผู้ชายที่ดูแลเราดีมาก รักเรามากๆ ก็เลยทำให้เราไม่ได้คิดระแวดระวังหรือสงสัย เพราะทุกอย่างมันดีจริงๆ”

ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวมากมายที่พยายามปรับตัวกันเยอะ แต่พอสุดท้าย มาเจอเรื่องที่ทำให้เหมือนตกมาจากสวรรค์

“เพราะเราไม่เคยคิด ไม่เคยมีในหัวอุ้มแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่จะไม่มีผู้ชายคนนี้ในชีวิต ณ วันนั้นนะคะ วันที่เราพาลูกๆไปกราบเท้าเขา ยังบอกเขาว่าเราแก่ไปด้วยกันนะ ดูลูกเติบโตไปด้วยกัน (ร้องไห้) เพราะคิดว่าเขาคือคนสุดท้ายในชีวิตเราแล้ว แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่ฝันไว้”

กับการเปลี่ยนมาเป็นซิงเกิลมัม เธอบอกว่า เป็นแม่ที่ดูแลลูกเองมาตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ลูกสาวเกิด เป็นคุณแม่เต็มตัวที่ทิ้งทุกอย่าง ไม่ได้ทำงาน รู้ทุกขั้นกระบวนการของลูก เพราะฉะนั้น ณ การดูแลลูกไม่มีอะไรเปลี่ยน

“มันเป็นอุ้มคนเดิมอยู่แล้วที่ดูแลเขา แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือเขาเป็นเด็กที่ฉลาดมากเลยค่ะ 4 ขวบแต่เข้าใจ ดิสนีย์เขารู้ เขาสัมผัสได้ทุกอย่าง แค่อุ้มนั่งนิ่งๆ เขาก็จะแบบ หม่าม้าร้องไห้ทำไม หม่าม้าเศร้าเหรอ ไปเอาดอกไม้มาให้อะไรแบบนี้ค่ะ หม่าม้าดิสนีย์เป็นกำลังใจให้นะ ดิสโตขึ้นจะทำงานหาเงินดูแลม้านะ โดยที่ไม่เคยสอน เพราะไม่ได้อยากคาดหวังว่าลูกโตขึ้นต้องเลี้ยงเราหรือต้องมาให้อะไรตอบแทนแค่เขามีความสุขในแบบที่เขาเป็น แค่ 4 ขวบสามารถพูดและแสดงออกมากๆ เลยว่าเข้าใจหัวอกของเรา ถ้าเมื่อไหร่ที่อุ้มอ่อนแอ เขาจะรู้ทันที เลยทำให้รู้ว่าต้องเริ่มที่ตัวเรา คือต้องรักตัวเองก่อนในเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว เพราะเชื่อว่าเราทำดีที่สุด”

“สิ่งหนึ่งที่อุ้มจะไม่สอนลูกเลยคือ ไม่สอนให้ลูกตัวเองรับรู้ถึงปัญหาว่าพ่อกับแม่มีปัญหาอะไรกัน หรือเขาจะไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขา อุ้มจะบอกเขาเสมอว่า ป๊ะป๋ารักดีสนีย์มากและหม่าม้าก็รักดีสนีย์มาก ในวันนี้หม่าม้ากับป๊ะป๋าเป็นเพื่อนกัน ครั้งแรกเขาไม่เข้าใจ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนได้ยังไงแต่งงานกันก็ต้องเป็นสามีภรรยาสิ”

“คราวนี้เราต้องย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ใช่ไหมคะ เขาเกิดที่เชียงใหม่ เขาก็พูดว่าบ้านเขาอยู่เชียงใหม่ เพื่อนเขาอยู่เชียงใหม่ ทำไมหม่าม้าต้องย้ายบ้าน เราก็ตอบว่าบ้านพังป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้าน ก็เลยเปิดคลิปวิดีโอที่เป็นบ้านพังถล่มให้เขาดู แล้วก็บอกกับพ่อเขาให้เราพูดไปในทางเดียวกัน ว่าป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้านเดี๋ยวลูกกลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับหม่าม้า อากง เฮียก้า น้านิว ซึ่งเขาก็แฮปปี้”

จากเรื่องราวที่ผู้หญิงคนนี้เจอก็ทำให้มีคนเข้ามาขอคำปรึกษาเยอะ บ้างก็บอกว่า ทำไมถึงใจเด็ดจังครั้งเดียวแล้วไปเลย อุ้มบอกว่า…

“หนทางที่มันเดินทางร่วมกันมาจะบอกเขาเสมอว่าทุกๆ เรื่องคุยกันได้ปรับกันได้ แต่ถ้ามันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีบรรทัดฐานไม่เท่ากัน ซึ่งอุ้มมีบรรทัดฐานของอุ้มอยู่ที่จุดนี้ แต่เขาไม่เคยแตะมาถึงจุดนี้ มันให้อภัยกันได้ คุยกันได้ แต่เมื่อไหร่ที่เขาแตะอันนี้ ไม่ได้”

บางคนที่ไม่กล้าออกจากความสัมพันธ์ สำหรับ อุ้มแล้วเธอมองว่า คนอาจจะคิดว่าไม่มีใครแทนที่คนๆ นี้ได้หรือเปล่า

“เป็นความคิดมโนไปเองว่า ไม่มีใครรักเราเท่านี้หรอก เราจะออกไปหาใครได้ อายุขนาดนี้แล้ว ออกไปทำอะไรที่มันไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเจออะไร เราก็เลยย้อนกลับไปว่า แล้วทำไมเราถึงต้องเลือกที่จะอยู่ในจุดที่มันไม่มีความสุขแล้วไปต่อไม่ได้ แล้วมันก็เป็นการตกลงคุยกันทั้งสองฝ่ายแล้วว่าเขาเลือกทางนี้ เราเลือกทางนี้ แต่เรามีทางตรงกลางเพื่อลูก แค่นั้นก็คือจบแล้ว”

เธอบอกอีกว่า ให้กลับมารักตัวเอง ทุกคนมันต้องมีทางไป และอุ้มก็เชื่อกับ นิวเคลียร์ เสมอเลยจะพูดกันตลอดอะไรเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาคงประทานมาให้เราได้เห็น ได้รู้ ไม่ตามืดตามัว

“แม่ของอุ้มจะพูดตลอดว่าเธอคือ ‘อุ้ม ลักขณา’ ลักขณาฆ่าไม่ตายหม่าม้าบอกแล้วใช่ไหม เราดูแลตัวเองมาดีขนาดนี้ ออกกำลังกายอย่างหนัก ดูแลตัวเองให้อายุ 40 แล้วยังดูสวยอยู่ แล้วสวยกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงต้องด้อยค่าตัวเอง ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้กับสาวๆ  คนที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน เราไปได้ โดยเฉพาะเรามองหน้าลูก เรานอนกอดเขา เห็นหน้าเขา มันมีพลังมหาศาลมากมาย ซึ่งทำให้เราแพ้ไม่ได้ ยอมไม่ได้ต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ต้องดีกว่าเดิมให้ได้มากกว่าเดิมด้วยเพื่อลูกของเรา”

‘ตั๊กแตน’ หอบไอโฟน-ทองเส้นโตเซอร์ไพรส์ ‘เอ ศุภชัย’ หลังครบรอบ 1 ปี ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้ได้ร้อง

(27 ก.ย.66) รักสุดหัวใจเลยก็ว่าได้อีกหนึ่งท่านผู้มีพระคุณของ ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ที่ผู้จัดชื่อดังอย่าง ‘เอ ศุภชัย’ เซอร์ไพรส์ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้ตั๊กแตนร้องมาเป็นระยะ 1 ปีเต็ม ซึ่งสัญญาจะหมดลงในวันที่ 30 กันยายน 2566 แต่ก็มีแฟนเพลงผู้ใจดีได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้ตั๊กแตนได้ร้องต่ออีก 1 ปี 

บุญคุณนี้จะต้องทดแทน เมื่อ ‘ตั๊กแตน ชลดา’ และทีมงานบุกไปถึงบ้านของ เอ ศุภชัย ถึงบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่เพื่อเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการมอบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และ ไอโฟน 15 ใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งเผยคลิปสุดอบอุ่นในครั้งนี้ด้วย โดยระบุว่า…

“หนูขอบคุณแม่มากๆ นะคะ ครบรอบหนึ่งปี ที่แม่ซื้อลิขสิทธิ์ให้แตน วันนี้แตนตั้งใจจะมาร้องเพลงให้แม่ฟัง รักแม่นะคะ @a_supachai1 ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกมอบให้แม่”

พร้อมระบุข้อความเพิ่มเติมว่า…

“ไม่รู้จะให้อะไรแม่เป็นการตอบแทน กับความรักและความหวังดีที่แม่มีให้แตน แม่มีครบหมดแล้วทุกอย่าง แต่ก็อยากให้อะไรแม่บ้างอยู่ดี วันนี้แอบมาเซอร์ไพรส์ร้องเพลงให้แม่ฟังถึงบ้าน ที่นครศรีธรรมราชกับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไอโฟน ไว้ให้แม่ถ่ายรูปสวยๆ ลงไอจี กับสร้อยคอทองคำให้แม่ 5 บาท ถึงแม่จะบอกว่าแค่แกงไตปลาสักถ้วย แม่ก็ชื่นใจแล้วก็เถอะ”

‘จ้าวลู่ซือ’ ประเดิมเมนูแรกหลังถึงไทย ซัดไข่ดาว 5 ฟอง 5 จานกินคนเดียว!!

(27 ก.ย.66) หลังจากสร้างปรากฏการณ์แฮชแท็ก #ประเทศไทยมีจ้าวลู่ซือแล้ว ครองเทรนด์ทวิตเตอร์ เมื่อนางเอกสาวสุดฮอตจากแดนมังกร ‘จ้าวลู่ซือ’ (Zhao Lusi) ลัดฟ้าถึงเมืองไทยเพื่อเตรียมมีกิจกรรมโปรโมตผลงานในไทยในวันพุธที่ 27 กันยายนนี้ กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดัง 

ทันทีที่มาถึงสนามบิน นักแสดงสาวชาวจีน ก็แจกความน่ารักสดใสอีกทั้งยังโชว์พูดภาษาไทย ออกเสียงชัดเจน "ขอบคุณนะคะ" และ "รักนะคะ"

ไม่เพียงแค่นั้น ‘จ้าวลู่ซือ’ ยังประเดิมเมนูแรกในไทย โดยนางเอกสาวสุดฮอตเลือกเมนูไม่ธรรมดา เรียกว่าสร้างตำนานบทใหม่กันเลยทีเดียว เมื่อ ‘จ้าวลู่ซือ’ ได้โชว์ภาพคู่กับเมนูไข่ดาว ที่ไม่ใช่แค่ไข่ดาวฟองเดียว แต่มาด้วยกันถึง 5 ฟอง 5 จาน พร้อมโชว์กินไข่ดาวโดยกินคนเดียวเองทั้งหมดไม่แบ่งใคร

สำหรับ ‘จ้าวลู่ซือ’ นางเอกจีนคนดัง มีผลงานซีรีส์ชื่อดังมากมาย อาทิ ‘ข้านี่แหละองค์หญิงสาม’ (The Romance of Tiger and Rose), ‘เทียบท้าปฐพี’ (Who Rules The World), ‘ดาราจักรรักลำนำใจ’ (Love Like the Galaxy) และล่าสุด ‘แอบรักให้เธอรู้’ (Hidden Love)

‘ฌอห์ณ-เพชร’ เผยภาพแห่งมงคล ในวันเข้าพิธีรับพระราชทานน้ำสังข์ จากกรมสมเด็จพระเทพฯ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

(27 ก.ย.66) พระเอกหนุ่มมาดเข้มอย่าง ฌอห์ณ จินดาโชติ กับแฟนสาวคนเก่ง เพชร ภิพัชรา ดีไซเนอร์ และเจ้าของแบรนด์เครื่องหนัง PIPATCHARA ที่ตอนนี้พร้อมเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างสมบูรณ์ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้เข้าพิธีรับพระราชทานน้ำสังข์ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

และล่าสุด ฌอห์ณ จินดาโชติ และ เพชร ภิพัชรา ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เผยภาพแห่งความเป็นสิริมงคลของชีวิตคู่ พร้อมข้อความว่า “๘ กันยายน ๒๕๖๖ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายฌอห์ณ จินดาโชติ และ นางสาวภิพัชรา แก้วจินดา"

‘เอส กันตพงศ์’ ภาพล่าสุด ดูสดใสแข็งแรงขึ้นมาก หลังแท็กทีมภรรยาพาลูกสาวตัวน้อยไปเที่ยวทะเล

(26 ก.ย.66) เรียกว่าเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจสุดๆ สำหรับครอบครัวของ ‘เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์’ พระเอกช่อง 7 ที่ตอนนี้สภาพร่างกายกลับมาดีวันดีคืน สามารถไปเที่ยวไหนมาไหนกับครอบครัวได้แล้ว

ล่าสุด ‘คิตตี้ คริสติน่า’ ภรรยาหนุ่มเอสได้โพสต์โมเมนต์แห่งความสุขผ่านอินสตาแกรม เป็นภาพที่เอสและครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกันที่ชายทะเล โดยหนุ่มเอสยิ้มแย้มแจ่มใส สีหน้าสีตาดูสดใสขึ้นมาก ดูแล้วอาการน่าจะหายดีเกือบเป็นปกติแล้ว

ซึ่งภรรยาสาวคิตตี้ระบุแคปชันว่า…

“First short day trip together

These few hours were so meaningful especially for Valentina as she is the one asking the most about Papa getting better to play with her.I know how much she is missing these precious moments with her dad and how tough it has been on her.

So it made me so happy with tears in my eyes to have been able to give her a few hours like this. Thank you so much for P'Ann and P'Bell for taking us.

#bumrungrakfamily #valentinaerikab #princessvalentina #happyfamily #daytrip #thailandtravel #เอสกันตพงศ์

(ทริปสั้นๆ ครั้งแรกด้วยกัน

สองสามชั่วโมงนี้มีความหมายมากโดยเฉพาะสำหรับ วาเลนติน่า เนื่องจากเธอเป็นคนที่ขอให้ ปะป๊า เล่นกับเธอได้ดีขึ้น ฉันรู้ว่าเธอคิดถึงช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านี้กับพ่อของเธอมากแค่ไหน และมันยากลำบากแค่ไหนกับเธอ

มันทำให้ฉันมีความสุขมากทั้งน้ำตาที่สามารถให้เวลาเธอได้สองสามชั่วโมงแบบนี้ ขอบคุณพี่แอนและพี่เบลล์มากๆ ค่ะ ที่พาเราไป

#bumrungrakfamily #valentinaerikab #princessvalentina #happyfamily #daytrip #thailandtravel #เอสกันตพงศ์)

‘สตรีมมิ่ง’ ฟู่ฟ่าก้าวกระโดด สวนทาง ‘วงการโทรทัศน์’ ที่นับถอยหลัง รอวัน ‘ล่มสลาย’

ต้องยอมรับว่า ‘สตรีมมิ่ง’ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะคอนเทนต์ละคร ซีรีส์ที่เสิร์ฟให้เป็นรสชาติแปลกใหม่ สร้างความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีหลากหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือโซนตะวันตกก็มีให้ดูแบบฟินจุใจ ดูเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ตามแต่จะสะดวก

ความนิยมดูสตรีมมิ่งของคนในยุคปัจจุบัน สะท้อนถึงการล่มสลายของวงการโทรทัศน์อย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกวันนี้ คน ‘ดีใจ’ ที่ละคร/ซีรีส์ ได้รับกระแสตอบรับดีในระบบสตรีมมิ่ง

คุณธิติพร จุติมานนท์ หรือ Boy Entertain บรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าวบันเทิงช่อง One ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้เช่นกัน โดยระบุว่า "ทำไมคนทำละครถึง 'ภูมิใจ' เวลากระแสดีที่ Netflix หรือมันชี้ชัดแล้วว่า 'คนไทยไม่ดู TV' ...หนึ่งในความสยอง วงการ TV เริ่มนับถอยหลังแล้วใช่ไหม"

‘แน็ก ชาลี’ รับอึดอัดเหมือนคนใกล้ตาย ลั่น!! อยากกลับไปสกปรก  แต่ลุคนั้นใช้ทำงานไม่ได้ หมดหนี้เมื่อไหร่จะไปใช้ชีวิตแบบเดิม

(26 ก.ย. 66) ยังคงอยู่ในช่วงหล่อร้อนเงินเหมือนเดิม สำหรับหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี ไตรรัตน์’ ที่เอาความหล่อมาใช้ประโยชน์หาเงินปลดหนี้ ล่าสุดเจ้าตัวได้เผยในงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator ก็เลยขออัปเดตกันสักหน่อย ว่าจะได้เห็นแน็กในลุคหล่อๆ แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

“ช่วงนี้ร้อนตังค์นะครับ ก็จะออกมาสภาพแบบนี้ว่าดูเป็นผู้เป็นคนหน่อย ถามว่าร้อนเงินหรือคลั่งรัก ยังเรียกว่าร้อนเงินอยู่ครับผม ไม่ใช่หรอก คือทำงานก็อยากลองเปลี่ยนตัวเองดูหลายๆ อย่าง ถามว่าชอบลุคนี้ไหม ไม่ชอบเลยครับ ผมชอบเวลาเราผมยาวๆ ดูสกปรกๆ แต่ว่าลุคนั้นทำงานไม่ได้ เลยต้องยอมปรับเปลี่ยนตัวเองหน่อย ตื่นเช้ามาก็ต้องมานั่งกลั้นฝืนแต่งหน้าทำผม ก็อดทนครับ รีบล้างหน้าให้ไวที่สุด ถามว่าอึดอัดไหม ถ้าตอบตามตรงแม่xโคตรอึดอัดเลยพี่ แต่ถ้าตอบแบบดารา…มันไม่ใช่หน้าที่นะครับ มันคือสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับ (ถ้าตอบแบบแน็ก ชาลี?) โอ้ย แม่xเหนื่อยฉิบหาxเลย (หัวเราะ) หยอกเล่นๆ แต่อยากกลับไปไว้ผมยาว แต่ผมจะพูดบ่อยมากๆ เมื่อก่อนผมไว้ผมยาวถึงก้น ผู้ชายเวลาไว้ผมยาวมันไม่ต้องเซ็ตผม แต่พอผมสั้นเวลาเซ็ตผมไม่พ่นสเปรย์ แล้วผมแพ้สเปรย์ ฉีดแล้วสิวมันชอบขึ้น”

>> ชอบตัวเองลุคสกปรก แต่ตอนนี้ต้องปรับตัวให้ดีขึ้น

“ในชีวิตจริงโคตรสกปรกเลยครับ (หัวเราะ) ไม่หรอกๆ เราก็ผมยาว เราก็ชอบใช้อะไรที่หอมๆ ใส่อยู่แล้ว ก็อาบน้ำ แต่ว่าเราชอบปล่อยตัวสบายๆ จริงๆ ถามว่าชอบลุคเซอร์ ไม่ๆ ชอบลุคสกปรกครับ แต่ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวให้ดีขึ้นหลายๆ อย่าง ถามว่าชอบความหล่อไหม ผมเนี่ยมันหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผ่านการแต่งหล่อ เก๊กหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันเก็บกดแหละ พอมีโอกาสที่จะได้เป็นตัวเอง ไม่ต้องเก๊กตลอดเวลา ไม่ต้องลงอะไรที่คีฟตลอดทั้งปี มันถือว่าเป็นความโชคดีที่สุด ที่ผมได้มาแล้ว”

>> บอกไม่ต้องเสียดายความหล่อ ถ้าปลดหนี้หมดจะกลับไปใช้ชีวิตแล้ว

“ไม่น่าเสียดายหรอกครับ ตอนนี้ผมหล่อจนผมใกล้ตายแล้วครับ รู้สึกว่าการดูแลตัวเองของผมเนี่ย มันเหนื่อยแบบใกล้ตายแล้ว แต่ผู้จัดการผมน่าจะตายก่อน เส้นเลือดในสมองแตก เพราะเขาคุยโทรศัพท์บ่อยมาก ถ้าผมปลดหนี้ในชีวิตผมได้แล้ว ผมจะไปใช้ชีวิตให้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน แต่หนี้เท่าไหร่บอกไม่ได้ๆ เยอะ ถามว่าทำไมไม่เอามอเตอร์ไซค์มาขาย คือผมไม่ชอบเอาของที่เก็บมาขาย แต่ก็ดีใจมาก ที่ผมได้รู้จักการเป็นหนี้กับธนาคาร มันทำให้เราไม่เอาเงินไปซื้อของเละเทะ จากที่เราซื้อกีตาร์วันเป็นร้อยเป็นพันตัว ก็ทำงานไป ถือว่าลองมีความรับผิดชอบ”

>> ถ้าหล่อแล้วปลดหนี้ได้ไว เดี๋ยวเดือนหน้าหล่อกว่านี้อีก

“เดี๋ยวเดือนหน้าผมหล่อกว่านี้อีก (หัวเราะ) แต่ก่อนเนี่ย ชีวิตผมท่องมาตลอด ว่าการไม่มีหนี้เป็นอะไรที่คุณโชคดีมาก คุณประเสริฐมาก แล้วผมมีของสะสมเยอะมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ผมก็ลองดู การเป็นหนี้มันก็ทำให้เรามีความรับผิดชอบในการทำงานมากขึ้น เรียกว่าเลิกทำงานไม่ได้ จนกว่าจะปลดหนี้เสร็จ แต่ถ้าหมดผมหนี้เนี่ย ผมแม่xจะออกไปตามล่าหาแย้ หาปลา จะไปตะคุบตัวเหี้xเหมือนเดิม ลงน้ำ อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม เราจะทำงานน้อยลง กินทุกอย่างที่ขวางหน้า”

>> เป็นหนี้เพราะสะสมที่ดิน

“ที่ดินๆ ผมชอบสะสมที่ดินอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนนี้อยากได้ใหญ่ขึ้น ก็ดีกว่าไปซื้อกีต้าร์มาแจก มาทิ้ง”

>> ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วห่อทอง เป็นผ้าขี้ริ้วสกปรกนี่แหละ

“ผ้าขี้ริ้วสกปรกนี่แหละครับ (หัวเราะ) ผมเซอร์ แต่ความเซอร์ต้องดูให้ถูกต้องนะ เซอร์แล้วหล่อ แต่ผมเซอร์สกปรก คนละอย่างกัน ความฝันตอนนี้อยากกลับไปอยู่แบบที่เราอยู่มาตลอด มีความสุขที่ได้ทำอะไรหลายอย่าง แต่ตอนนี้เราก็ต้องทำงานที่เราต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด เรารับผิดชอบงานที่มีให้ดีที่สุด ไม่ทำให้งานมีปัญหา น่าจะได้เห็นผมในพาร์ตหล่อๆ อีกเป็นปีแหละครับ”

>> มีแฟนแล้วก็ไม่ได้อยากหล่อ แต่ยอมรับว่าไม่ใช่คนดี มองคนที่หน้าตาก่อนเหมือนกัน

“ไม่มีเลยครับ ผมรู้สึกว่าคนสองคนตอนเข้าใจกันมันหลายอย่าง มันอาจจะมองแว๊บแรกที่หน้าตาหล่อสวย ผมก็ยอมรับว่าผมไม่ใช่คนดี ที่ว่าเรามาคบกันที่จิตใจอย่างเดียว ผมก็ต้องมองก่อน ว่าหน้าตามันสวยเว้ย

แล้วก็มีโอกาสได้คุยกัน ก็เป็นความรัก เป็นความรู้สึกดีเข้ามาเพิ่มขึ้น เป็นความผูกพันที่ได้เจอ ได้อยู่ด้วยกัน”

>> ไม่มั่นใจ ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ แฟนสาว จะชอบตัวเองในลุคไหน

“ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าเขาก็ดีและรับได้ที่เราเป็น แค่นี้ก็พอแล้วครับ

>> เล่าพา ‘เก๋ไก๋’ ไปเจอตุ๊กแก เพื่อเป็นการฝึกฝน เวลาเห็นจะได้ไม่กรี๊ดแตกตกใจ

“นานแล้วๆ เหมือนเป็นการฝึกฝน เวลาไปเจอจะได้ไม่กรี๊ดแตกหรือตกใจ เราก็ใช่วิธีการจับมาแล้วให้เขาทักทายกัน ให้ได้ลองสัมผัสตุ๊กแก เหมือนหลายคนที่กลัวไม่ลองเปิดใจ ถ้าคุณได้เปิดใจ ได้ลูบได้จับตุ๊กแกนะครับ (จะน่ารักเหรอ?) โอ้ย คุณจะเกลียดแม่xหนักกว่าเดิมอีก มันกัดครับผม ถามว่าไม่กลัวตุ๊กแกกัดเก๋ไก๋เหรอ มันจะมีตัวเชื่อง ตัวดี ตอนเด็กผมฝึกฝน ผมก็หยิบตุ๊กแกมาแล้วก็ 1 2 3 ให้มันงับจมูก พอแม่xงับปุ๊บมันไม่ปล่อยนะครับ สุดท้ายก็เป็นหน้าที่แม่ที่ต้องมาแงะออก แต่โตขึ้นก็ไม่ค่อยทำอะไรแบบนั้นแล้ว ผมว่าเขาก็เจอมาหลายอย่างแล้วนะ เขารับได้ๆ ถ้าวันนั้นมันเกาะแล้วกัด ผมจะถ่ายวิดีโอให้เขา แล้วก็จะสัมภาษณ์ว่ารู้สึกยังไง เวลามันกัดมันปล่อยยาก เราก็ต้องขอแป๊บหนึ่งๆ แซวเล่นๆ (หัวเราะ) เหมือนงูกัดขาผม สิ่งแรกก็แม่xเอ้ย ต้องมีอะไรเก็บไว้ดูเอง”

>> บอกไม่ต้องห่วง น้ำหนักขึ้นโชว์ไม่ได้แล้ว หลัง ‘เก๋ไก๋’ แอบหวงไม่อยากให้เซ็กซี่เยอะ

“โห ไม่ต้องห่วงครับผม สภาพตอนนี้โชว์อะไรไม่ได้แล้วครับ น้ำหนักขึ้นมาโหดมาก อาทิตย์หนึ่งผมขึ้น 10 โล มันขึ้นเพราะทำงานนี่แหละ พอทำงานหนักปุ๊บ เราอดไม่ไหว เราก็กินข้าวแบบคนปกติไม่ไหว แล้วผมชอบกินข้าวเหลือของคนอื่น เป็นคนเห็นพวกสัตว์ที่มันตายในจานไม่ได้ ผมต้องเก็บกินให้เกลี้ยง ส่วนเรื่องที่เขาไม่อยากให้โชว์หุ่น ผมว่าเขาแซวเล่น น้องไม่ได้ห้ามอะไรเลยครับ แต่ถ้าเขาขอก็ได้ ผมไม่ทำโน่นนี่หลายอย่าง แต่จริงๆ ผมจะบอกว่าไม่มี เขาไม่ห้ามอะไรเลย (ถ้าน้องห้ามโชว์กับเงินเราเลือกอะไร?) เฮ้อ หนักใจจริงๆ เลย วิ่งหนีดีกว่า เลือกคู่กันๆ แต่ไม่ผมจะบอกว่าน้องไม่ได้ห้ามอะไรเลย น้องตอบคำถามแซวเฉยๆ ไม่มีอะไร ผมดูคลิปที่เขาสัมภาษณ์”

>> อวยพรให้โชคดี เป็นนางเอกละครเต็มตัวแล้ว

“อวยพรครับ ขอให้เธอโชคดี ก็คือขอให้ดี ขอให้ละครประสบความสำเร็จ ดังมากๆ มันคงเป็นความฝันของเขา ผมรู้สึกได้เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มันเป็นความฝัน ความรู้สึกของเขา มันคงเป็นภาพที่ดีมากๆ ถ้าทุกคนรักเขา ผู้ใหญ่รักเขามากขึ้น ดีใจกับเขาด้วย ถามว่ามีแฟนเป็นนางเอกรู้สึกยังไงบ้าง จริงๆ เขาก็เป็นนางเอกอยู่แล้วนะ เขาเป็นนักแสดงอยู่แล้ว เมื่อก่อนเขาถ่ายหนัง ถ่ายละครมาเยอะแยะ อันนี้เป็นนางเอกเต็มตัว ก็ดีครับ เห็นภาพแล้วว่าจะเป็นยังไง ใครทำงานแล้วประสบความสำเร็จ เราก็ต้องดีใจ”

>> ออกตัวเล่นเป็นพระนางคู่กันจริงจังไม่ได้ แต่ถ้าเป็นละครคุณธรรมสั้นๆ กวนๆ อะได้เลย

“ไม่เล่น ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ ไม่ได้เขินหรอก เจอกันบ่อยจนไม่เขินแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าการที่ให้ไปเล่นเป็นพระเอก-นางเอกคู่กันแบบจริงจัง อาจจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าอะไรกวนๆ มันเป็นไปได้ มันสนุกๆ ละครคุณธรรม ละครกวนๆ อันนั้นได้หมดเลย

‘อิงฟ้า’ ไหว้ขอโทษ ‘มิสแกรนด์แคมโบเดีย’ ปมใช้เท้าเขี่ยชุด หวั่นมงฯ ร่วง-ชุดแหวกอกก้มเยอะไม่ได้ รับภาพที่เห็นเลยดูไม่น่ารัก

(26 ก.ย. 66) จากกรณีดรามา อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ใช้เท้าเขี่ยชุดของมิสแกรนด์แคมโบเดีย 2022 ล่าสุด อิงฟ้ามาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator เดอะ ครีเอเตอร์ ที่ ฮอลล์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เธอได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่าย พร้อมชี้แจงเจตนาที่ทำแบบนั้น

>> ถามถึงประเด็นดรามาใช้เท้าเขี่ยกระโปรง

“จริงๆ ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนเลยนะคะ (ยกมือไหว้) ขออนุญาตขอโทษทางมิสแกรนด์แคมโบเดีย แล้วก็แฟนคลับที่แคมโบเดียด้วย เพราะว่าจริงๆ ภาพมันก็ออกมาค่อนข้างที่จะดูไม่น่ารักจริงๆ แหละ อันนี้เราก็รู้ตัวนะ แต่ว่าอยากให้เข้าใจเจตนาของเรา ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราไม่ได้อยากจะมีปัญหากับประเทศแคมโบเดียอยู่แล้ว เพราะเรายังมีงานที่จะต้องไปทำ แล้วก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะด้วย แล้วกับตัวน้องนาโน มิสแกรนด์แคมโบเดีย จริงๆ มันมีประเด็นมาตั้งแต่เรื่องของการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น ซึ่งต้องบอกจริงๆ ว่า แล้วแต่สถานการณ์ในบางทีอะ เราไม่ได้เจอน้องแค่ช่วงนั้น จริงๆ แล้วเจอตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว ก็มีการรับไหว้กัน ก็ต้องขอบคุณที่มีภาพจากแฟนคลับที่ถ่ายไว้ได้ ว่าเราได้รับไหว้ แต่บางทีมุมกล้องก็ทำให้คนเข้าใจผิดได้

พอมันมีภาพที่เราใช้เท้าเขี่ยกระโปรง ก็บอกว่าเราไม่ถูกกับน้องหรือเปล่า คือจริงๆ จะบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ก็คือถ้าให้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหลายๆ คนได้เห็น ก็จะเห็นว่าฟ้าใส่วิก เราไม่ได้ล็อกมงฯ กับวิกด้วย แล้วมันเป็นการใส่แบบวาง โชว์ที่เดินมันคือฟินนาเล่ เราไม่ได้เดินคนเดียว มันมีคนที่เดินต่อเราติดๆ เลย ถ้าเห็นในคลิป เหมือนมันเป็นเหตุการณ์ที่เราก็ไม่รู้ ว่าเขาจะมีการสะบัดผ้า ถ้าดูในคลิปเราจะมีการฉุกคิดแป๊บเดียว ประมาณ 1-2 วิ ว่าเราจะเอายังไงต่อ ซึ่งถ้าเราก้มคือหนึ่งชุดเราไม่สะดวก เพราะชุดเราแหวกตรงช่วงอก สองคือเรื่องของมงฯ ถ้าเราก้มหรือขยับเยอะ มงฯ เราอาจจะร่วงได้

ซึ่งในหลักการเป็นนางงามแล้ว การออนสเตจก็คือมงฯ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าสมมติว่าภาพมันออกมาว่ามงฯ ร่วง อันนี้มันจะดูไปว่าเราไม่มืออาชีพ ซึ่งจริงๆ ถ้าหลายคนได้ติดตามเวลาที่ฟ้าเดินชุดยาวๆ ฟ้าจะใช้เท้าสะบัดชุดอยู่แล้ว เป็นปกติสำหรับเรา แต่พอเราใช้กับคนอื่น มันเลยอาจจะดูไม่น่ารัก อันนี้ก็ต้องขอโทษจริงๆ ก็น้อมรับทุกคำติ เราก็จะเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ในการแก้ไขในการออนสเตจ ซึ่งเราก็ได้มีการทักไปหาน้องแล้วตั้งแต่มีข่าว เห็นคลิปก็ทักไปหาน้องนาโน ว่าเฮ้ย พี่ไม่สบายใจ อย่างน้อยคือเราห่วงความรู้สึกของน้องก่อน ว่าพี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะ ซึ่งน้องก็ทักกลับมาเป็นภาษาไทยค่ะ ว่าพี่ฟ้า หนูก็ต้องขอโทษพี่ด้วย เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดมาตรงหน้าเรา เขาก็กลัวเราเสียความรู้สึก เราก็กลัวเขาเสียความรู้สึก ท้ายที่สุดก็ได้คุยกัน ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ไว้ร่วมงานกันใหม่”

>> เรารู้สึกยังไงที่คนตัดสินเราจากแค่คลิปสั้นๆ

“หนูไม่ได้เสียใจที่คนว่า แต่หนูแค่ห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า แล้วก็ห่วงความรู้สึกของคนแคมโบเดีย เขาจะคิดว่าเราไม่ให้เกียรติน้องเขาหรือเปล่า แต่จริงๆ เจตนาของเราไม่ได้คิดแบบนั้น มันแค่เป็นการแก้ไขสถานการณ์ช่วง 1-2 วิ อะไรแบบนี้ ภาพมันก็เลยออกมาแบบนั้น”

>> เรากังวลเรื่องปัญหาระหว่างประเทศใช่ไหม

“เราต้องไปร่วมงานกับแคมโบเดียอีกเยอะมากๆ ไหนจะคอนเสิร์ต จะพรีเซ็นเตอร์ และงานต่างๆ ซึ่งเราก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะ เราก็ห่วงความรู้สึกเขา เพราะว่าบางคนก็เข้าใจ แต่แฟนนางงามบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจไปเลย ซึ่งมันก็เป็นภาพลักษณ์ต่อๆ จากเรื่องการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น แต่ก็ได้แต่อธิบายกับสื่อตรงนี้ เราก็เก็บมาหลายวัน เพราะไม่อยากไลฟ์ ไม่อยากพูดถึงประเด็นตรงนี้ แบบอัดคลิปหรือโพสต์อะไร เพราะอยากให้มันดูเป็นการตอบ ที่ดูเป็นทางการที่สุด ซึ่งเราก็อยากจะขอโทษเขาอีกรอบหนึ่ง”

>> ดรามาที่ไม่ดีมาเยอะไหม กับคนที่ไม่เข้าใจเรา

“จริงๆ ก็ไม่เยอะนะคะ เท่าที่หนูเห็นส่วนมากประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะเข้าใจเรา ว่ามันเป็นการแก้ไขสถานการณ์ ณ เวลานั้น แล้วทางองค์กรเองเขาก็เข้าใจนางงาม กับการเตะสะบัดผ้า เราต้องเลือกระหว่างมงกุฎกับผ้า ซึ่งเราก็มองว่าเท้ามันก็ไม่ใช่ของต่ำอะไรสำหรับเรานะ เพราะกับนางงาม เท้าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เราไม่คิดด้วยไง ว่าสะบัดกระโปรงแล้วกล้องมันจะแพลนมาที่เรา เพราะมันเป็นฟินนาเล่ ก็น้อมรับทุกคำติค่ะ ไม่เป็นไร (ยิ้ม)”

>> กังวลไหมกระดิกตัวนิดหนึ่งก็เป็นดรามา

“ไม่ได้กังวลค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้มานานมากๆ แล้ว ก็คุ้นชินกับการมีดรามา แล้วก็มีทั้งคนรัก และก็คนที่เขาไม่ชอบ มันเป็นเรื่องปกติ”

>> เวลามีดรามาเข้ามา เรามองมันยังไง

“คือจริงๆ เรามองถึงปัญหาก่อน แล้วพอเราแก้ปัญหา สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึง ก็คือน้องนาโน พอเราทักไปขอโทษเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ก็คือจบแล้ว ส่วนคอมเมนต์หรืออะไร คนที่จะตัดสินเราแค่ช่วงวินาทีสั้นๆ หนูก็รู้สึกว่าปล่อยได้แล้ว”

>> ยิ่งสูงยิ่งหนาว

“อาจจะด้วยค่ะ เพราะว่าหนูเข้าใจนะ คนมันให้ความสำคัญกับทุกเสี้ยวเลย ในการที่เราจะออนสเตจ หรืออยู่ในแสง อาจจะต้องระวังมากขึ้น”

>> ตอนสะบัดไปแล้วคิดไหมว่าจะมีดรามา

“ตอนบนเวทีไม่ได้คิดค่ะ เพราะตากล้องไม่ได้จับ หลังจากสะบัดกระโปรงไปแล้ว เราก็หันไปมองน้อง จริงๆ ก็น่าจะรู้กันตั้งแต่บนเวทีแล้ว ก็มีทีมงานรีบขึ้นมาจัดแจงให้ต่อ ในภาพมันเหมือนหนูเหยียบไว้ แต่จริงๆ เราสะบัดแล้วมันติด มันเกี่ยว ทีมงานก็เลยมาช่วยเอาออกให้”

>> ถ้าเราไม่ใช้เท้าเขี่ยมันจะเกิดอะไรขึ้น

“หนูว่าลื่นแน่นอน เพราะพื้นที่ข้างๆ เรามันไม่มี คนต่อไปเขาเดินติดๆ เราเขยิบก็ไม่ได้ เพราะมีคนอื่นๆ ต่อๆ กัน มันต้องแก้ที่ตัวเราเลย ณ ตอนนั้น เพราะคนอื่นเขารอ”

>> ถ้าต่อไปมันมีแบบนี้อีก เราเตรียมแผนสองไหม

“โห พูดยากเลย ถ้ามันเป็นโชว์เดี่ยว หรือโชว์สองคน มันสามารถมีพื้นที่ในการแก้ได้ แต่พอมันเป็นฟินนาเล่ที่มีหลายคน มันคอนโทรลยากนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็จะระวังให้มากขึ้น ถ้าเป็นรอบหน้าก็อาจจะแบบ… แต่ภาพมันก็จะออกมาไม่สวยไง ถ้าเรารอให้ทีมงานมาเขี่ยให้ ภาพมันก็ไม่ได้อีก เพราะจริงๆ เราคิดว่ากล้องมันไม่ได้แพลน เราก็รีบจัด แต่กล้องก็คือรีบเลย (ยิ้ม)”

>> พอได้เคลียร์แล้วสบายใจไหม

“สบายใจค่ะ ก็หลังจากที่เริ่มมีดรามามากขึ้น หนูก็เลือกที่จะไม่อ่านดีกว่า เพราะว่าคนที่ควรจะเข้าใจมากที่สุดคือเราขอโทษไปแล้ว แล้วเขาเข้าใจก็คือจบ ถามว่าบั่นทอนไหมตอนดรามาถาโถม ก็ชินแล้วอะ แต่ก็ถ้าสมมติว่าเราไม่รู้จักตัวเอง เราก็อาจจะมีคิดเหมือนกัน เพราะภาพมันก็ออกมาไม่น่ารักจริงๆ”

‘YG’ วุ่น!! เจอสื่อเกาหลีตีข่าวไม่หยุด ปม ‘เจนนี่-จีซู’ จ่อเปิดค่ายของตัวเอง ฟาก ‘โรเซ่’ ต่อสัญญาคนเดียว ส่วน ‘ลิซ่า’ ลุยงานเดี่ยว ไร้เมเนเจอร์คอยคุม

(25 ก.ย.66) ยังเป็นเรื่องในแวดวงบันเทิงเกาหลี ที่หลายคนจับตามองอยู่ไม่น้อย กับกรณีการต่อสัญญาของเหล่าเมมเบอร์ BLACKPINK ที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ‘โรเซ่’ เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวง ที่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่าง YG Entertainment

ล่าสุด สื่อเกาหลี News1 ได้รายงานว่า ‘เจนนี่’ และ ‘จีซู’ เตรียมก่อตั้งค่ายของตัวเอง และรายงานด้วยว่า ขณะนี้เมมเบอร์ BLACKPINK ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ YG Entertainment เรื่องการดำเนินกิจกรรมของพวกเธอในฐานะวง ขณะที่ต้นสังกัดส่วนตัวของเธอนั้น จะดูแลในส่วนของกิจกรรมเดี่ยวของพวกเธอ

หลังรายงานข่าวดังกล่าว YG Entertainment ได้ออกมาตอบประเด็นดังกล่าวว่า “ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ BLACKPINK และกิจกรรมในอนาคตของพวกเธอ”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่าขณะที่ ‘ลิซ่า’ เดินทางไปกรุงปารีส กลับไร้เงาการ์ดคอยดูแลในสนามบินกรุงโซล เกาหลีใต้ ส่วนเมเนเจอร์เพียงเดินทางมาส่งที่สนามบินเท่านั้น ไม่ได้บินลัดฟ้าไปปารีสด้วยกันแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้จะเป็นการตอกย้ำข่าวลือเรื่องไม่ต่อสัญญาหรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องเฝ้าจับตากันต่อไป…


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top