Thursday, 15 May 2025
NEWSFEED

‘แอนนี่ บรู๊ค’ เผยจังหวะประทับใจระหว่างแม่กับลูก หลัง ‘น้องฑีฆายุ’ ขอบคุณที่ให้ถามทุกครั้งที่ลงรูป

(8 ต.ค. 67) ‘แอนนี่ บรู๊ค’ หรือ ‘รุ่งนภา แก้วไทรหาญ’ นักแสดง นักร้อง นางแบบลูกครึ่งไทย-สวิสเซอร์แลนด์ ได้เผยแพร่ความประทับใจที่มีต่อ ‘น้องฑีฆายุ’ ลูกชายผ่านทางเฟซบุ๊กว่า 

ผมขอบคุณแม่ที่ให้เกียรติผมถามผมทุกครั้งในการลงรูปของผม แม่เลิกถ่ายรูปเลิกถ่ายวิดีโอที่ผมไม่สะดวกใจเพื่อเอาไปลงสาธารณะหรือทำ content ผมรู้สึกตัวเองมีค่ามาก ขอบคุณอิสระที่แม่มอบให้ผม

ผมดู YouTube ช่องนึงตั้งแต่ผมเล็กๆอายุเท่าเขาจนวันนี้เด็กคนนั้นก็โตแล้วอายุเท่าผม ผมเห็นสายตาเขาแล้วผมเชื่อว่าเขาอยากออกจาก content ของพ่อแม่มากแต่ทำไม่ได้  
ขอบคุณนะครับแม่ .....

เมื่อคืนเขาน่าจะคิดอะไรของเขาเขาก็เลยมาพูดกับเราแบบนี้เราก็ตอบยินดีเพราะเราเข้าใจ เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตแล้วเราก็ต้องคุยกัน ไม่ใช้อำนาจความเป็นพ่อแม่ทำอะไรตามใจเรา 

เพราะเชื่อเสมอทุกอย่างเราคุยกับลูกได้

‘ปราชญ์ สามสี’ วิเคราะห์ Gen Z ชี้มั่นใจในตัวเองจนล้นเกิน ไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริง ขาดภูมิคุ้มกันรับมือกับความล้มเหลว

(6 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘ปราชญ์ สามสี’ ได้ทำการวิเคราะห์ลักษณะนิสัย และแนวทางการใช้ชีวิตของ Gen Z ว่า 

Gen Z: The Lost Generation

ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน Gen Z เติบโตขึ้นมาเป็นเจเนอเรชันที่เชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และมีความสามารถในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาหลงทางในโลกแห่งความเป็นจริง

Gen Z มักถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง แต่บางครั้งความเชื่อมั่นนี้ก็กลายเป็นดาบสองคม พวกเขาเห็นความสามารถของตัวเองเหมือนมองในกระจก มองเห็นความเป็นตัวตนที่สะท้อนกลับมาหาตนเอง แต่ละเลยความจริงที่โลกภายนอกนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อนและอุปสรรค เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การขาดการเตรียมพร้อมในการเผชิญหน้ากับความล้มเหลวนี้ทำให้พวกเขาดูเหมือนไม่มีมาตรการรับมืออย่างเพียงพอ

ในบทความนี้ เราจะสำรวจลึกลงไปในพฤติกรรมและลักษณะเฉพาะของ Gen Z เพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเขาเป็น "เจนที่ล้มเหลว" จริงหรือเป็นเพียงกลุ่มคนที่ยังต้องการเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับโลกใบใหม่นี้ ที่ไม่ได้ง่ายเหมือนที่พวกเขาเคยเชื่อ

>>>ลักษณะเฉพาะของเด็ก Gen Z ที่สะท้อนแนวคิดและวิถีชีวิต

1. ปฏิเสธการวัดผลด้วยเกรด
เด็ก Gen Z ไม่ต้องการระบบการวัดผลด้วยเกรด พวกเขาเชื่อว่าการเรียนรู้ควรเน้นไปที่การพัฒนาทักษะ ความรู้ และความเข้าใจมากกว่าการประเมินผลด้วยตัวเลขหรือการแบ่งแยกด้วยเกรด

แม้จะมีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการกดดัน แต่การปฏิเสธการวัดผลอาจทำให้ขาดเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินความสามารถ ทำให้ยากต่อการพัฒนาตนเองหรือการเตรียมตัวสำหรับการทำงานในโลกความเป็นจริง ที่ยังคงใช้การประเมินผลงานเป็นตัววัดความสามารถ

2. เรียนเฉพาะสิ่งที่ตนเองสนใจ
พวกเขามักเลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่ตรงกับความสนใจของตนเอง และหลีกเลี่ยงการเรียนในวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในชีวิตของพวกเขา การเรียนรู้แบบนี้ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาความรู้ในด้านที่ตนถนัด

อย่างไรก็ตาม การมุ่งเรียนเฉพาะสิ่งที่สนใจอาจจำกัดความรู้รอบด้าน ทำให้ขาดทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวันหรือในสายงานที่ไม่ได้ตรงกับความชอบทั้งหมด นอกจากนี้ยังทำให้พวกเขาอาจขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องการความรู้ที่หลากหลาย

3. ไม่ชอบการแข่งขันและเน้นความเท่าเทียม
Gen Z ไม่ชอบการแข่งขันที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ พวกเขาเน้นให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันวิ่งมาราธอน พวกเขาต้องการให้ทุกคนได้รับเหรียญรางวัลไม่ว่าจะเข้าเส้นชัยที่อันดับใดก็ตาม

การไม่ชอบการแข่งขันอาจลดทอนแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง เพราะการไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะอาจทำให้ผู้คนขาดความทะเยอทะยานและการฝึกความอดทนเมื่อเผชิญกับความล้มเหลว นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การลดทอนคุณค่าของความสำเร็จที่แท้จริง

4. สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ
เด็ก Gen Z เชื่อมั่นในความเท่าเทียมทางเพศ และเรียกร้องให้ทุกเพศมีสิทธิ์และเสรีภาพในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตของตนเอง พวกเขาเห็นความสำคัญของการมีห้องน้ำแยกตามเพศทางเลือก เพื่อให้ทุกเพศมีความสะดวกและสบายใจในการใช้ชีวิต

แม้การสนับสนุนความเท่าเทียมเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเน้นย้ำมากเกินไปในบางกรณีอาจสร้างความซับซ้อนและปัญหาในการจัดการกับความหลากหลายที่มากเกินความจำเป็นในสังคม เช่นงานเอกสารเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลประชากรเกิดความซับซ้อน

5. ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองแม้ว่ามันจะไร้สาระแค่ไหนก็ตาม
เด็ก Gen Z มองว่าทุกการกระทำมีเหตุผลเบื้องหลังเสมอ และไม่มีการกระทำใดที่ถือว่าผิดหากสามารถอธิบายเหตุผลได้ แม้ว่าเหตุผลนั้นอาจไม่ตรงกับค่านิยมหลักของสังคมก็ตาม พวกเขาเชื่อในความหลากหลายทางความคิดและให้ความสำคัญกับการเข้าใจมุมมองของผู้อื่นมากกว่าการตัดสินแบบเด็ดขาด

การที่เด็ก Gen Z เชื่อว่าทุกการกระทำมีเหตุผลที่อธิบายได้ อาจทำให้พวกเขาหลุดจากการรับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาอาจใช้เหตุผลเพื่อแก้ตัวหรือหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ขาดการเรียนรู้จากความผิดพลาดและการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น

6.Gen Z มักไม่นิยมการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใหญ่ โดยเชื่อถือในภูมิปัญญาหรือประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนเป็นข้อมูลตกสมัย

เนื่องด้วยเด็ก Gen Z เกิดมาในยุคที่เรามีเทคโนโลยีข้อมูลสนับสนุนต่างๆเข้าถึงง่าย และ พวกเขาจึงชื่นชอบการหาข้อมูลด้วยตัวเอง ซึ่งแสดงถึงความเป็นอิสระและความเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตนเอง

อย่างไรก็ตามการไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำจากผู้ใหญ่ อาจทำให้พวกเขาพลาดโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่ไม่สามารถหาได้จากการค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว เพราะอินเตอร์เน็ตไม่ได้มีข้อมูลที่รอบด้านเท่าประสบการณ์ของผู้ใหญ่

จากการศึกษาพฤติกรรมทั้งด้านข้อดีและข้อเสียของ Gen Z จะเห็นได้ว่ามีลักษณะเฉพาะที่ทำให้พวกเขาอาจไม่สามารถทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในลักษณะเฉพาะนั้นคือการมองเห็นตัวเองผ่านกระจกเสมือนว่าโลกภายนอกสะท้อนแต่ความสามารถของตนเอง พวกเขามักให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นในตัวเองและข้อมูลที่ตนเองหามาได้ มากกว่าการรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำจากผู้อื่น

การมองโลกผ่านมุมมองที่สะท้อนความสำเร็จของตัวเองทำให้พวกเขาอาจมองข้ามความเป็นจริงของโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความยากลำบาก เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความล้มเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พวกเขาอาจขาดการเตรียมตัวหรือมาตรการรองรับการล้มเหลวนั้น เพราะพวกเขาไม่เคยเรียนรู้จากคำเตือนหรือประสบการณ์ของผู้อื่นมาก่อน

ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเผชิญความจริงของโลก ความล้มเหลวอาจเป็นบทเรียนที่ยากลำบาก และหากพวกเขาไม่มีการเตรียมความพร้อมหรือแผนรองรับความล้มเหลวนี้ อาจทำให้เกิดความสับสนและขาดการปรับตัวในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

>>>สภาพการเรียนรู้ของเด็ก Gen Z และผลกระทบต่อการจ้างงานอย่างไร?
การที่พฤติกรรมของ เด็ก Gen Z ที่มักซึมซับเฉพาะสิ่งที่ตนเองสนใจและละเลยสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสนใจ ส่งผลให้พวกเขามีลักษณะการเรียนรู้ที่ขาดๆ เกินๆ ซึ่งสร้างข้อจำกัดต่อความสามารถในการทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง แม้ว่าพวกเขาอาจมีความเชี่ยวชาญในบางด้านอย่างลึกซึ้ง แต่กลับขาดความรู้รอบด้าน ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ และการประยุกต์ใช้ความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานเป็นทีม

นอกจากนี้ การขาดทักษะในการสื่อสารกับกลุ่มที่มีความคิดและความสนใจต่างกัน และการขาดความอดทนต่อการเผชิญกับความท้าทาย ทำให้พวกเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ความเป็นจริงแล้วโลกใบนี้มันอยู่ยากกว่าที่คิด เด็ก GenZ จะเอาตัวไม่รอดท่ามกลางการแข่งขันที่สูง จะไม่สามารถทนได้กับความผิดหวัง จะจะอยู่ได้ยากในสภาพสังคมโลกที่เผชิญกับภัยพิบัติต่างๆที่ไม่สามารถคาดคะเนได้

ด้วยเหตุนี้ สภาพการเรียนรู้ที่ไม่สมดุลและขาดการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกด้านของ Gen Z จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาไม่ได้รับการจ้างงานมากเท่าที่ควรในตลาดแรงงานปัจจุบัน ซึ่งต้องการบุคลากรที่มีความยืดหยุ่น มีทักษะการทำงานร่วมกัน และสามารถเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

>>>แล้วคน Gen Zจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z คือการมีความเป็นตัวเองสูง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ส่งผลต่อการเลือกอาชีพและการดำเนินชีวิต พวกเขาเน้นไปที่การทำสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสายงานศิลปะ การออกแบบ หรืออาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำ ซึ่งอาชีพที่เหมาะสมสำหรับพวกเขาจึงมักจะเป็นอาชีพที่สามารถเน้นความสนใจเฉพาะตัว เช่น การเป็นผู้ประกอบการ นักออกแบบ หรือทำการตลาดออนไลน์ โดยสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่สะท้อนตัวตนของพวกเขาเอง

การที่พวกเขามีอิสระในการตัดสินใจและสร้างสิ่งใหม่ๆ ตามความสนใจของตัวเอง ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านค้าหรือสร้างธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง พวกเขาก็สามารถลงมือทำได้โดยไม่ต้องรอคำแนะนำจากคนอื่น หากล้มก็ล้มด้วยตัวเอง แต่ด้วยความที่ขาดประสบการณ์และการวางแผนในระยะยาว โอกาสที่จะเสี่ยงล้มเหลวก็สูงตามไปด้วย เพราะพวกเขามักไม่ค่อยยอมรับฟังคำแนะนำจากผู้ใหญ่หรือผู้มีประสบการณ์มาก่อน

ดังนั้น แม้ว่าความเป็นตัวเองจะทำให้เด็กในกลุ่มนี้มีความคิดสร้างสรรค์และกล้าลงมือทำ แต่การขาดประสบการณ์และการเตรียมตัวรับมือกับความล้มเหลวอาจทำให้เส้นทางการเติบโตของพวกเขามีความเสี่ยงมากขึ้น การหาจุดสมดุลระหว่างความเป็นตัวเองกับการรับฟังคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์จะเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงในอนาคต

'ก๊อต จิรายุ' จอดรถช่วยแมวตัวจิ๋วกลางถนน ก่อนอุ้มกลับบ้าน – คาดตกเป็นทาสแมวเรียบร้อย

(5 ต.ค.67) เป็นคลิปที่ใครเห็นแล้วก็ต้องใจฟูไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะคนรักแมว เมื่อนักแสดงดัง 'ก๊อต จิรายุ ตันตระกู,' ได้โพสต์คลิปที่เจ้าตัวช่วยเหลือ 'แมวจร' กลางถนน ก่อนจะพากลับบ้านป้อนอาหาร – อาบน้ำ และเลี้ยงดูอย่างดี 

โดย 'ก๊อต จิรายุ'ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุแคปชัน "เป็นคนเฉยๆกับแมว จนกระทั่ง…" ทำเอาชาวเน็ตแห่เข้าไปคอมเมนต์สนั่น คาดว่าตอนนี้ 'ก๊อต จิรายุ' ได้ตกเป็นทาสแมวเต็มตัวเรียบร้อย

Molly Tea ชานมมะลิสัญชาติจีนบุกตลาดไทย ดึง ‘ปอร์เช่-ชาช่า’ 2 ศิลปินดัง ร่วมฉลองเปิดสาขาแรกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

(3 ต.ค.67) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Molly Tea แบรนด์เครื่องดื่มชานมมะลิสัญชาติจีน พรีเมียม ต้นกำเนิดจากเมืองเซินเจิ้น ที่มีกว่า 800 สาขาทั่วโลก โดยสาขาแรกที่ไทย ได้บุกใจกลางสยามอย่าง เซ็นเตอร์พอยท์สยามสแควร์ชั้น 1

สำหรับ Molly Tea สาขาแรก ได้เปิดให้ทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ชานม มะลิที่มากับเอกลักษณ์แบรนด์สีชมพูสุดคิวท์ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

ขณะที่ภายในงานมี 'ปอร์เช่ ธนธรณ์ เจริญรัตนพร' หนุ่มหล่อนักแสดงนำจากซีรีส์ MY STAND-IN ตัวนาย ตัวแทน และ 'ชาช่า กนกรักษ์งาม ลิขิตเลิศ' เด็กฝึกตัวเต็ง 30 คนสุดท้าย จากรายการ CHUANGASIA THAILAND 2024 มาร่วมโชว์การแสดงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมลิ้ม รสชาติเครื่องดื่มสุดพิเศษ อีกทั้งยังมีสื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมากมายมาร่วมสัมผัส ประสบการณ์ ชานมมะลิพรีเมียม ที่ Molly Tea สาขาแรก ในไทย อีกด้วย

สำหรับจุดเด่นและความพิเศษของ Molly Tea ที่ไม่เหมือนใคร คือ ความหอมของกลิ่นมะลิที่ส่งตรงมาจากจีนแบบพรีเมียม พร้อมส่งมอบความสดชื่นตลอดการดื่มด่ำ ไปกับรสชาติแบบต้นตำรับ มากไปกว่านั้นยังมีเมนูคริสปี้ครีม เพิ่มความคลาสสิกได้อย่างลงตัว

‘สาวนิวยอร์ก’ นั่งเครื่องครึ่งโลกมาไทยกว่า 18 ชม. เพียงเพื่อให้ได้พบ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระสุดน่ารัก

'หมูเด้ง' ฟีเวอร์ของแท้ ‘มอลลี สวินดัลล์’ สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ อดทนนั่งเครื่องบินจากนิวยอร์กมาไทยกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อมาหา 'หมูเด้ง' แถมซื้อของที่ระลึกเสื้อผ้าหมูเด้งไปใส่ด้วย

กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล เมื่อ 'มอลลี สวินดัลล์' สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เดินทางไกลกว่า 12,800 กิโลเมตร หรือมากกว่า 18 ชั่วโมง มายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดและบ้านของหมูเด้ง ฮิปโปแคระสุดน่ารักที่กำลังขโมยหัวใจของคนทั่วโลก

สำหรับ สวินดัลล์ เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่โด่งดังมาจากการเผยคลิปวิดีโอในฐานะแฟนคลับตัวยงของเทเลอร์ สวิฟต์ โดยได้ระบุในช่องติ๊กต็อกของเธอว่า เธอตัดสินใจบินจากนิวยอร์กไปกรุงเทพฯ ในนาทีสุดท้ายเพื่อพบกับหมูเด้ง "ดิว่าสาวในตำนานอย่างหมูเด้ง ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบเธอ"

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

✨ประจำวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

🟢 รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 718665

🔴 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 รางวัลละ 100,000 บาท : 718664718666

🔴 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 053 812

🔴 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 079 566

🔴 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 59

🔴 รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 618304 706570 920212 619457 803186

🔴 รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 

079513 899161 028929 015089 576883
848720 332583 827661 936769 807587

🔴 รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท : 

447798 379538 070465 143828 565201
100523 730422 654733 350914 968249
715944 974039 073792 306489 394717
823339 371560 229354 549734 544300
791315 612189 588560 705120 156039
079288 961797 325692 235485 068766
549143 585487 214339 656278 849778
795687 166685 827766 448648 415631
579404 331211 522846 952454 001650
430370 406839 483088 392399 791536

🔴 รางวัลที่ 5 รางวัลละ 20,000 บาท

280422 036283 754306 886771 443091
526698 221366 985280 458809 028519
122019 971141 566721 487641 142265
265401 611367 803474 222108 176036
974833 082021 409813 743601 505928
634524 982865 749235 815227 090743
930041 445026 385388 331823 432285
924197 280547 749834 929691 271493
519617 316668 867435 581639 738631
238694 145004 815448 369105 237296
529047 123489 647932 264184 674505
779485 954373 098621 759723 729975
499637 237865 564652 380962 699053
817965 183407 930997 312076 609336
094704 868444 171250 187093 445974
041466 761270 977415 086635 628125
072238 713107 111308 400188 495788
629558 714202 041220 737191 749137
269228 562878 822973 224689 705352
330818 520432 447142 511989 342384

'สัปเหร่อ' สุดฮอต!! กวาด 7 รางวัลสุพรรณหงส์ ด้าน 'ต้องเต' วอนรัฐสนับสนุนหนังไทยจริงจัง

(30 ก.ย. 67) เรียกได้ว่าเป็นปีทองอย่างมาก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ ที่กวาดรางวัลสุพรรณหงส์ไปได้ถึง 7 รางวัล ซึ่งได้แก่ รางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดประจำปี 2566

โดย ‘ต้องเต ธิติ’ ผู้กำกับ ‘สัปเหร่อ’ โพสต์ร่ายยาวขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องและฝากรัฐบาลสนับสนุนหนังไทยอย่างใจจริงต่อไป

รางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 32
หนังเรื่องสัปเหร่อได้รับรางวัลในครั้งนี้ทั้งหมด 7 รางวัล ได้แก่

รางวัลสุพรรณหงส์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ
รางวัลสุพรรณหงส์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติ ศรีนวล จาก สัปเหร่อ
รางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ ชาติชาย ชินศรี จาก สัปเหร่อ
รางวัลสุพรรณหงส์ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ
รางวัลภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดประจำปี 2566 ได้แก่ สัปเหร่อ
รางวัลสุพรรณหงส์ เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลงยื้อ - ปรีชา ปัดภัย จาก สัปเหร่อ
รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ

ขอบคุณทีมงานทุก ๆ คนมาก ๆ ๆ นะครับทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง และขอบคุณไทบ้าน สตูดิโอ ขอบคุณเฮียโต้ง พี่ปัน พี่เอก พี่สัก พี่จ็อบ พี่กัส พี่โอม พี่แจ้ พี่นิค ขอบคุณอ้ายก้องเอื้อยเบล และพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่มีส่วนร่วมทุก ๆ คนนะครับ ขอบคุณครอบครัวของผมนำเด้อครับ ขอบคุณเพื่อนแก๊งเซียนหรั่งด้วยนะครับ

และที่ขาดไม่ได้เลย คือขอบคุณคนดูทุกท่านและพ่อแม่พี่น้องชาวอีสานนำเด้อครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ผมที่ทำหนังอีสานมาด้วยกัน ผมฝากเป็นกำลังใจให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยนะครับ ผมเป็นแค่มนุษย์คนนึ่งหรือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งนะครับ ผมได้มีโอกาสในการพูดครั้งนี้และขอฝากบอกรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ ส่งเสริม ช่วยเหลือ แก้ไข ผลักดัน และซัปพอร์ตพวกเราจริง ๆ หน่อยนะครับ ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ นะครับ

ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่คอยซัปพอร์ตหนังอีสานจากค่ายเล็ก ๆ นะครับ รางวัลนี้คงเป็นแรงผลักดันและ แรงขับเคลื่อนหัวใจด้วยความสุขในการพัฒนาเรียนรู้แก้ไขเข้าใจและทุ่มเทที่จะทำผลงานต่อ ๆ ไปของพวกเรา และขอให้รางวัลนี้เป็นกำลังใจให้วงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยทุก ๆ ท่านนะครับ ฝากสนับสนุนหนังไทยด้วยนะครับ

ฝากหนังเรื่องต่อไปของผมด้วยนะครับ สัปเหร่อ 2
ฝากไทบ้านและสถุนโปรดักชั่นไว้ด้วยนะครับ
ขอบพระคุณจากใจทุก ๆ ท่านจริง ๆ นะครับ

#สุพรรณหงส์ครั้งที่32

'ลิซ่า' เข้าชิงรางวัล ‘ผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2024’ คะแนนสูสีตัวแม่ 'เทย์เลอร์ สวิฟต์' ปิดโหวต 30 ก.ย.นี้

(29 ก.ย. 67) เรียกเสียงฮือฮาทั่วโลก หลัง 'Influencer Magazine UK' นิตยสารสัญชาติอังกฤษ เปิดเผยผู้เข้าชิงรางวัล IMA 2024 สาขา 'ผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2024' (Influencer of the Year) ซึ่งรวบรวมผู้ทรงอิทธิพลทั่วทุกมุมโลก ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในรอบปี

ทั้งนี้พบว่า 'ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล' หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลสาวสายเลือดไทย ผู้ที่เคยได้รับตำแหน่ง Beauty Mogul of the Year หรือ ผู้ที่งดงามทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี 2023 มีรายชื่อติดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในปีนี้ด้วย...

ตามมาด้วยติด ๆ ด้วยเหล่าตัวแม่ ตัวพ่อ อย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift), จิมมี โดนัลด์สัน (MrBeast), ไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner), เซลีนา โกเมซ (Selena Gomez) และ บิลลี่ ไอลิช (Billie Eilish Among)

อย่างไรก็ดี การคัดเลือกในครั้งนี้ มีการเปิดให้โหวต ทั้งจากประชาชนทั่วไป หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ

โดยมีการเปิดโหวตให้แฟน ๆ ร่วมตัดสินผ่านเว็บไซต์ ได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 23.59 น. นี้

สำหรับกติกา วิธีการโหวตดังนี้
1. กรอกชื่อ-สกุล
2. กรอกอีเมล โดย 1 อีเมล โหวตได้ 1 ครั้งต่อวัน
3.ประเทศที่อยู่ ผ่านเว็บไซต์ https://influencermagazine.uk/influencer-of-the-year-ima-2024/
4.กดโหวต ด้วยการคลิกภาพศิลปินที่ชื่นชอบ

'แพท-ณปภา ตันตระกูล' ประกาศกลางรายการ 'แชร์ข่าว สาวสตรอง' เมื่อวันที่ 27 ก.ย.67

กลายเป็นไวรัลในโซเชียลประจำสัปดาห์นี้ กับประโยคที่ว่า… “ถ้าทำผิด ให้จับส่งตำรวจ อย่าพาไปหา หนุ่ม กรรชัย ไม่ไปออกรายการโหนกระแส”

ล่าสุด สาวสุดสตรองอย่าง 'แพท ณปภา ตันตระกูล' ก็เอาด้วย ประกาศกลางรายการแชร์ข่าวสาวสตรอง… "ถ้าวันนึงแพททำอะไรผิดนะ ถ้าวันนึงแพทมีเรื่องอะไร หรือทำอะไรผิดแจ้งตำรวจจับ จับกูไปเลย อย่าเอาไปหาพี่หนุ่ม อย่าเอาไปโหนกระแส อย่าเอาไปหาพี่หนุ่ม ถ้าแพททำผิดเรียกตำรวจเอากุญแจมือใส่เลย พาไปเข้าคุกแต่อย่าเอาไปหาพี่หนุ่ม อย่าเอายัยแพทไปออกโหนกระแส พาไปหาตำรวจ ล็อกกุญแจ พาไปลงบันทึกประจำวันเลย"

ทำเอา 'ปิงปอง ธงชัย ทองกันธม' อีกหนึ่งพิธีกรรายการเสริมว่า… “ถ้ารู้ว่าผิดไปหาตำรวจ ถ้าไปพี่หนุ่มนะ โดนขุดหมดรูปก่อนทำศัลยกรรม เคยไปทำอะไร เละ”

ด้านพี่ใหญ่อย่าง 'แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ' ก็เสริมว่า… “จะโดนพิพากษาหนักกว่าเดิม” ทำเอา ปิงปอง โอดครวญว่า ”ถึงจะหายจากการทำความผิดมาแล้ว ที่โดนขุดไม่คุ้มกันเลย“ แพท ก็อธิบายต่อว่า "พี่หนุ่มอยากทำให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจ" ก่อนจะเข้าข่าวเรื่องทอง ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนของสังคม ณ ตอนนี้

'ผู้จัดแอน' แจง!! 'โลกหมุนรอบเธอ' โดนถล่มบทป่วย เพราะตั้งใจให้ตัวละครเป็นสีเทา หวัง!! สะท้อนการเติบโต-เรียนรู้ของคนในแต่ละช่วงวัย ที่มักเปลี่ยนไปตามเวลา

(26 ก.ย. 67) หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับละครช่องดัง 'โลกหมุนรอบเธอ' ของผู้จัดคนดัง 'แอน ทองประสม' ซึ่งเป็นละครแนว Coming of age การเรียนรู้ชีวิตและก้าวผ่านวัย บนเส้นทางความรัก มิตรภาพ และการเติบโต โดยฉากที่ดรามาหนักใน EP.18 เป็นฉากที่นางเอก 'ตะวัน' รับบทโดย 'โบว์ เมลดา' ที่มีสามีแล้ว เป็นชู้กับพระเอก 'มานะ' รับบทโดย 'เจมส์ จิรายุ' ซึ่งชาวโซเชียลระบุถึงความไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งตัวพระ-นางยังทำผิดศีลธรรมรวมไปถึงวิจารณ์ถึงความไม่สมเหตุสมผลของบทละครหลาย ๆ จุด

ซึ่งทางด้านผู้จัดละครอย่าง 'แอน ทองประสม' ได้ออกมาเปิดเผยครั้งแรกในงานแถลงข่าวละครเรื่องใหม่ 'หนึ่งในร้อย' ว่าในฐานะผู้จัดก็มีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ จัดการยังไง ก็อย่างที่บอกว่าบางทีเราคาดการณ์ก่อนด้วยว่า เราตั้งใจอยากไปเวย์นี้ ถ้าไปอย่างนี้คนดูน่าจะรับได้ น่าจะเข้าใจ เราก็ต้องคิดในเวย์นี้ก่อน แต่พอทำออกมามันจะมีก้อนบางก้อนที่รับได้มาก ๆ บางจุดรับไม่ได้ มันก็เป็นการเรียนรู้ ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลก็จับความคิดเขามาและได้เรียนรู้ว่าต่อไปทำชิ้นงานอะไรจะได้ปรับ แต่ถ้าอันไหนดีอยู่แล้ว แสดงว่าการตัดสินใจของเราเฉียบคมแล้ว แอนก็เอามาประเมินตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะแอนไม่ได้ทำละครให้ตัวเองดูคนเดียว เราก็ต้องฟังความคิดเห็นที่มีเหตุผล แอนก็เอามาใช้ปรับตัวเองไปค่ะ

>>แสดงว่าเราก็ยอมรับทุกคอมเมนต์ที่แนะนำ?

คือจะมีคอมเมนต์ที่เขาให้มุมมองที่ชอบเพราะอะไร อันนี้ก็เป็นคอมเมนต์บวก เราก็เก็บไว้ เราถือว่าอันนี้เราได้แล้ว แต่ถ้าคอมเมนต์ไม่ชอบเลยเพราะเหตุนี้ ๆ เราเข้าใจว่าเขาสงสัยอะไร แต่ถ้าคอมเมนต์ลักษณะโจมตี เกลียดชัง อันนี้แอนจะถือว่าเราไม่สามารถไปควบคุมตรงนั้นได้ ก็ต้องละไว้ ถามว่ามีมั้ยที่รู้สึกว่าทำไม ก็ต้องมีบ้าง คนเรามี on off อยู่แล้ว บางทีเราเหมือนว่าเราโดนผลักออกไปแล้วมีเซ แล้วเราก็ต้องกลับมายืนให้ได้ ชีวิตต้องไปต่อ

>>พอเป็นแอน ทองประสม คนก็คาดหวังมาก?

แอนว่าเขาคาดหวังกับทุกคนนะคะ แต่ของแอนอาจจะโดนเล่นข่าวเยอะหน่อย ก็ไม่แปลก เพราะแอนเป็นนักแสดงด้วย แอนเข้าใจบริบทตรงนี้มาก ๆ

>>ที่ผ่านมาโดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะเรื่องบทละคร ‘โลกหมุนรอบเธอ’?

อ๋อ ใช่ จริง ๆ โลกหมุนรอบเธอคือด้วยความตั้งใจโจทย์แรกของทางทีมเราคือเราต้องการนำเสนอตัวละครที่เป็นสีเทา ตัวละครที่มีการเติบโต เรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย เช่น เราเป็นเด็ก เราคิดได้เท่านี้ พออีกช่วงวัยหนึ่งเราเติบโต เราเรียนรู้ไปอีกแบบนึง การคิดในแบบวันนั้นมันไม่ใช่แล้ว มันส่งผลลัพธ์อะไรในตอนที่เราโตขึ้น ตัวละครมีความหมุนเวียนเป็นมนุษย์ปกติ แต่พอออกมาบางทีบางการตัดสินใจของตัวละครคนก็จะคิดว่าไม่อยากให้ตัดสินใจแบบนี้ ก็จะไม่ถูกใจเขา เราก็เข้าใจตรงนี้ได้ ถ้าเขาถามและเปิดโอกาสให้เราอธิบาย เราก็จะอธิบายไปว่าเพราะอะไรเขาถึงทำแบบนี้

>>เราคาดการณ์ไหมว่ากระแสสังคมจะตีกลับมาแบบนี้?

แอนคิดว่าเขาคงมีถาม แต่เราไม่ได้คิดถึงความรุนแรงว่าเป็นเบอร์ไหน เราไม่ได้คิดว่าความรุนแรงเบอร์ 10 เรารู้แล้วว่าอาจจะต้องมีสงสัย มีคำถามแน่นอน (พี่แอนบอกแต่วันแรกแล้วว่าตัวละครเป็นสีเทา?) ใช่ค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าบางคนอาจจะบอกว่าไม่อยากเห็นคนนี้ตัดสินใจแบบนี้ เข้าใจสุดๆ เลย เพราะว่าเราก็รู้ว่าเขารักของเขา

>>หลายคนบอกว่าอยากให้พระเอกนางเอกเป็นสีขาว ทำถูกต้อง?

ก็ถ้าเราจะทำละครเรื่องต่อไป แอนก็ต้องหาละครที่เป็นเฉดนี้ที่เป็นไปในทางนั้นเลย ก็จะชัดเจนไปเลย ไม่ต้องนำเสนอแบบเทาแค่นั้นเองค่ะ เพราะว่าอันนี้ทำแล้ว มันไปแบบของมันแล้ว ให้มันไปจนจบตรงนั้นไป

>>อยากบอกอะไรกับคนดู ?

อย่างที่บอกว่าแอนเข้าใจและเคารพทุกความคิดเห็นที่เขามีเจตนาที่ดีในการจะฟีดแบ็ก แอนก็จะได้เรียนรู้และจดจำว่าทิศทางแบบนี้เขาอาจจะไม่ค่อยปลื้ม เราในฐานะคนทำก็ต้องการคนดูอยู่แล้ว เราก็ก็จะเอาไว้ปรับตัวเองว่าต่อไปเรานำเสนอก็เลือกเวย์นี้ อาจจะเซฟกว่า วันนึงเราอยากจะทำละครที่เป็นมุมที่ไม่เซฟอีก เราก็ทำการบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง ณ เวลานั้นเดี๋ยวมันจะบอกเราเองว่าเราต้องเตรียมตัวยังไง แต่ว่าเราต้องให้เกียรติ ให้พื้นที่กับคนที่เขาชอบด้วย อันนี้เราก็ต้องขอบคุณที่หลายคนยังเข้าใจทิศทาง แต่สำหรับคนที่มีคำถาม แอนก็ได้แต่ค่อย ๆ ย่อยสิ่งที่เขาฟีดแบ็กมาแล้วจดจำไว้ อันไหนปรับได้เราปรับ อันไหนที่เรารู้สึกว่าเป็นกำลังใจแล้วไปต่อแอนก็ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันร้อยเปอร์เซ็นต์ นักแสดงทุกคนใช้หัวใจเล่นอย่างเต็มที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top