Sunday, 8 June 2025
INFO & TOON

States TOON EP.116

เจ้าของร่วม!!

กระทรวง อว. ปลดล็อกอีก 2 หลักสูตรแซนด์บ็อก พร้อมผลิต วิศวกรคอมพิวเตอร์ & บุคลากรธุรกิจการบิน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ

เมื่อปี 2565 เราได้รับข่าวดีคณะทำงานในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง ด้านการส่งเสริมนวัตกรรมการอุดมศึกษา ได้อนุมัติ 4 หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ ตอบสนองการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher Education Sandbox) ซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของการจัดการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานเดิม เพื่อจัดการศึกษารูปแบบใหม่ สร้างนวัตกรรมการอุดมศึกษา มุ่งเน้นผลิตคนให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคการผลิต (Demand Driven) และเท่าทันความต้องการของประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ โดยทั้ง 4 หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ นั้น คือ

1.) หลักสูตรการผลิตและพัฒนากำลังคนสาขาฉุกเฉินการแพทย์
นำโดยวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยอีก 6 แห่ง และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สถาบันพระบรมราชชนก ตั้งเป้าผลิตกำลังคนสาขาฉุกเฉินการแพทย์ ระดับผู้ประกอบโรคศิลปะ จำนวน 15,000 คน ภายใน 10 ปี

2.) หลักสูตรการผลิตบุคลากร High-tech Entrepreneur
นำโดย International School of Management (ISM) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ Harbour.Space University ประเทศสเปน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (Thaichamber) และบริษัทต่างๆ ตั้งเป้าผลิตกำลังคนที่มีความรู้ขั้นแนวหน้า (frontier knowledge) ด้านเทคโนโลยี จำนวน 400 คน ภายใน 7 ปี

3.) หลักสูตรการผลิตบุคลากรด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัล
นำโดยมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยอีก 6 แห่ง ตั้งเป้าผลิตบุคลากรด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัล 1,880 คน ภายใน 8 ปี

4.) หลักสูตรการผลิตกําลังคนศักยภาพสูงที่มีความรู้เชิงลึกด้านวิทยาศาสตร์และแนวคิดเชิงนวัตกรรม
นำโดยวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชวิทย์) สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และสถาบันอุดมศึกษา ตั้งเป้าผลิตกําลังคนทักษะสูงที่มีความรู้เชิงลึกด้านวิทยาศาสตร์ และแนวคิดเชิงนวัตกรรม 175 คน ภายใน 9 ปี โดยรวมแล้วจะสร้างบุคลากรที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในด้านต่างๆ ได้ทั้งสิ้นกว่า 17,455 คน

จนกระทั่ง ล่าสุดในปี 2566 นี้ กระทรวง อว.ปลดล็อกอีก 2 หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่

5.) หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งเป้าผลิตกำลังคนในกลุ่มวิศวกรคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล 1,200 คน

6.) หลักสูตรการจัดการบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการบินนานาชาติ โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก เพิ่มการผลิตกำลังคนในกลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

ไทยเนื้อหอม!! 5 อันดับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด (ม.ค. 66)

1. ญี่ปุ่น 14 ราย (ร้อยละ 27) เงินลงทุน 3,588 ล้านบาท
2. สิงคโปร์ 6 ราย (ร้อยละ 12) เงินลงทุน 410 ล้านบาท
3. สหรัฐอเมริกา 6 ราย (ร้อยละ 12) เงินลงทุน 9 ล้านบาท
4. สหราชอาณาจักร 5 ราย (ร้อยละ 10) เงินลงทุน 98 ล้านบาท
5. จีน 3 ราย (ร้อยละ 6) เงินลงทุน 548 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เดือนมกราคม ปี 2566 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 52 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 30 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,129 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 298 คน

1. ญี่ปุ่น 14 ราย (ร้อยละ 27) เงินลงทุน 3,588 ล้านบาท
2. สิงคโปร์ 6 ราย (ร้อยละ 12) เงินลงทุน 410 ล้านบาท
3. สหรัฐอเมริกา 6 ราย (ร้อยละ 12) เงินลงทุน 9 ล้านบาท
4. สหราชอาณาจักร 5 ราย (ร้อยละ 10) เงินลงทุน 98 ล้านบาท
5. จีน 3 ราย (ร้อยละ 6) เงินลงทุน 548 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เดือนมกราคม ปี 2566 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 52 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 30 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,129 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 298 คน

‘คนไทย’ เกินครึ่ง เชื่อ!! ลุงตู่ VS ลุงป้อม ไม่ แตกกัน

แม้ 2 พรรคใหญ่ อย่าง 'พลังประชารัฐ' และ 'รวมไทยสร้างชาติ' จาก 2 ป. พี่น้อง 'ป้อม-ตู่' จะเริ่มออกมาเรียกคะแนนเรียกคะแนนเสียง และฟาดฟันกันด้วยนโยบายเคลมบลัฟแบบไม่ไว้หน้ากัน จนสะท้อนภาพรอยร้าวในความสัมพันธ์ของคู่พี่น้องให้ประชาชนสัมผัสได้ชัดขึ้น แต่หากย้อนดูโพลเมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ก็เชื่อว่านี่น่าจะยังเป็นเพียงความดุเดือดทางการเมือง ที่ท้ายสุด อาจจะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์แยกกันเดิน ร่วมกันตี หลังการเลือกตั้งนี้จบลง ก็เป็นไปได้

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในวันนั้นได้เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง 'พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปะทะ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)' ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 23-25 มกราคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมืองระหว่าง รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 

การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
 

เปิดรายชื่อตัวตึง ชั้น ม.ต้น โรงเรียนที่สอบเข้า ‘มหิดลวิทยานุสรณ์’ ได้มากที่สุด

อันดับที่ 1 รร.สวนกุหลาบ สอบเข้าได้ 29 คน
อันดับที่ 2 รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน สอบเข้าได้ 24 คน
อันดับที่ 3 รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สอบเข้าได้ 16 คน
อันดับที่ 4 รร.แสงทองวิทยา สอบเข้าได้  11 คน
อันดับที่ 5 รร.ภูเก็ตวิทยาลัย สอบเข้าได้  10 คน
อันดับที่ 6 รร.อุดรวิทยานุกูล สอบเข้าได้  7 คน

 

‘แสนสิริ’ โชว์ผลงานปี 65 กำไรสุทธิ 4,280 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 112% ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปี

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) กล่าวว่า ปี 65 นับเป็นอีกปีท่ามกลางความท้าทายที่แสนสิริผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งในรอบ 38 ปี จากการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ส่งผลให้ แสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลงานยอดขายรวมที่ทำได้ถึง 50,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้รวมในปี 65 แสนสิริมีรายได้รวมทั้งสิ้น 34,983 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 30,716 ล้านบาท รายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 67% : 33%

นอกจากนี้ สรุป ผลการดำเนินงานปี 65 แสนสิริยังมีกำไรสุทธิที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 4,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 2,017 ล้านบาท ถึง 112% นับว่าเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตด้านกำไรสูงที่สุดในอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม โตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8%

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 14.6 ล้านคน เริ่มใช้สิทธิ 1 เม.ย. 66 ประกาศผลเริ่มยืนยันตัวตน 1 มี.ค.66

ชาวบ้านเฮ!!
ครม. เห็นชอบรายงานการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และประชารัฐสวัสดิการใหม่ ให้แก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 14.6 ล้านราย เริ่มกระบวนการยืนยันตัวตน 1 มีนาคม 66

คณะรัฐมนตรี วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เห็นชอบรายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และกรอบระยะเวลาดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งอนุมัติงบกลาง จำนวน 9,140.35 ล้านบาท ให้กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม นำมาสมทบกับเงินกองทุน ฯ ในการดำเนินการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ เช่น วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคจากร้านธงฟ้าประชารัฐ จำนวน 300 บาท/คน/เดือน วงเงินค่าเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท/คน/เดือน เป็นต้น

รายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนโครงการ ฯ ปี 2565 มีรายละเอียด ดังนี้

1. ผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนโครงการ ฯ ปี 2565 ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 14,596,820 ราย ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 5,050,421 ราย ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ อาทิ มีรายได้เกิน 100,000 บาท/ปี มีบัญชีเงินฝากเกิน 100,000 บาท มีบัตรเครดิต มีวงเงินกู้บ้าน/รถ เป็นต้น

States TOON EP.115

เส้นทางบันเทิง!!

อัปเดต ไทม์ไลน์ 'เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5'

สายเที่ยวห้ามพลาด!! เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก 40% จำนวน 560,000 สิทธิ์ (ห้อง/คืน) เข้าพักได้ 10 มี.ค.ถึง 30 เม.ย.นี้

14 เรื่องดี๊ดีที่ ‘บิ๊กตู่’ มีให้ภาคตะวันตก ‘ถนน - ท่องเที่ยว - ปากท้อง’ ครบ!!

ไม่แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ สำหรับภาคตะวันตก อันประกอบไปด้วยจังหวัด กาญจนบุรี, ตาก, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี และราชบุรี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งผลักดันโครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงการยกระดับการท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมานี้ มีหลากโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนแนวทางต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากมาย

>> จังหวัดกาญจนบุรี

1. Skywalk กาญจนบุรี แลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำแคว บนความสูง 12 เมตรจากพื้นถนน และความยาวของ Skywalk กาญจนบุรี อยู่ที่ 150 เมตร ตลอดริมแม่น้ำ ตัวพื้นของ Skywalk กาญจนบุรี ทำจากกระจกใสแข็งแรง ตลอดทางเดินสามารถมองเห็นแม่น้ำด้านล่าง

2. จัดระเบียบเรือนแพและปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำแคว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

3. แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 

4. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีพื้นที่ผ่าน 3 จังหวัด คือ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม และ จ.กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร 

>> จังหวัดตาก

5. มอบสิทธิมอบสุขในที่ดินทำกิน หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 5 ป่า ประกอบด้วย ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน / ป่าแม่ละเมา / ป่าแม่สอด / ป่าท่าสองยาง และ ป่าแม่ระกา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดตาก ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน จำนวน 1,231 เล่ม 

6. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันผลักดัน ให้ ‘ไม้กลายเป็นหิน’ ณ อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จังหวัดตาก ถูกบันทึกสถิติโลกว่าเป็น ‘ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก’ ลง Guinness World Records ได้สำเร็จ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของเยาวชน ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจด้านแหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญในประเทศไทย

7. สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย หรือที่ชาวเมียนมาเรียกแม่น้ำตองยิ่น แห่งที่ 2 บริเวณฝั่งไทยที่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก 

States TOON EP.114

ประเภทเดียวกัน!!

20 โปรเจกต์ หนุน EEC เดินหน้า ภายใต้ผู้นำที่ชื่อว่า ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’

โครงการ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งมีอีกชื่อเป็นภาษาไทยว่า ‘โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก’ อีกหนึ่งความหวังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยปัจจุบันมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเงื่อนไขในการเอื้อต่อการลงทุนแล้วหลายประการ

1. พัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา)
2. พัฒนารถไฟทางคู่ (ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย)
3. พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด / ท่าเรือแหลมฉบัง เป็น ‘ประตูการค้า’ เชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียน
4. พัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ หรือท่าเรือจุกเสม็ด รองรับนิคมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวทางทะเล
5. ปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3

States TOON EP.113

ตัวตนถูกต้อง!!

‘บิ๊กตู่’ ยกระดับ Soft Power ไทย ดัน ‘16 เทศกาลไทย’ สู่เวทีสากล ดึงดูด นทท. สร้างรายได้ให้ชุมชน

(20 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน สร้างรายได้แก่ประชาชน ผ่านการคัดเลือกเทศกาลประเพณีทั่วประเทศที่โดดเด่น เพื่อยกระดับเทศกาลประเพณีไทย (Festival) ไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ 

กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินตามนโยบายรัฐบาล ขับเคลื่อน Soft Power ของไทยที่มีศักยภาพ 5F (Food, Fight, Film, Fashion, Festival) โดยแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการคัดเลือกเทศกาลประเพณีของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 16 ประเภท ซึ่งทั้ง 16 เทศกาลประเพณีที่ได้รับการคัดเลือก ล้วนมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ แสดงออกถึงวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด ส่งเสริมการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเผยแพร่ประเพณีของไทยให้เป็นที่รู้จัก ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศชาติ

รัฐบาลประยุทธ์ 'สร้างชาติ' ชำระหนี้มากที่สุดและลงทุนเพื่ออนาคตมากที่สุด

รัฐบาลประยุทธ์ 'สร้างชาติ' ชำระหนี้มากที่สุดและลงทุนเพื่ออนาคตมากที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top