Saturday, 17 May 2025
NEWSFEED

‘ปรางทิพย์’ ลูกสาวซาตาน แจกเลขเด็ดให้คอหวย ‘งวด 16 ส.ค.66’  ลั่น!! ใครยังไม่รู้จะซื้ออะไร ส่องเป็นแนวทางได้ อาจเข้ารางวัลใหญ่

(10 ส.ค. 66) เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้นักร้องสาวเสียงใส ‘ปราง ปรางทิพย์’ หรือ ‘ปราง เดอะวอยซ์’ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องของตัวเลขลงในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว prangthip68 เพื่อให้เหล่าแฟนคลับนักเสี่ยงโชคได้เก็งหวยไปพร้อมกัน โดยเป็น เลขปฏิทิน ซึ่งปรากฎให้เป็นเลขท้าย 2 ตัว ดังนี้ เด่น : 4 - 6 เลขสองตัว : 41 - 42 - 43 - 16 - 26 - 36

ล่าสุด ‘ปรางทิพย์’ ก็ใบ้เลขเด็ดเพิ่มเติมอีก 1 ชุดตัวเลข เพื่อเป็นการเตือนคอหวยทุกท่านไม่ให้ลืมซื้อเลขตัวดังกล่าว โดยเธอโพสต์ลงในสตอรี่อินสตาแกรมเหมือนเช่นเคย ระบุว่า

ทั้งนี้หากใครที่กำลังมองหาแนวทางเลขที่ใช่ เพื่อใช้ในการลุ้นโชคซื้อลอตเตอรี่ แต่ยังไม่รู้จะซื้อเลขไหนดี ก็สามารถเอาหวยปรางทิพย์ 16 ส.ค.66 ไปลองหาซื้อกันดูได้นะ เพราะไม่แน่เลขจากลูกสาวซาตานคนนี้อาจจะมาพร้อมโชคก้อนใหญ่ส่งท้ายเดือนสิงหาคมก็เป็นได้

ส่องเลขเด็ด ‘ครูกายแก้ว’ บรมครูผู้เรืองเวทย์ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ จากเหตุการณ์ขนย้ายรูปปั้นลอดใต้สะพานหน้าโค้งร้อยศพ

‘ครูกายแก้ว’ หรือที่หลายๆ คนอาจรู้จักกันในนามของ "พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์" มีที่มากับพระธุดงค์ในจังหวัดลำปาง จากการที่พระรูปนี้ได้ธุดงค์ไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และต่อมาก็ได้มอบครูกายแก้วนี้ให้กับลูกศิษย์นั่นก็คือ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดา หรือ พ่อหวิน นักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหาร ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างองค์ปฐมของครูกายแก้วขึ้นในประเทศไทย

ในครั้งแรกที่อาจารย์สุชาติได้รับมอบครูกายแก้วมานั้น องค์ครูมีขนาดเล็ก เป็นลักษณะคนนั่งหน้าตักเพียงแค่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น และต่อมาครูกายแก้วก็ปรากฎกายให้อาจารย์สุชาติได้เห็น ในตอนนั้นเองอาจารย์สุชาติก็ได้ทำการวาดภาพของครูกายแก้วจากจินตนาการ และทำการหล่อรูปองค์ครูขึ้นเป็นองค์แรก มีลักษณะเป็นองค์ยืน คล้ายคนแก่ นำไปไว้ที่สำนัก จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาครูนั่นเอง

โดยรูปร่างลักษณะขององค์ครูกายแก้วที่อาจารย์สุชาติสร้างขึ้นมานั้น เป็นลักษณะของผู้บำเพ็ญกึ่งมนุษย์กึ่งนก มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวทองเพื่อสื่อถึงนกการเวก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา

ปัจจุบันองค์ปฐมแบบยืนของครูกายแก้วนั้นถูกย้ายไปไว้ที่บ้านของคุณสุวรรณี เต็มเจริญสุข ส่วนองค์ต่อมาที่เป็นแบบองค์นั่งก็ถูกเก็บเอาไว้บูชาที่บ้านของท่านอาจารย์สุชาติเอง แต่หากว่าใครอยากจะกราบไหว้ขอพรองค์ครูกายแก้ว ก็สามารถไปได้ที่เทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ที่นั่นมีองค์ครูกายแก้วแบบนั่งเช่นเดียวกัน

การบูชาองค์ครูกายแก้ว นั้นจะต้องทำการบูชาครูด้วยธูป 5 ดอก กราบไหว้องค์ครู หลังจากนั้นจะทำการถวายเงินที่ตู้แก้วของครูกายแก้ว และทำการเคาะ จากนั้นจึงขอพรบอกกล่าวความปรารถนาแก่องค์ท่าน

นอกจากองค์ครูกายแก้วที่อยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ความศรัทธาที่มีต่อครูนี้ก็ยังเผยแผ่ไปไกลยังฮ่องกง โดยที่นั่นเองก็มีองค์ครูกายแก้ว ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์ ให้พรในเรื่องความสำเร็จ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองเงินทอง จนชาวฮ่องกงพากันเปรียบองค์ครูกายแก้วเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเลยทีเดียว

จากเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (9 ส.ค. 2566) การขนย้ายรูปปั้น ครูกายแก้ว ลอดใต้สะพานหน้าโค้งร้อยศพไม่พ้น ทำให้การจราจรช่วงเช้าที่ ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า ช่วงหน้าศาลอาญา รถติดสะสมต่อเนื่องถึงสะพานพระราม 7 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ต้องเข้าเคลียร์การจราจร โดยให้ปล่อยลมยางและเข้าจอดช่องทางซ้ายสุด ก่อนจะเปิดทางให้สัญจรได้ตามปกติ

หลายท่านที่ติดตามข่าว ก็คงอยากจะอยากจะได้เลขเด็ดกัน THE STATES TIMES ได้ไปติดตามมาให้แล้ว โดยได้รับการยืนยันจาก พ.ต.ต.ศรีธกริช พิทักษ์ชนะกิจ สว.จร.สน.พหลโยธิน ซึ่งเปิดเผยว่ารถบรรทุกรูปปั้น ครูกายแก้ว นั้นมีเลขทะเบียน 72-7679 สระบุรี โดยได้เดินทางมาจากโรงหล่อ จ.ราชบุรี เพื่อจะนำไปตั้งบูชาที่โรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว 

‘แอลลี่’ งง!! โผล่ชื่อมือที่สาม ยืนยัน ‘อชิ’ ไม่เคยจีบ ย้ำ!! ไม่ได้รู้จักกับอีกฝ่าย แค่พ่อแม่รู้จักกันเฉยๆ

(10 ส.ค. 66) จากกรณีก่อนหน้าที่กลายเป็นข่าวใหญ่โต ทำเอาชาวเน็ตเม้าท์สามบ้านแปดบ้านทีเดียว เมื่อมีเพจดังออกมาแฉว่า คู่รักวัยทีนได้เลิกรากันแล้ว เพราะจับได้ว่าฝ่ายชายทักแชตตามจีบหน้ากากผักขมปี๋มา 3 ปี ด้านชาวเน็ตจึงจับโยงไปที่น้อง ‘แอลลี่ อชิรญา’ เป็นมือที่สาม และล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นอื้อฉาวนี้กับสื่อมวลชนแล้ว

ล่าสุด ‘แอลลี่’ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กลางวงสื่อถึงประเด็นนี้ว่า ตนเองรับรู้ข่าวนี้ตอนอยู่ที่อเมริกา ตอนแรกก็ตกใจเพราะไม่เคยได้ยินอะไรเลย เคยได้ยินชื่อ ‘อชิ’ แค่จากพ่อแม่เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่รู้จักกัน แล้วน่าจะเคยเจอกันตอนอายุประมาณ 2-3 ขวบ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ส่วนตัวจึงรู้สึกงงมาก ตนได้ลองไปค้นในดีเอ็มก็ไม่มีข้อความ ไม่มีคอนแท็กต์ไลน์เลย

เมื่อนักข่าวถามว่า เป็นเพราะคำว่าหน้ากากผักขมปี๋ ทำให้หวยจึงมาตกที่ ‘แอลลี่’ หรือเปล่า? ตนก็ตอบว่า “หนูเป็นหน้ากากผักรวมนะคะ แต่ว่าก็ตกใจเหมือนกันว่ามาได้ยังไง หนูก็เลยคุยกับทางค่ายแล้วก็คุยกับอากึ้งด้วย ว่าถ้าเกิดมีข่าวลือที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริงอีก แล้วทำให้ชื่อเสียงหนูเสื่อมเสีย น่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมาย”

ซึ่งข่าวลือที่เกิดขึ้น แอลลี่เผยว่า “ไม่มีผลกระทบอะไรเลย แค่รู้สึกว่าไม่อยากให้คนเข้าใจผิดค่ะ แล้วก็มันไม่ใช่เรื่องของหนูด้วย หนูไม่รู้จักใครเลยก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ส่วนคุณแม่ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเลยค่ะ เพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องมันเป็นยังไง เราก็เลยแค่แบบอ๊ะ! โอเค แค่นั้นเลยค่ะ อีกอย่างคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่หนูเห็นก็ไม่ได้มีไปในทางลบเลย เพราะเหมือนคนก็น่าจะไม่ได้เชื่อขนาดนั้นว่ามันเกิดขึ้น เพราะว่าด้วยความที่อยู่ดีดีชื่อของหนูก็ถูกโยงเข้ามาเลย แล้วเหมือนเรื่องมันก็ไม่ได้เมกเซ้นส์เท่าไหร่ หนูก็เลยชิลมากๆ”

สุดท้าย ‘แอลลี่’ บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้คุยกับอชิ เพราะไม่ได้รู้จักกัน และอีกฝ่ายไม่เคยมาจีบ ไม่มีไลน์ ไม่มีคอนแท็กต์อะไรเลย ตอนนี้ตนเองโสดแต่ไม่เหงาเพราะ “หนูชอบตัวเอง”

‘ลิซ่า BlackPink’ โชว์แซ่บสะท้านไอจี นุ่งบิกินี่เที่ยวเกาะ โซเชียลลุกเป็นไฟ!! 12 ชม.กระหน่ำไลก์ทะลุ 7 ล้านครั้ง

(10 ส.ค. 66) ซุปเปอร์สตาร์ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง ‘แบล็กพิงก์’ ได้โพสต์ภาพขณะท่องเที่ยวในวันพักผ่อน เปล่งออร่าความสดใสอย่างมาก ทำเอาแฟน ๆ ยิ้มตามไม่หยุด ขณะเดียวกันก็ต้องซู้ดปากให้กับความแซ่บ เมื่อสาวลิซ่าได้อวดหุ่นสวยในชุดบิกินีด้วย

งานนี้ทำเอาแฟน ๆ กดไลก์สนั่นแค่ 12 ชั่วโมง ยอดก็ทะลุ 7 ล้านครั้งและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่คนดังในไทยก็เข้าไปคอมเมนต์ด้วย เช่น

ต้าเหนิง ที่เข้าไปเมนต์อิโมจิ ‘ไฟลุก’, รัศมีแข ที่บอกว่า ‘อ้าว สวยกว่าทะเล งงนะคะ’, แกรนด์ เดอะสตาร์ ที่ส่งอิโมจิหัวใจรัว ๆ และ ปิงปอง ที่รัวข้อความว่า 'น่ารักกกกก’

บ้านลันได ความลงตัวของวัตถุดิบท้องถิ่น บรรยากาศเรียบหรู แต่ดูอบอุ่น มีความละมุนในทุกเมนู

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่านไปทานอาหารไทยที่เชียงใหม่ ที่นี่คือ บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine ร้านนี้เสิร์ฟอาหารไทยที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นบ้านและรสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่น ตามแบบฉบับของครอบครัวนันทิแสง ที่เชฟใหญ่ประจำร้านอย่าง ต้อม–นพดล นันทิแสง ที่พยายามถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้ลิ้มรส

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระปกเกล้า ใกล้ประตูช้างเผือก หน้าร้านเป็นตึกแถวสีขาวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวของต้นไม้ ภายในร้านออกแบบตกแต่งสไตล์โคโลเนียล มีมวลความคลาสสิคผสานกลิ่นอายล้านนาแบบพื้นถิ่น ดูเรียบหรูแต่อบอุ่น สมคอนเซปต์ของร้านที่ต้องการให้เรารู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนทานอาหารอยู่ที่บ้าน ตกแต่งออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ผสมผสานของประดับต่างๆ อย่างลงตัว ด้วยดอกไม้นานาชนิด ทั้งกล้วยไม้ ดอกบัว พวงมาลัยดอกพุด รวมทั้งไม้ใบสีเขียว ขนนกยูง และตะเกียง ท่ามกลางบรรยากาศโทนสีขาว

อาหารจานเด็ดของร้านนี้ขอแนะนำ ผัดปลาแห้งแตงอุลิด หรือ แตงโมปลาแห้ง ผัดหมี่โบราณกุ้งทอดคลุกซอสมะขาม ซึ่งอาหารจานนี้ได้ถูกดัดแปลงมาจากอาหารถิ่นเหนือ รสชาติอร่อยถึงเครื่องมาก อีกเมนูที่มาร้านนี้แล้งต้องลองก็คือ เมี่ยงกลีบบัว สีสันน่าทานมากขอบอกเลย

นอกจากนี้ บนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะ ก็จะมีผงโรยข้าว ซึ่งทางร้านผัดเอง วางไว้ให้เรานำมาโรยข้าว หรือเนื้อสัตว์ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร มีหลายแบบให้เลือก ทั้งรสลาบเหนือ รสลาบอีสาน รวมถึงปลาแห้งสำหรับโรยแตงโม ถ้าใครติดใจในรสชาติก็สามารถซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ้านลันได (BAAN Landai Fine Thai Cuisine)
ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวันอังคาร– อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
เวลา 11.00 - 22.00 น.
โทร. 065-848-4464 

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘แพทริเซีย’ ฟิตสุดๆ!! โชว์หุ่นคุณแม่หลังคลอด ขอปรบมือให้กับความมีวินัย เอวเอสเริ่มกลับมาแล้ว

(9 ส.ค.66) ขึ้นแท่นเป็นคุณแม่ลูกอ่อนที่สวยและหุ่นดีสุด ๆ อีกคนแล้ว สำหรับนางเอกสาว ‘แพทริเซีย กู๊ด’ ที่เพิ่งจะคลอดลูกสาวคนแรก ‘น้องเอลิเซีย’ ให้ออกมาลืมตาดูโลกได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น

ซึ่งในช่วงนี้ไม่ว่า ‘แพทริเซีย’ จะเดินทางไปไหน ก็มักจะถูกทักถึงเรื่องหุ่นที่ลดกลับมาได้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว บวกกับใบหน้าที่เปล่งปลั่งออร่าเฉิดฉายอย่างเห็นได้ชัด

ล่าสุด ‘แพทริเซีย’ ก็ได้โพสต์ภาพขณะกำลังออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนส พร้อมเขียนแคปชันไว้ว่า "Almost 8 weeks postpartum! slowly easing back into exercise, mainly for my mental health at this point"

พอได้เห็น ‘แม่แพท’ หน้าสด อีกทั้งยังใส่ชุดออกกำลังกายเผยให้เห็นสัดส่วนแบบชัดเจนแบบนี้แล้วต้องบอกเลยว่า ขอปรบมือให้กับความมีวินัยในการฟื้นฟูร่างกายของตัวเองแบบรัว ๆ เลยจ้า

‘ชาวเน็ต’ ขี้สังเกต!! หุ่น ‘แพทตี้’ ดูอวบขึ้นเหมือนคนจะมีน้อง หลังเจ้าตัวลงรูปคู่ให้กำลังใจ ‘แดน วรเวช’ เล่นคอนเสิร์ต

(9 ส.ค.66) ก่อนหน้านี้ ‘แดน วรเวช’ และ ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ ถือฤกษ์ดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 เข้าพิธีวิวาห์อย่างเรียบง่าย โดยพิธีจัดขึ้นที่วัด ตามที่วางแพลนไว้ตั้งแต่แรก โดยทั้งคู่ได้เข้าพิธีรับน้ำพระพุทธมนต์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

และเพิ่งผ่านพ้นไปสำหรับงานคอนเสิร์ต แดน-บีม ครบรอบ 22 ปี D2B ETERNITY CONCERT : 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ โดยทางด้าน ‘บีม กวี’ ก็มีภรรยาและลูกๆ ไปให้กำลังใจถึงที่ 

ส่วนทางด้าน ‘แดน วรเวช’ ก็ไม่น้อยหน้า ‘แพทตี้’ ถือดอกไม้ไปร่วมแสดงความยินดีในงานคอนเสิร์ต D2B โดยทางด้าน ‘แพทตี้’ ได้ออกมาโพสต์รูปภาพพร้อมกับได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า “คนเก่งของอัง เต็มที่นะที่รัก”

แต่งานนี้ต้องบอกเลยว่าทำชาวเน็ตสังเกตเห็นภาพล่าสุด แพทตี้ อังศุมาลิน อวบขึ้นจนคล้ายคนมีน้อง ซึ่งทางด้านแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์กันเพียบว่า หุ่นแบบนี้มีข่าวดีแน่ๆ, หุ่นน้องแพท เหมือนมีน้องแล้วววว, หุ่นนี้เหมือนมีเบบี๋ 

‘น็อต-เพชร’ เพื่อนรักต่างขั้ว ยืนยัน 'ไม่ได้เกลียดกัน' ลั่น!! มิตรภาพความเป็นเพื่อน 20 ปี ยังเหมือนเดิม

(9 ส.ค.66) เป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กันมานานมากๆ สำหรับนักแสดงและพิธีกรดัง ‘น็อต วรฤทธิ์’ และ ‘เพชร กรุณพล’ สส. และเป็นรองโฆษกพรรคก้าวไกล แน่นอนว่าทั้งคู่มีความคิดเห็นที่เห็นต่างกันสุดขั้ว จนบ่อยครั้งมีข่าวดราม่า ฉะกันเดือดสะเทือนโซเชียล

ล่าสุด ‘น็อต’ และ ‘เพชร’ ได้มานั่งเปิดใจถึงมิตรภาพ 20 ปี และความคิดเห็นต่างทางการเมืองผ่านรายการแฉ ว่า ทั้งคู่ยืนยันชัดเจนว่า 'ไม่ได้เกลียดกัน'

น็อต : ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิม 20 ปี แต่บางทีความเป็นเพื่อนพักบ้าง ถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วพยายามจะเปลี่ยนแปลงกัน แต่ถ้าสามารถแลกเปลี่ยนกันได้คุยกัน

เพชร : เมื่อก่อนต้องยอมรับช่วงการเมืองแรงๆ เราก็พยายามจะเปลี่ยนเขา เขาก็พยายามนำเสนอแนวทางเขา แต่เขาไม่ได้จะเปลี่ยนเรา เราพยายามจะเปลี่ยนเขา ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทเราก็คุยด้วยภาษามึงกู มันก็มีคนเอาเรื่องราวออกไปข้างนอก เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่

เพชร : ในกลุ่มมี 7 คน เรา 2 คนด่ากันอยู่ในกลุ่มตลอด จนพี่กิ๊ฟ วรรธนะ ถามว่าถ้าพวกมึงชนะเขาจะให้มึงเป็นรัฐมนตรีเหรอ เขาจะให้ถ้วยมึงเหรอ ก็ไม่ได้อะไร จนมานั่งตกตะกอนว่ายังมีอีกหลายล้านคนมีความคิดที่เห็นต่างกับเรา

เดี๋ยวนี้เราไม่ไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อเขา เราแค่รับฟัง อันไหนรู้สึกได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบ ก็แค่บอก เหมือนเราเอาข้าวไปให้เขากินแล้วเขาไม่ถูกปากเขาไม่กิน แล้วเราจะไปบอก มึงต้องกินให้หมด ไม่งั้นมึงเลิกคบกับกู มันก็ไม่ใช่ 

น็อต : เมื่อก่อนมันเป็นอย่างนั้น เลยบอกงั้นไม่ต้องคุยกัน ถึงเป็นประเด็นตอนนั้น ผมถึงบอกนั่นก็เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู อย่ามาเปลี่ยนแปลงกัน เพราะเราให้ข้อมูลอะไรไป เขาก็เชื่อของเขา เราก็เชื่อของเรา มีช่วงที่ต่างคนไม่รับฟังกัน ก็ตัดปัญหาไม่ต้องคุยกัน

เพชร : ตั้งแต่วันที่มดดำเชิญมามีปัญหาทัวร์ลง เลยคุยกันว่าต่อไปนี้ ถ้าอะไรที่เราเห็นต่าง เราไม่ต้องมาคอมเมนต์ไม่ต้องมาสอนกัน (ยอมรับว่าดรามาตอนนั้นตีกันจริง)

น็อต : เราไม้แก่กันหมดแล้ว ดัดยากแล้ว

‘เอวา’ ดีกรีคุณหนูหมื่นล้าน ลงทุนแปลงโฉม ‘ขายพวงมาลัย’ 1 วัน พีกตอนท้าย!! เจ้าตัวได้มอบเงินหมื่นให้กับคนขายตัวจริงอีกด้วย

(9 ส.ค.66) ถึงจะมีดีกรีเป็นถึงลูกคุณหนูหมื่นล้าน ‘เอวา ปวรวรรณ วีระภุชงค์’ ก็ไม่ยอมอยู่เฉย ล่าสุด สาวเอวา ไม่ยอมอยู่เฉย สร้างภารกิจท้าทายตัวเองในรายการ คุณหนู CAN Do รายการในช่องยูทูบ Sunflowava ของเธอ ซึ่งเลิกทำไปนานร่วม 2 ปี เปิดมาเทปแรกก็สร้างตำนานลุยขายพวงมาลัยเลยทีเดียว

สาวเอวาลงทุนฝ่าแดดฝ่าควัน แบกพวงมาลัยออกไปขายเองกลางสี่แยก แม้จะไม่คุ้นชินกับการต้องมาเดินขายของกลางท้องถนน มีลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็ลุยเต็มที่

โดยภารกิจที่สาวเอวาต้องทำให้สำเร็จคือ ขายพวงมาลัยให้ได้ 1,500 บาทใน 1 ชั่วโมงนั่นเอง

ด้วยความตั้งใจและทุ่มเทเต็มที่ ชนิดว่าไม่กลัวเสียงแหก ตะโกนหาลูกค้าซื้อพวงมาลัยแบบใส่เต็ม สาวเอวาจึงเรียกความประทับใจจากคุณลุงขายพวงมาลัยได้ไปสุดขีดเลย

ก่อนที่ช่วงท้ายคลิปจะสรุปภารกิจว่า เอวาสามารถขายพวงมาลัยไปได้ถึง 1,600 บาท ซึ่งถือว่าเธอทำภารกิจสำเร็จ โดยเธอต้องการให้รายการเธอช่วยต่อยอด เธอจึงตัดสินใจมอบเงินที่ได้จากการขายพวงมาลัยให้คุณลุง พร้อมเพิ่มให้ถึง 5 เท่า เป็นเงินจำนวน 8,000 บาท

บวกกับหนุ่มเนท แฟนหนุ่มของสาวเอวา ช่วยสนับสนุนเพิ่มอีกถึง 2,000 บาท ทำให้ครั้งนี้คุณลุงขายพวงมาลัยได้รับทุนไปต่อยอดชีวิตและอาชีพขายพวงมาลัยตามสี่แยกถึง 10,000 บาทเลยทีเดียว

ทั้งน่ารัก ใจดี และมีใจเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นแบบนี้ อย่าลืมติดตามรายการดี ๆ ของสาวเอาวาเต็มคลิปเพื่อให้กำลังใจเธอกันได้เลย

35 Dry Aged Beef สุดยอดร้านสเต๊กสไตล์ Home Cook สูตรพิเศษ บ่มเนื้อนาน 35 วัน 'หอม-นุ่ม' เกินต้าน

35 Dry Aged Beef หนึ่งในร้านใหม่ของไอคอนสยามที่พร้อมแล้วกับการเปิดประตูพาคุณเข้าสู่โลกของจานสเต๊กกับเรื่องราวของเนื้อดรายเอจสูตรพิเศษที่ใช้เวลายาวนานกว่า 35 วันในการบ่มภายใต้เทคนิคเฉพาะตัวของ เชฟแทน ไกรสรกิตติกุล 

สำหรับสายเนื้อและคนชอบสเต๊ก เชื่อเลยว่าจะต้องรู้จัก 35 Dry Aged Beef เพราะนี่คือพิกัดที่ครองใจนักกินมาอย่างต่อเนื่องด้วยความอร่อยและคุณภาพของเนื้อที่อัดแน่นอยู่ในทุกมิติจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคิวที่จองเพื่อจะได้ชิมเนื้อดรายเอจสูตรพิเศษของที่นี่จึงยาวเหยียดและทุกคนก็พร้อมรอ เพราะรสสัมผัสของเนื้อดีมาก ต้องลองมาชิมที่นี่ ในคอนเซปต์ Butcher – Beef – Bar

ความพิเศษของ 35 Dry Aged Beef บนชั้น G ในบริเวณของ Dear Tummy Lifestyle Supermarket ห้างไอคอนสยาม ก็คือการยกขบวนความอร่อยมาแบบครบครัน แถมด้วยยังเปิดตู้ขายเนื้อดรายเอจให้สามารถซื้อกลับไปปรุงเองที่บ้านได้

เนื้อดรายเอจของ 35 Dry Aged Beef ผ่านกระบวนการดรายเอจนานกว่า 35 วัน ซึ่งด้วยการเลือกใช้เนื้อเกรดพิเศษบวกกับเทคโนโลยีเฉพาะในการบ่มและเก็บเพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศจนสามารถดึงเอารสชาติที่เข้มข้นออกมาได้ โดยมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ และยังทำให้เนื้อนุ่มยิ่งขึ้น ซึ่งจากคุณภาพทั้งหมดนี้เมื่อมาผสมเข้ากับเทคนิคของเชฟแทนจึงเกิดเป็นความอร่อยทั้งในส่วนของเนื้อสัมผัส และรสชาติที่ล้ำลึกยิ่งกว่าเดิม

บรรยากาศภายในร้านพร้อมต้อนรับคุณด้วยพื้นที่แบบ Open Space เปิดโล่งกับ 2 โซนที่แบ่งออกเป็นโต๊ะนั่งสบายๆ กับบริเวณบาร์ให้ได้แฮงค์เอาต์ ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบเปิดโล่งเพื่อให้คุณสามารถชื่นชมทุกกรรมวิธีที่พิถีพิถันได้อย่างใกล้ชิด และยังมีตู้ดรายเอจวางเรียงรายโชว์ให้เห็นถึงความสวยงามของก้อนเนื้อลายหินอ่อน

อีกหนึ่งในเคล็ดลับความอร่อยของที่นี่คือความใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่ใช้ แหล่งที่มาของเนื้อ ซอส หรือเครื่องเคียงที่ยกเสิร์ฟ ก่อนจะมาปรุงรสต่อเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์หลักของร้านนั่นคือ Home Cook ทุกอย่าง

สำหรับสเต๊กทุกจานที่ยกเสิร์ฟ เชฟแทนจะเลือกเนื้อในส่วนที่มีคาแรกเตอร์เหมาะกับแต่ละเมนูเพื่อให้ควาอร่อยของขั้นตอนการปรุงดึงรสเนื้อออกมาอย่างกลมกล่อม รวมทั้งยังใส่ใจในความสุกแบบละเอียด

ตับไก่บดที่เสิร์ฟพร้อมขนมปังหอมกรุ่นกับกระเทียมสูตรพิเศษจานนี้ทำเองสไตล์ Home Cook ทั้งหมดทำให้ได้ความกลมกล่อมที่กินเพลิน หรือใครจะชอบซุป อินเลิฟกับพาสต้า หรือเนื้อปรุงรสที่นี่ก็ตอบโจทย์ทั้งหมด

สายเนื้อห้ามพลาดเด็ดขาดกับร้านอร่อย บรรยากาศดีแบบนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด : ICONSIAM ชั้น G บริเวณ Dear Tummy Lifestyle Supermarket 
โทร  : 089-922-6671

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top