Monday, 12 May 2025
NEWSFEED

ผู้ติดตามอินสตาแกรม ‘กามิน’ ลดฮวบ เหลือ 3.7 แสนคน จากเดิม 4.5 แสนคน

(9 ก.ย. 67) จากกรณีดรามาระหว่างสาวเกาหลีใต้ ‘จี กามิน’ กับอดีตคู่จิ้นอย่าง ‘แน็ก ชาลี ไตรรัตน์’ จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักหน่วงในโลกออนไลน์ หลังฝ่ายชายออกมาไลฟ์แฉพฤติกรรมสารพัด

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมของฝ่ายหญิง @mmini.j ที่เคยมีคนติดตามประมาณ 4.5 แสนผู้ติดตามนั้น ในขณะนี้ปรากฏว่ายอดผู้ติดตามได้ลดลงมาเหลือเพียงประมาณ 3.7 แสนผู้ติดตาม เรียกว่าลดฮวบไปกว่า 8 หมื่นผู้ติดตามแล้ว

‘โอปป้าเกาหลี’ สะท้อนมุมมองดรามา 'ชาลี-กามิน' สงสาร 'ชาลี' สงสารความมีน้ำใจของคนไทย

เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 67) บัญชีติ๊กต๊อก (TikTok) ที่ใช้ชื่อว่า ‘ruengnok18053’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘พี่เรือง-น้องนก’ ซึ่งเป็นบัญชีของสาวไทยที่ได้แต่งงานกับหนุ่มเกาหลีอาศัยอยู่ในไทย โดยได้ลงคลิปคอนเทนต์รีแอคชันของ ‘พี่เรือง’ ผู้เป็นสามีชาวเกาหลีที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดาราหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี ปอทเจส’ ที่ประกาศแยกย้ายกับ ‘กามิน’ แฟนสาวชาวเกาหลี 

สำหรับเนื้อหาของคลิปเริ่มต้นที่ ‘พี่เรือง’ ดูคลิปเต้นของกามิน ก่อนจะปิดไปด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย จากนั้น ‘น้องนก’ ซึ่งเป็นภรรยาก็ได้ถามว่า “ถ้าอยากจะคอมเมนต์กามิน อยากจะคอมเมนต์ว่าอะไร?”

โดยสามีชาวเกาหลี ได้มีความเห็นว่า ตนรู้สึกโกรธมาก และคิดว่าทำไมกามินถึงทำแบบนี้? ทำไมไม่มีความรู้สึกผิดต่อคนไทยที่เคยรักและชื่นชมเธอเลย กลับลงคลิปเต้นเหมือนต้องการเยาะเย้ยคนไทย ซึ่งตนมองว่า ดูเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากที่เธอเลือกทำร้ายความรู้สึกของคนไทยแบบนี้

"ผมรู้สึกโกรธมากนะ ดูเหมือนกามินอาจจะเข้าใจผิด เหมือนเธอจะคิดว่าตัวเองจะอยู่เกาหลีตลอดไป" 

พี่เรือง บอกอีกว่า "กามินโชคดีมาก ไม่ใช่แค่เรื่องเงินนะ เนื่องจากคนไทยหลายคนชอบกามิน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ทำไมกามินถึงไม่รู้ตัวเองว่า เธอมาถึงจุดนี้ (จุดที่มีชื่อเสียง) ได้ยังไง? ทำไมคนไทยชอบกามิน? ทำไมคนไทยถึงคอยให้กำลังใจกามิน? คนไทยให้ทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก แม้กระทั่งเงินทองแบบที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน แถมยังให้กำลังใจนับตั้งแต่ตอนที่เธอไลฟ์คนเดียว ซึ่งไม่มีคนดูเลย”

นอกจากนี้ พี่เรือง ยังให้มุมมองอีกว่า กามินอาจต้องการแค่ชื่อเสียงและฐานแฟนคลับตัวเองเพิ่มเท่านั้น แต่เมื่อได้ทุกอย่างแล้ว กลับลืมตัวและยอมทิ้งสิ่งที่คนไทยให้ไปจนหมด กามินควรจะต้องขอโทษคนไทย และชี้แจงความจำเป็นที่ตัวเองจะต้องอยู่เกาหลีอย่างจริงใจ ซึ่งตนเชื่อว่าคนไทยย่อมต้องเข้าใจและยังคงสนับสนุนเธอต่อไปแน่ 

“ทำไมเธอไม่ขอโทษคนไทย ก็แค่พูดว่า ‘ขอโทษนะคะ โปรดเข้าใจฉันได้ไหม? ฉันเป็นคนเกาหลี ฉันอยากอยู่เกาหลี จะต้องอยู่เกาหลี ขอโทษนะคะ’ พูดแค่นี้ก็ได้ คนไทยก็เข้าใจใช่ไหม? คนไทยก็โอเค”

ทั้งนี้ เมื่อทุกครั้งที่พวกเขา (พี่เรือง-น้องนก) นั่งดูคลิปกามินด้วยกัน ก็นึกตั้งข้อสังเกตว่า หากกามินต้องการจะอยู่และใช้ชีวิตในประเทศไทยจริงๆ เธอก็น่าจะต้องพยายามทำตัวเองให้สนุกสนานและมีความสุขเวลาใช้ชีวิตอยู่ในไทย แต่ดูเหมือนเธอจะตั้งหน้าตั้งตาหาเงินตลอดเวลา

ท้ายสุด พี่เรือง ได้ทิ้งท้ายด้วยว่า เขาสงสารแน็กชาลี และเป็นกำลังใจให้ดาราหนุ่มก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้ ก่อนจะจบคลิปว่า "แน็กชาลี สู้ๆ นะครับ"

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ย. 67) ทางกามินได้มีการออกมาไลฟ์ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ที่เธอกลับเกาหลีกะทันหัน เพราะเป็นการตัดสินใจของชาลี และได้ตัดสินใจเลิกกันตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.67 แล้ว ที่เลือกมาทำงานในไทยเป็นเพราะความรักล้วนๆ พร้อมกับมั่นใจว่าไม่เคยดูถูกคนไทยว่าหลอกง่าย ไม่ได้หอบเงินหนี หากทำจริงเธอยอมเดินเข้าคุก อีกทั้งไม่ได้เป็นคนทำบ้านของชาลีไฟไหม้ และที่ให้แน็กจ่ายค่าปรับเพราะผิดสัญญางานจ้างก็ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าทุกอย่างระหว่างเธอกับแน็กชาลีจบลงด้วยดี

สุดท้ายไม่ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ก็ขอให้คนไทยติดตามกันด้วยวิจารณญาณ จะดีที่สุด...

ภรรยา 'ติ๊ก ชิโร่' เปิดภาพเก่าเก็บ บอกกาลเวลาพิสูจน์ทุกอย่างแล้ว

เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 67) ทำเอาหลาย ๆ คนสงสัย เมื่อ ‘อ้อ พรรทิรา นันทเสน’ ภรรยาของ ‘ติ๊ก ชิโร่’ หรือ ‘นัสวิน นันทเสน’ ได้ออกมาโพสต์ภาพของ ติ๊ก ชิโร่ พร้อมกับ ‘โน้ส อุดม แต้พานิช’ นักพูดชื่อดังในอดีต โดยระบุว่า... 

“วันนี้เคลียร์บ้าน เจอรูปนี้ มันนานมากแล้วนะ น่าจะ 26 หรือ 27 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นพี่มาหาพี่ติ๊กบ่อยมาก เชิญเราไปทุกเดี่ยวที่พี่จัด แต่วันเวลาผ่านไปคนเราก็เปลี่ยน อ้อเคยคิดว่าพี่รักเคารพพี่ติ๊ก แต่อ้อคงเข้าใจผิด เพราะตั้งแต่พี่เริ่มไปคบคนใหม่ ๆ (พวกที่มีกระแส หิวแสง) พี่ก็ลืมพวกเราอย่างสนิท พี่ไปร่วมงานวิ่งกับใครต่อใคร แต่เวลางานพี่ติ๊กพี่ไม่เคยมาเลย… อ้อเคยรู้สึกดี แอบเผลอพิมพ์หาพี่เล่าทุกข์สุขให้ฟัง เพราะในวงการอ้อก็ไม่มีใคร…ไม่เป็นไรกาลเวลาได้พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว… สวัสดี”

ทั้งยังว่า “จะเพื่อนใหม่เพื่อนเก่าไม่สำคัญ มันอยู่ที่ความต่อเนื่อง ไม่ทิ้งกันยามทุกข์หรือสุขจำไว้!!!” และว่า “พวกกะโหลกกะลา!!!”

หลังจากภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมาก ล่าสุด คุณอ้อ พรรทิรา ก็ได้โพสต์คอมเมนต์ ว่า...

"อ้อขอโทษพี่โน้ส และทุกคนด้วยนะคะ ยังไงอ้อรักพี่เสมอ อ้อแค่น้อยใจ"

แฟนคลับเศร้า!! สิ้น 'ป๋าโก๋ คาราบาว' มือกลองประจำวง เสียชีวิต ในวัย 50 ปี

เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก Carabao Official โพสต์ข้อความ แจ้งข่าวการเสียชีวิตของ ‘โก๋ คาราบาว’ มือกลองประจำวง โดยระบุว่า "ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณ ชวลิต ฉลองพงษ์ หรือ โก๋ คาราบาว ขอให้พี่โก๋เดินทางสู่ภพภูมิที่ดีครับ ด้วยรักและอาลัย" 

ขณะที่มีคนมาคอมเมนต์แสดงความไว้อาลัยจำนวนมาก

สำหรับ ‘โก๋ คาราบาว’ ชื่อจริง ‘ชวลิต ฉลอมพงษ์’ อายุ 50 ปี เป็นชาว จ.อุบลราชธานี โดย ‘โก๋ คาราบาว’ ได้เข้าร่วมวงคาราบาว ในอัลบั้มชุดที่ 11 วิชาแพะ เมื่อปี 2534 จนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ‘วงคาราบาว’ เป็นวงดนตรีเพลงเพื่อชีวิตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดวงหนึ่งของของประเทศไทย มีผลงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 จนถึงปัจจุบัน โดยมี ‘แอ๊ด ยืนยง โอภากุล’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้อง-นักประพันธ์เพลงไทยสากล) พ.ศ.2556 เป็นหัวหน้าวง

เปิดใจ!! 'น้าโย่ง-ครูโจ้' ความภูมิใจหลังได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ ลั่น!! ขออนุรักษ์-สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

(28 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายได้ว่า ตามที่ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ปี 2566 จำนวน 12 คน ดังนี้ 

สาขาทัศนศิลป์ 4 คน ได้แก่
1.ศ.เกียรติคุณกัญญา เจริญศุภกุล (สื่อผสม) 
2.นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล (สถาปัตยกรรมภายใน) 
3.ร้อยตรีทวี บูรณเขตต์ (ประณีตศิลป์-ช่างปั้น หล่อ) 
4.นายสุดสาคร ชายเสม (ประณีตศิลป์-เครื่องประกอบฉาก)

สาขาวรรณศิลป์ จำนวน 2 คน ได้แก่
1.นายประสาทพร ภูสุศิลป์ธร 
2.นายวศิน อินทสระ 

สาขาศิลปะการแสดง 6 คน ได้แก่ 
1.นายสมบัติ แก้วสุจริต (นาฏศิลป์ไทย-โขน ละคร) 
2.นายไชยยะ ทางมีศรี (ดนตรีไทย) 
3.นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) 
4.จ่าโทหญิง ปรียนันท์ สุนทรจามร (นักร้องเพลงไทยสากล-ลูกทุ่ง) 
5.นายสุธีศักดิ์ ภักดีเทวา (นาฏศิลป์สากล)
6.รศ.บรรจง โกศัลวัฒน์ (ภาพยนตร์) นั้น

นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา หรือ โย่ง เชิญยิ้ม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) กล่าวว่า รู้สึกดีใจสุด ๆ ไปเลย กับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ที่ผ่านมาพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะ ในส่วนของการเรียนรู้ และการแสดงเพลงฉ่อย ลิเก เป็นสิ่งที่ตนหัดเล่นตั้งแต่สมัยเป็นเด็กเล็ก ๆ และเมื่อเราเห็นคนดูมีความสุขกับการแสดง เราก็มีความสุขตามไปด้วย

ทั้งนี้ตนพร้อมและยินดี ที่จะช่วยธำรงรักษา และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้านตามที่ตนถนัด สู่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม วธ. ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ช่วยสังคม เพื่อที่จะทำให้มรดกอันล้ำค่าคงอยู่ ไม่สูญหาย ถือเป็นการอนุรักษ์ สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นรากเหง้าของชาติ ให้คงอยู่

ด้าน นายสุธีศักดิ์ ภักดีเทวา หรือครูโจ้ เดอะสตาร์ (นาฏศิลป์สากล) กล่าวว่า เมื่อได้ทราบข่าวก็หัวใจเต้นแรง และขอพูดตรง ๆ ว่ารู้สึกดีใจ และภูมิใจมาก เพราะการแสดงสาขานี้เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานนาฏศิลป์ไทย และตะวันตกให้สอดประสานเป็นวัฒนธรรม การได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นรางวัลของวงค์ตระกูล ภักดีเทวา ซึ่งตนอยากนำความรู้ในส่วนนี้ไปถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาเรียนรู้ นาฏศิลป์สากล ไม่ใช่แค่การเต้น ที่ปัจจุบันมีผู้สนใจจำนวนมาก แต่สิ่งที่ยากคือ ต้องสื่อให้เห็นว่า เป็นศาสตร์ที่มีตัวต้น เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

“ศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งศิลปินไทยสามารถปักธง และได้รับรางวัลในระดับนานาชาติจำนวนมาก ดังนั้น ผมอยากถ่ายทอด เพื่อสืบสานและต่อยอด ให้การแสดงของคนได้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น” ครูโจ้ กล่าว

'ชาวเน็ต' ไม่ขำ!! หลัง 'มาร์ช จุฑาวุฒิ' เตะช่อบูเก้ งานแต่งเพื่อน ทั้งที่เป็นคลิปคอนเทนต์หลังเลิกงาน และคุยกับ 'บ่าวสาว' ไว้แล้ว

(28 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ที่เตะช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวโยนลงมาจากเวที เพราะตั้งใจที่จะทำคอนเทนต์สนุก ๆ นั้น งานนี้ทำเอาชาวเน็ตไม่สนุกด้วย และเข้าไปคอมเมนต์ติการกระทำของเจ้าตัวกันมากมาย

งานนี้ทำเอา หนุ่มมาร์ช ต้องเข้ามาชี้แจงและขอโทษถึงการกระทำของตนเองในไอจีว่า...

"ในคลิปเป็นช่วง after party ครับผมช่วงที่งานเลิกแล้ว ช่อจริงโยนเสร็จเรียบร้อยในงานแล้วครับ จริง ๆได้คุยกับ บ่าวสาว ตั้งแต่ก่อนวันงานแล้วครับ ว่าจะถ่ายคอนเทนต์นี้กันแบบสนุก ๆ…

"(เพราะเพื่อน ๆ ที่สนิทที่ไม่ได้เจอกันแบบครบ ๆ มากันเยอะมาก เลยอยากมีอะไรถ่ายไว้) เจ้าสาวเป็นคนเตรียมดอกไม้ช่อนี้ให้เองครับ (ไม่ใช่ช่อจริง เป็นช่อสำหรับคอนเทนต์นี้ ช่อจริงวันนั้นสวยงามมากครับ)...

"คลิปเป็นเชิงตลกครับ ไม่อยากให้ซีเรียสครับ สื่อประมาณว่า ถ้าเป็นสาว ๆ จะแย่งกัน แต่พอเป็นแก๊งผู้ชาย (ในที่นี่หมายถึงกลุ่มพวกผม) ที่สนิทกันชอบสังสรรค์กันเลยวิ่งหนีช่อดอกไม้ครับ (ในคลิปเป็นการนัดแนะกันหมดแล้วครับ) บางคนในคลิปก็แต่งงานมีครอบครัวแล้วครับ มาถ่ายกันขำ ๆ ครับ แต่ถ้าคลิปนี้ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับใคร ผมเองต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ"

เปิดความคิดสุดเข้มแข็งจาก 'เบสท์ คำสิงห์' สาวเก่งที่เกิดมาเพื่อเคียงข้างทุกคนในครอบครัว

(26 ส.ค. 67) เพจ ‘หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ’ ได้โพสต์คำสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนของดาราสาวสวย ‘เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์’ ลูกสาวของ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่ได้เปิดใจในรายการ ‘Club Friday Show’ ว่า…

“..อยากบอกพ่อว่า ก็ใช้ชีวิตไปเลยค่ะ ให้มีความสุขในทุก ๆ วัน ไม่ต้องกลัวเลยว่าหนูจะไม่อยู่เคียงข้าง หนูจะเคียงข้างพ่ออย่างนี้แหล่ะ ไม่เป็นไร แล้วก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ โชคชะตามันกำหนดมาแล้ว เราก็ยอมรับแล้วก็สู้กับมัน…

“สำหรับน้องชาย ก็ขอให้เป็นเด็กดีค่ะ ตั้งใจเรียนแล้วก็ไม่ต้องคิดว่าโตขึ้นมาจะต้องหาเงินให้ได้เท่าเบสท์ คนเรามันอาจจะแบบหาได้ไม่เหมือนกัน อย่าไปกดดันตัวเองค่ะ อยากให้โบ๊ทมีความสุขใช้ชีวิตวัยรุ่นไปเลย เพราะว่าพี่ไม่เคยได้ใช้ แต่โบ๊ทได้ใช้มันแล้ว ใช้มันให้ดีที่สุด ไม่ต้องกดดันว่าจะต้องทำให้ได้แบบพี่ การที่โบ๊ทเป็นโบ๊ทมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปรียบเทียบ…

“สำหรับแม่ หนูว่าที่หนูเข้มแข็งมาทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะแม่ คือถ้าเกิดว่าแม่ไม่ได้เป็นคนบอกให้ย้ายบ้านให้เก็บเงิน หนูก็คงไม่ได้ประสบความสำเร็จ ถ้าแม่ไม่ได้ช่วยวางแผนชีวิต หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราต้องใช้เงินกี่บาทในแต่ละเดือน เรื่องผู้ชายก็เหมือนกัน ทำไมหนูถึงอดทนกับความรัก เพราะว่าแม่ก็อดทนกับพ่อเหมือนกัน และหนูก็เชื่อว่า สิ่งที่หนูคิดดีทำดีมาตลอด มันจะทำให้หนูมีความสุขและประสบความสําเร็จ แล้วก็ได้เจอความรักดี ๆ เจอคนดี ๆ…”

#เป็นเด็กที่มีความคิดอะไรได้ขนาดนี้

'พีเค' เผยจุดพีกงานพิธีกร แค่ชั่วโมงครึ่งได้ค่าตัว 1 แสนบาท พ้อ!! ไม่คิดอายุ 50 ปี ต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่ ลั่น!! ยังชอบทำงานที่สุด

(26 ก.ย. 67) 'พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร' ได้ออกมาเล่าถึงการทำงานพิธีกรและเผยจุดพีก ผ่าน Thairath Talk ระบุว่า...ทำงานแค่ 1 ชม.ครึ่ง ได้ค่าตัว 1 แสนบาท แต่ก่อนที่จะมีชื่อเสียงจากการเป็นดีเจ ก็เริ่มมีเงินจากงานอีเวนต์ โดยงานพิธีกรแรกคือเปิดตัวเหล้า ไม่มีค่าตัว ได้ค่าตัวเป็นเหล้า 1 ขวด มิกเซอร์ 2 ขวด

จากนั้นลูกค้าก็พูดกันปากต่อปาก จนค่าตัวเพิ่มจาก 5 พัน เป็น 1 แสนบาท โดยได้เงินเท่าไหร่ ก็เอาไปใช้จ่ายหมด ทั้งบ้าน รถ คอนโด จนถึงตอนนี้ที่ตนอายุ 50 ปี ที่ควรจะเป็นจุดสูงสุดในชีวิต กลับต้องมานั่งนับ 1 ใหม่ แต่โชคดีที่บ้าน รถ คอนโด ผ่อนหมดแล้ว และไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้สิน เพราะหากวันนี้ไม่ทำงานก็อยู่ได้ แต่ชีวิตตนชอบทำงานที่สุด

‘นาตาลี เดวิส’ เปิดใจ หลังตาม ‘สามีนักการทูต’ ไปใช้ชีวิตที่อเมริกานาน 3 ปี เผย!! ยังรักในการร้องเพลง ถ้ามีโอกาส พร้อมกลับไปจับไมค์

(25 ส.ค. 67) นาตาลี เดวิส เปิดใจครั้งแรก หลังตามสามีนักการทูตไปใช้ชีวิตที่อเมริกานาน 3 ปี ตอนนี้กลับมาเมืองไทยถาวร พร้อมควงลูก น้องเบน-น้องเนลลี่ เปิดตัวครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31

ใช่ค่ะ ย้ายกลับมาได้เดือนนิดๆ เหนื่อยค่ะ การเดินทางมันเหนื่อยอยู่แล้ว บินเองลำพังก็เหนื่อยแล้ว วันที่บิน มีนาตาลี สามี คุณยาย เด็กสองชีวิต แมวอีกสอง เหมือนคนบ้า โอ้โห อุปกรณ์เยอะมาก แต่ไม่งอแง อย่างเบนที่บินมาสองคนแม่ลูกเขาก็โอเคมาก บอกให้นั่งรอ เขาก็นั่งรออยู่กับที่ ไม่ได้งอแงอะไร เนลลี่ก็ไม่งอแงอะไร เลี้ยงง่ายทั้งสองคน

ย้ายมาถาวรค่ะ สามีหมดประจำการแล้ว เขาเป็นนักการทูตแล้วหมดประจำการ 3 ปี พอกลับมาก็จะมีคนอื่นจากกระทรวงไปแทน สลับๆ กันไป ตอนนี้ลังของที่บินมาพร้อมกับเรา กับที่ส่งเรือตามมาทีหลัง ก็มีแกะบ้างไม่แกะบ้าง เหนื่อย ไม่ไหว

มีอะไรต้องปรับตัวเหรอ เรื่องสภาพอากาศ อยู่ที่โน่นเย็นและแห้งกว่า วันแรกๆ ที่กลับมา เบนบอกว่าจั๊กกะแร้เหนียวหนึบไปหมด เพราะที่โน่นวิ่งยังไงก็ไม่มีเหงื่อ แต่ที่นี่มันร้อน แต่เขาก็เอ็นจอย วิ่งจนผมเปียก แก้มแดง เขาก็งงๆ เรื่องภาษา เพราะอยู่ที่โน่นเขาอยู่โรงเรียนแล้วประมาณครึ่งปี ก็เลือกใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อยู่ที่โน่นสภาพแวดล้อมเป็นภาษาอังกฤษหมด ก็เข้าใจ ตอนเด็กๆ เราก็เป็นเหมือนกัน บางทีคนไทยมาพูดภาษาอังกฤษกับเรา เราก็ตอบเป็นภาษาไทย เพราะดูจากผมสีดำ น่าจะเป็นวิธีการคิดของเด็กว่าเขาดูจากอะไร แต่ภาษาไทยเขาฟังรู้เรื่องหมด

ตอนนี้สามียังเป็นท่านทูตมั้ย คือทำมา 15-16 ปี ก็เพิ่งลาออกไม่ถึงเดือนค่ะ คนเราก็มีจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน นี่ก็อาจเป็นอีกช่วงเวลาของชีวิตเขา ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวดูว่ายังไง แต่หน้าที่หลังบ้านเราก็คอยซัปพอร์ตเขาเต็มที่ ให้เขาหายเหนื่อย มีเด็กๆ บันเทิงทั้งวัน

นอกจากนี้เมื่อถูกถามว่ามาอยู่ไทยถาวรแล้ว อย่างนี้จะมีโอกาสกลับมาร้องเพลงไหมนั้น เจ้าตัวยอมรับว่ายังรักในการร้องเพลงอยู่เสมอมา ถ้ามีโอกาสก็อาจจะได้เห็นกัน

‘เบลล่า’ โพสต์ข่าวดี ได้รับพระราชทาน ‘เครื่องราชอิสริยาภรณ์’ เผย!! ถือเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิต และวงศ์ตระกูล

(25 ส.ค. 67) เพราะเป็นผู้ให้เสมอมา สำหรับนางเอกชื่อดัง ‘เบลล่า ราณี แคมเปน’ ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ข่าวดี ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดอีกครั้งของชีวิตและวงศ์ตระกูล

นับเป็นเกียรติอันสูงสุดอีกครั้งของชีวิต ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ขอขอบพระคุณมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับโอกาสในครั้งนี้นะคะ 

จภ. ลำดับที่ 21 นางสาวราณี แคมเปน

ตามที่รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ด้วยความเสียสละของท่านในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘การให้’ ในกิจกรรม ระดมทุนของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ตามพันธกิจหลักเพื่อการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลนั้น

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ขอแสดงความยินดี ชื่นชม และยกย่องเชิดชูเกียรติท่านในฐานะบุคคล ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุข อันจะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของประชาชนทั่วทั้งประเทศ คุณงามความดีในน้ำใจ แห่ง ‘การให้’ ของท่านจะได้รับการจารึกไว้ตราบนานเท่านาน และส่งผลบุญให้ท่านและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ปราศจากสรรพโรคาพาธและอุปัทวันตรายทั้งปวง เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ตลอดกาลนาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top