Sunday, 16 June 2024
NEWS

‘น้องเลโอ’ นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ ประสบอุบัติเหตุ ต้องการเลือดกรุ๊ป ‘A Rh negative’ เร่งด่วน

‘น้องเลโอ’ นริศพล ไชยจรูญโชติ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง วัย 11 ขวบ สังกัดทีม แบงคอก ซุส ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะนี้อยู่ห้อง ICU ต้องการกรุ๊ปเลือด A rh negative ด่วน

ล่าสุด (10 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Nattaporn Chaijaroonchot’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 

“มีใครมีกรุ๊ปเลือด A rh negative บ้างคะ ขอให้ติดต่อ ที่ 081-8743371 ต้องการด่วนนะคะ เพราะเป็น กรุ๊ปพิเศษค่ะ ทาง รพ. กลัวมีไม่พอและค่อนข้างหายากค่ะ รบกวนด้วยนะคะ หรือ ติดต่อที่หนู 085-1629038 ค่ะ ต้องไปบริจาค ที่ สภากาดชาติไทยให้เด็กชาย นริศพล ไชยจรูญโชติค่ะ ตอนนี้น้องกำลังไป ที่ รพ.จุฬา นะคะ”

ชาวเน็ตแห่แชร์ ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่’ พูดถึงอาชีพ ‘แม่บ้าน-รายได้’ ชี้!! เป็นทัศนคติที่ดีมาก รับภาระแทนสามี ‘ทุกเรื่อง’

(9 มิ.ย.67) กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ ภายหลังนักร้องหนุ่มชื่อดัง ‘หนุ่ม กะลา’ ได้แจ้งทำการยื่นฟ้อง ‘จูน เพ็ญชุลี’ ภรรยา ในนามบริษัท กล่าวหาว่า ภรรยายักยอกเงินของบริษัทจำนวนเงินกว่า 66 ล้านบาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ล่าสุดทำเอาชาวเน็ตหลายคนต่างพากันแชร์โพสต์ข้อความของนักร้องหนุ่ม ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่’ เมื่อหลายปีก่อน ที่พูดถึงเรื่องรายได้ครอบครัว พร้อมทั้งชื่นชมทัศนคติดีมาก

โดย ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่’ ระบุว่า 

เมียผมไม่ได้ไม่มีรายได้ งานของเธอคืองานของผม งานของผมคืองานของเธอ เราเพียงแต่แบ่งหน้าที่กันทำงาน ผมเพียงแต่เป็นคนไปรับเงินมาในชื่อของผม แต่ผมจะไม่สามารถทำงานนั้น ๆ เต็มที่ได้เลยถ้าไม่มีอีกส่วนคอยดูแลที่บ้าน ลูก และชีวิตส่วนพักใจของผมทั้งหมด

งานของเธอไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาพักแน่นอน และน่าเบื่อยิ่งกว่างานออฟฟิศ โอกาสเจริญเติบโตในงานนี้คือเห็นทุกอย่างในบ้านเรียบร้อย เห็นลูกเติบโต แข็งแรง และมีโบนัสคือของที่เธออยากได้เพียงแค่นั้น

สามี ภรรยาคือร่างกายเดียวกัน วิ่งอาจเมื่อยที่ขา แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับเต้นแรง กินอาจอิ่มที่ท้อง แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับมีความสุข

ในวันที่ผมหาเงินมาได้ มันจึงเป็นเงินของเรา เพราะงานที่ทำนั้นคืองานของเรา การที่เธอทำอาชีพแม่บ้านไม่ได้หมายความว่าเธออยู่บ้านเฉย ๆ แต่มันคืออาชีพที่เธอรับภาระอีกส่วนแทนสามีอยู่ และวันนี้ในหัวใจผมมีทีมเวิร์กที่ดีจริง ๆ

‘มาดามแป้ง’ เยี่ยมช้างศึก เพื่อให้กำลังใจ ก่อนดวลสิงคโปร์

(9 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดินทางกลับจากยุโรป หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัว เป็นที่เรียบร้อย วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงเที่ยงวันนี้ จะเข้ามาให้กำลังใจ ทีมชาติไทย ทันที พร้อมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ก่อนเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 6

ทัพช้างศึก เพิ่งบุกไปเสมอกับ จีน 1-1 ทำให้ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบ คัดบอลโลก รอบ 3 หรือ รอบ 18 ทีมสุดท้าย ก่อนเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ ภายใต้เงื่อนไขต้องชนะเท่านั้น และ ลุ้นให้ จีน บุกไปแพ้ เกาหลีใต้ สถานเดียว พร้อมประตูได้เสียที่ ทีมชาติไทย ต้องดีกว่า

มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ช่วงเดินทางไป ยุโรป แป้ง ก็มีโอกาสพูดคุยกับทีมโค้ชอิชิอิ รวมถึง น้อง ๆ ทุกคนอยู่ตลอด และ ได้ดูเกมที่เราบุกไปเสมอ จีน 1-1 ซึ่งแม้ว่าจะเสียดายที่เราไม่ชนะ จากโอกาสที่มี แต่ 1 แต้มที่ได้ ก็สำคัญมาก และ ทุกคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสู้เต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศที่กดดันจากแฟนบอลจีน“

"แป้ง เพิ่งกลับมาถึงไทย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ และ อยากเข้ามาให้กำลังใจ มาเติมเต็มพลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน จะเห็นว่าบรรยากาศ และ สปิริตในทีมตอนนี้ ดีมาก สัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นของทุกคน ว่าเรายังมีโอกาสเข้ารอบ และ วันนี้ มื้อค่ำ แป้ง ก็ถือโอกาสเลี้ยงอาหารพิเศษทุกคนหลังซ้อมที่โรงแรม หวังว่าจะทำให้ทุกคนมีความสุข และ กิน อิ่ม หลับ นอนเต็มที่ ก่อนเกมสำคัญที่คนไทยทุกคนรอคอย“ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย จะลงสนามทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่ม ซี นัดที่ 6 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ HD32

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสังเกตการณ์สถานที่เลือก สว.ระดับอำเภอ 3 จุด พบการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เตรียมประเมินการเลือก สว.ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลการเลือก สว.ระดับจังหวัด ต่อไป 

วันนี้ (9 มิถุนายน 2567) เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสังเกตการณ์การรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของหน่วยเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ระดับอำเภอ ในสถานที่เลือก สว. พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งในวันนี้เป็นวันเลือก สว. ระดับอำเภอ โดยดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ

พล.ต.ท.กรไชยฯ ลงพื้นที่สถานที่เลือก สว. อำเภอเมืองนนทบุรี ณ อาคารสำนักงานเทศบาลนนทบุรี ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ชั้น 5 ซึ่งหน่วยนี้มีผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนมาก ใน จ.นนทบุรี มีผู้สมัครรับเลือก 608 คน  จากนั้นเดินทางไปยังสถานที่เลือก สว. อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ณ หอประชุมอาคาร 100 ปี เมืองธัญบุรี เทศบาลนครรังสิต ถ.รังสิต - นครนายก (คลอง 2) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหน่วยเลือกในปริมณฑลที่มีผู้สมัครจำนวนมากเช่นกัน จุดสุดท้ายได้ไปตรวจเยี่ยมที่สถานที่เลือก สว. เขตบางกะปิ ณ บริเวณโดม โรงเรียนบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอีกหน่วยที่มีผู้สมัครจำนวนมาก

พล.ต.ท.กรไชยฯ เปิดเผยว่า ทั้ง 3 สถานที่จัดการเลือก สว. ที่ลงไปตรวจสอบสังเกตการณ์เป็นหน่วยที่มีผู้สมัครจำนวนมาก พบว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับภาพรวมการเลือก สว.ระดับอำเภอ ทั้งประเทศ มีจำนวน 928 หน่วย มองว่าไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากไม่มีประชาชนจำนวนมากเข้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งเหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป มีการกั้นพื้นที่และห้ามนำอุปกรณ์สื่อสารเข้าไปในพื้นที่จัดการเลือก สว.อย่างเข้มงวด  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทุกสถานที่จัดการเลือก สว.ระดับอำเภอ ทั่วประเทศ ซึ่งใช้กำลังตำรวจทั้งหมดกว่า 17,000 นาย ในภารกิจรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และการเคลื่อนย้ายบัตร จากนี้หลังเสร็จสิ้นการเลือก สว.ระดับอำเภอ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะเป็นภารกิจการส่งบัตรเลือก สว. ระดับอำเภอ ไปยังสถานที่เก็บบัตรที่ กกต.กำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมดูแลความปลอดภัยการขนส่งหีบบัตรตลอดขั้นตอน 

นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบเรื่องการข่าวอย่างต่อเนื่อง และจะรับฟังรายงานผลจากทั่วประเทศ เพื่อนำมาประเมินและปรับแผนในการเลือก สว.ระดับจังหวัดและระดับประเทศต่อไป เน้นย้ำว่ามีการจับตาเรื่องการทุจริตกฎหมายเลือกตั้งอย่างเข้มงวด มีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ กกต.จัดไว้รองรับ หากพบการทุจริตและมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้การเลือก สว.ทุกระดับ เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม

‘สุวัจน์’ รุดพิสูจน์โครงกระดูกคนโบราณ  เพื่อชี้!! โคราชเป็นชุมชนนานถึง 2,000 ปี

(9 มิ.ย.67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย นายแพทย์วรรณ ชาญนุกูล สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครราชสีมา รศ.ดร. อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ผศ. ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโคราช ได้เดินทางมาที่จุดบริเวณขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ อายุ 2,000 ปี ซึ่งอยู่บริเวณพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ คูเมืองด้านตะวันออก ถ.อัษฎางค์ ตัด ถ.พลล้าน เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา (เดิมเป็นอาคารสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (สคพ.11 นม.)

นายสุวัจน์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากทางท่านนายกเทศมนตรีนครราชสีมา อยู่ระหว่างการปรับปรุงภูมิทัศน์ของคูเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งสันทนาการให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราช จึงได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรในการเข้ามาบูรณะทางคูเมืองเก่าและกําแพงเมืองต่างๆ ก็ได้มีการขุดดินฐานราก ปรากฏว่ามาเจอโครงกระดูก พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่กับโครงกระดูก อาทิ เครื่องปั้นดินเผา เศษกระเบื้อง กระดูกสัตว์ หรือเครืองเหล็ก อะไรต่างๆ ซึ่งเนื้อของถ้วย ชาม ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปกร บอกว่าอายุประมาณ 2,000 ปี ถือเป็นถ้วย ชาม ยุคพิมายดำ และสิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถที่จะสะท้อนถึงความเก่าแก่ของชุมชน

ล่าสุดวันนี้ พบโครงกระดูกที่ 3 อยู่ใกล้กับโครงกระดูกที่ 1 ซึ่งเป็นเพศชาย สูง 173 ซม.โครงกระดูกที่ 3 เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ วิเคราะห์ว่าเป็นเพศหญิง เพราะพบเครื่องประดับเป็นต่างหูทองคำ พบแหวนทองที่นิ้ว พบสร้อยหิน อายุประมาณ 2,000 ปี แต่เมืองโคราช 556 ปี แต่การที่มีการค้นพบทั้งโครงกระดูกทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่มากกว่านี้ ก็อาจจะต้องมีการศึกษาค้นคว้ามากกว่านี้ แสดงว่าที่นี้เดิมที่มีชุมชน มีประชาชนที่อยู่เป็นพื้นฐานของบริเวณเหล่านี้ ก่อนที่จะมาสร้างเมืองโคราช อาจจะอยู่กันมาเป็นพันปีแล้วก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมศิลป์กับทางเทศบาลฯ และมหาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งทําเรื่องฟอสซิล ทําเรื่องอุทยานธรณีโลก จะต้องช่วยกันมาวิเคราะห์ในเรื่องของรายละเอียดต่างๆ ประวัติศาสตร์ต่างๆ ว่าเจอแหล่งโบราณอย่างนี้ เจอกระดูกโบราณ เจออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ สามารถที่จะพัฒนาอะไรที่เป็นสิ่งที่จะเรียนรู้ ถึงอดีตก่อนที่จะเกิดเมืองโคราชในบริเวณเหล่านี้ได้อย่างไร หรือ มีบางคนเสนอว่าควรจะมีเป็นมิวเซียมที่จะบ่งบอกถึงประวัติของชุมชนที่จะสืบสานถึงประวัติศาสตร์ของคนโคราช

เพราะฉะนั้น ท่านนายกเทศมนตรีฯ กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยอาจารย์ประเทือง จะได้ร่วมกันในการที่จะมาศึกษาต่อถึงแนวทางการดําเนินการที่จะศึกษาและเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไป 

'น้าเดช' มองปรากฏการณ์ค่ายรถยนต์ทยอยปิดโรงงาน ผลกระทบจากแรงส่งเสริมการลงทุนที่ไม่สมดุล เริ่มออกฤทธิ์

ไม่นานมานี้ 'น้าเดช' นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ สื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

สิ่งที่ผมจะแสดงความเห็นต่อไปนี้ ผมอยากให้คนที่เข้ามาอ่าน วางความรักความชังทางการเมืองออกไปก่อน อ่านแล้วค่อยๆ ทำความเข้าใจ ค่อยๆ คิด อย่าใช้อารมณ์มาต่อว่าด่าทอผม ยิ่งถ้าคุณรู้ว่าผมอยู่ฝ่ายไหน คุณยิ่งต้องคิดนานๆ ก่อนจะมาด่าผม

เรื่องบริษัทรถยนต์ทยอยปิดโรงงานนั้น ผมแสดงความเห็นมานานแล้วว่า 'รัฐบาล' ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา คิดสั้น เชื่อมุมมองของข้าราชการที่คิดตามกระแสมากเกินไป คิดตามโลกแบบไฟไหม้ฟาง ผมไม่ได้บอกว่าคิดผิดนะครับ ผมแค่บอกว่าคิดตื้นเกินไปเท่านั้น

ผมเตือนหลายครั้งแล้วว่า การ 'ให้แต้มต่อ' กับผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้านั้น ให้คิดให้ดี ต้องสร้างสมดุลให้เท่าเทียมกัน เพราะโลกนี้ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นรถไฟฟ้า โลกนี้บอกเพียงแค่ว่าต้องลดมลพิษจากรถยนต์เท่านั้น หมายถึงลดมลพิษตั้งแต่เกิดจนตาย คือตั้งแต่เริ่มผลิตชิ้นส่วนแรก จนหมดสภาพไปจากโลกใบนี้

ผมบอกมาตลอดว่า การให้การสนับสนุน และส่งเสริมการลงทุนต้องมีขีดจำกัด จะเห็นได้ว่ามีเงินช่วยเหลือคันละเป็นแสนบาท แต่เขาสามารถลดราคาขายลงได้คันละกว่าสองแสนบาท แสดงว่าถ้าไม่ให้ส่วนลดตรงนี้ เขาก็ขายได้อยู่ดี

ผมบอกมาตลอดว่า การส่งเสริมการลงทุน ต้องคิดให้ดีว่าเท่าไหร่จึงจะพอ ไม่ใช่ถ่างขาอ้าซ่า ใครแข็งมาก็ถลกกางเกงเข้ามาเสียบจึกๆๆๆ แล้วก็ไป เพราะการส่งเสริมแบบ 'ไม่อั้น' เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ลองคิดดูนะครับว่าอีกห้าปีข้างหน้า แต่ละยี่ห้อจะตั้งโรงงานแล้วขายได้ยี่ห้อละเท่าไหร่ ถ้าลงทุนตั้งโรงงาน แล้วขายได้เท่าที่รถสันดาปที่ประกาศปิดตัวขายได้ ผู้ผลิตเหล่านั้นจะอยู่ได้ไหม และถ้าเขาม้วนเสื่อเก็บกระเป๋ากลับบ้าน จะมีปัญญาไปตามปรับเขาหรือไม่ คนที่อนุญาตจะรับผิดชอบอย่างไร

มันต้องมีการคำนวณว่า ส่งเสริมกี่โรงงาน จึงจะสมน้ำสมเนื้อกับตลาดบ้านเราและตลาดโลก ถ้ามาหลังจากจำนวนที่คิดเอาไว้ ก็ต้องลดการสนับสนุนลงไป 

แล้วเคยคิดกันบ้างไหมว่า บริษัทที่เข้ามานั้น เขามีลูกเล่นกันอย่างไร ในอดีตนั้นถ้าเข้ามาในนามบริษัทโตโฮมอเตอร์ จะผลิตรถยนต์รุ่นไหนก็ภายใต้โตโฮมอเตอร์ แต่ปัจจุบันนี้ บริษัทกำแพงใหญ่เข้ามาผลิตรถ เขาบอกว่า แมวน่ารัก เป็นยี่ห้อ ไม่ใช่เป็นรุ่นของยี่ห้อกำแพงใหญ่ ถัง ก็เป็นยี่ห้อ ไม่ใช่รุ่นของกำแพงใหญ่ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลา เขาก็จะเลิกยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ไม่ใช่เลิกทั้งยี่ห้อใหญ่ ทุกรายที่เข้ามาทีหลังก็เป็นอย่างนี้กันหมด

ที่สำคัญคือ พวกที่เข้ามาใหม่นั้น ขนเอาผู้ผลิตชิ้นส่วนของตัวติดมาด้วย ไม่ได้สร้างอะไรในประเทศไทยเลย

ส่วนคนที่บอกว่าเป็นผลดีต่อผู้บริโภคนั้น ผมถามจริงๆ ว่า ท้ายที่สุดถ้าเขาประกาศเก็บกระเป๋าลงเรือกลับซัวเถา คนที่ซื้อรถของเขาใช้ จะตกอยู่ในสภาพอย่างไร เพราะทุกวันนี้ยังด่ากันระงมท้องทุ่ง

ผมยืนยันว่าการส่งเสริมการลงทุนยังจำเป็น แต่ต้องมีขีดจำกัดที่เหมาะสม ต้องสร้างสมดุลให้ดี เพราะทุกวันนี้แม้แต่ในประเทศจีนเอง ก็แทบจะไม่ได้เรียกว่ารถยนต์ไฟฟ้า EV แล้ว แต่เปลี่ยนมาเรียกเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ NEV New Energy Vehicle แทนที่แล้ว

ผมพูด ผมตะโกน ผมเรียกร้องมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว พูดตรงๆ คือรัฐบาลลุงตู่ ว่าให้ระวัง แต่กองเชียร์พากันบอกว่า โลกเปลี่ยนไปแล้ว หมดยุครถยนต์สันดาปแล้ว เราต้องเร่งเปลี่ยนเพื่อเป็น 'ฮับ' คือเป็นฮับสำหรับผู้ผลิตที่เจ๊งจากประเทศของตัวเองหรืออย่างไรก็ไม่รู้ กองเชียร์หันมาด่าผมกันขรม ว่าผมหาแดกกับรถยนต์ญี่ปุ่น หาแดกกับรถยนต์ใช้น้ำมัน ทั้งที่ผมพยายามเตือนรัฐบาลลุงตู่ของพวกเขาว่า อย่าไปหลงเชื่อที่ฝ่ายข้าราชการใต้กะลาชงมามากนัก แต่ผมกลับถูกด่า ผลจึงตามมาที่วันนี้ และยังจะมีตามมาวันหน้าอีก ไม่เว้นแม้แต่ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับการสนับสนุน ภายใต้ข้อกำหนดว่า “พรุ่งนี้มึงต้องตั้งโรงงงานในประเทศไทยนะ” ผมเดาว่าจะมีม้วนเสื่อกลับไปโดยไม่ตั้งโรงงานอย่างน้อยสามยี่ห้อ ภายในปี พ.ศ.๒๕๗๐ ถ้าผมเดาผิด ถึงวันนั้นผมจะยอมเป็นคนแก่ครับ ๕๕๕๕๕๕๕

ส่วนที่บอกว่าวันนี้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายได้ ลองคิดดูว่าถ้าพรุ่งนี้ผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อที่คุณซื้อมาประกาศว่า “กูเลิก” ราคารถของคุณจะตกไปเท่าไหร่ และคุณจะหาศูนย์บริการและอะไหล่จากไหน คิดเล่นๆ ดูก็ได้ครับ #เพจนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ #อ่านเอาเล่นอย่าอ่านเอาเรื่องนะจ๊ะ #ซื้อรถต้องมาไบเทค๓ถีง๗กรกฎาคมชมฟรีมีชิงโชคและแจกของรางวัล #งานขายรถใหม่ป้ายแดงรถมือสองมีรับประกัน #รถใหม่ป้ายแดงรถไฟฟ้ามีให้ลองรถมือสองมีรับประกัน #ฟาสท์ออโต้โชว์ครั้งที่๑๒ #รักดอกจึงบอกมาแต่ถ้าโกรธกันก็ไม่ว่านะจ๊ะ

ปล. ผมยังยืนยันความคิดผมว่า รถยนต์ไฟฟ้าควรได้รับการสนับสนุน 'ที่เหมาะสม' และอยู่ในระดับ 'จำกัดจำนวน' นะครับ ผมไม่ได้ค้านหัวชนฝานะครับ เข้าใจตรงกันนะครับ

'รางรถไฟ' ขนส่งหลักของไทยตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มรดกความเจริญจาก 'รัชกาลที่ 5' ส่งไทยเป็นไทยได้เท่าทุกวันนี้!!

(9 มิ.ย.67) นายยุทธยงศ์ ลิ้มเลิศวาที สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อควาผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เส้นทางรถไฟสายใต้จากกรุงเทพไปสถานีบัตเตอร์เวิร์ทรัฐปีนังของประเทศมาเลเซีย ต้องผ่านหน้าบ้านผมคืออำเภอนาบอน 

สะพานเหล็กที่เห็นอายุมากแล้ว ก่อนที่ประเทศไทยจะมีถนนเพชรเกษมสะดวกสบายทุกวันนี้ รางรถไฟเป็นโลจิสติกส์ขนส่งหลักของประเทศตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเชื่อมร้อยรัฐสยามให้เป็นหนึ่งเดียว 

ผู้คนคงตั้งคำถามว่า เหล็กรางรถไฟ สะพานเหล็ก ยุคนั้นรัฐสยามเอามาจากไหน? เราผลิตเองไม่ได้?

รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งซื้อทั้งหมดมาจากอังกฤษ ล่องเรือขนมาที่ท่าเรือสิงคโปร์ และเข้ามาทางท่าเรือกันตัง จ.ตรัง ปูนซีเมนต์เหล็กรางรถไฟ สะพานเหล็กที่เห็น ต้องใช้ช้าง เรือ ขนผ่านป่าดงพงไพร เพื่อมาให้กุลีชาวจีน และวิศวกรยุโรป นำมาวางสร้างเป็นทางรถไฟตราบเท่าทุกวันนี้ 

การใช้ช้าง ใช้ม้า ใช้เรือขนเหล็กวัสดุสร้างระบบรถไฟขึ้นในรัฐสยามนั้น คิดย้อนไปมันไม่ง่ายเลยกว่าเราจะมีประเทศไทยเท่าทุกวันนี้!!!

‘รฟท.’ เปิดเส้นทางเดินรถไฟ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์– เวียงจันทน์’ เพื่อ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งเสริมการท่องเที่ยว-ยกระดับโลจิสติกส์’

(8 มิ.ย.67) นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5-8 มิถุนายน 2567 ตนได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทยเดินทางไปร่วมประชุมกับ Mr.DaochindaSIHARATH Managing Director of LAO NATIONAL RAILWAYS (รัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ที่มีกำหนดเปิดให้บริการเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้

ซึ่งจะเป็นการขยายความร่วมมือในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน และขนส่งสินค้าของทั้งสองประเทศ ตลอดจนยกระดับระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตามนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาล

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเดินทางไปร่วมประชุมฯ ครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เป็นไปตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้การรถไฟฯ มีการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในทุกด้าน ๆ ก่อนที่จะมีเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ ในการหารือระหว่างการรถไฟฯ กับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวได้มุ่งเน้นประเด็นหารือใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 

1.แผนการเปิดเดินรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี –หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) รวมถึง แผนการทดลองเดินรถเสมือนจริง ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 13 -14 กรกฎาคม 2567

2.แผนพัฒนาตลาดด้านการท่องเที่ยว 

3.แผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 

4. การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าระหว่าง ไทย – ลาว- จีน 

โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อหารือด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดน/ผ่านแดนระหว่างประเทศ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ให้ความช่วยเหลือในการให้ความรู้ในการฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวในด้านปฏิบัติการเดินรถมาโดยตลอด ทั้งด้านพนักงานขับรถ พนักงานสถานี และพนักงานขายตั๋ว

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้ร่วมมือกันทำการทดลองและทดสอบการเดินขบวนรถไฟระหว่างสถานีอุดรธานี-สถานีหนองคาย-สถานีท่านาแล้ง-สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 โดยผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคในการเดินรถใดๆ

นายเอกรัช กล่าวว่า การเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี – หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ จากปัจจุบันที่สามารถเปิดเดินรถถึงสถานีท่านาแล้ง (สปป. ลาว) และเมื่อสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบจนถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) จะก่อให้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวอย่างมหาศาล

โดยสามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่น ซึ่งเป็นการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และ โลจิสติกส์ของภูมิภาคอีกด้วย

‘ด.ช.ระ-รัน-รอน’ นักเรียนชั้นป.2 เจ้าของชื่อสุดแปลกที่แปลว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก’ เผย!! ภูมิใจในชื่อนี้ เพราะแม่ตั้งให้ก่อนจะเสียชีวิต ชี้!! มีความหมายที่ดีมาก

(8 มิ.ย.67) ที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง มีเด็กชายอายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้นป.2 มีชื่อที่แปลกกว่าคนอื่น ๆ จนคุณครู นักเรียนและผู้ที่พบเห็น ต่างพากันพยายามสะกดตาม แต่หลายคนก็อ่านชื่อน้องไม่ออก ซึ่งชื่อของน้องคือ ด.ช รรรรรร พระคง (น้องอาซิม) ที่เขียนด้วยพยัญชนะ ร.เรือติดกันถึง 6 ตัว โดย น.สนุชรี ลีลาวรกุล อดีตครูประจำชั้นป.1 ของน้องอาซิม อ่านให้ฟังว่า น้องชื่อ ด.ช ระ-รัน-รอน ซึ่งแปลว่าบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว โดยชื่อ รรรรรร (ระรันรอน) ถ้าเป็น ร.เรือตัวเดียวอ่านว่า ระ, ร.เรือ 2 ตัวอ่านว่า รัน, ร.เรือ 3 ตัวอ่านว่ารอน

ซึ่งคุณแม่ของน้องอาซิม เป็นคนตั้งให้ ทำให้น้องเป็นที่รู้จักของทุกคนที่พบเห็น ซึ่งต่างฮือฮากับชื่อของน้องมาก แต่ตอนนี้คุณแม่ของน้องเสียชีวิตแล้ว น้องจึงอยู่กับคุณย่า และขาดเรียนบ่อยเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่เวลามาโรงเรียนก็จะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนาน เป็นเด็กตั้งใจเรียน เข้ากับเพื่อนได้ดี และเป็นที่รักของคุณครูทุกคนในโรงเรียน ขณะที่อดีตครูประจำชั้นป.1 ยอมรับว่า ตนเป็นครูสอนนักเรียนทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่เพิ่งพบนักเรียนชื่อแปลก แบบนี้เป็นคนแรกในชีวิต

โดยน้องอาซิมฝันโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ เพื่อจะได้ปราบโจรผู้ร้าย และไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อ เพราะเป็นชื่อที่คุณแม่ตั้งให้ เห็นว่าแปลกดี ความหมายดี แม้จะอ่านยาก จนเพื่อน ๆ พากันขำขัน และตนต้องเป็นคนอ่านและแปลให้ แต่ก็ภูมิใจกับชื่อ ‘รรรรรร’ มาก ซึ่งที่โรงเรียนก็ไม่มีใครมีชื่อที่แปลกเหมือนกับตน

น.ส นุชรี ลีลาวรกุล อดีตคุณครูประจำชั้นป.1 กล่าวว่า ถ้าเพื่อน ๆ เห็นก็จะ ร.เรือ 6 ตัว เพื่อนอ่านไม่ออกว่าชื่ออะไร ระรันรอนจึงต้องเป็นคนตอบว่าชื่อ ระรันรอน แม่เขาเป็นตั้งไว้ให้ ส่วนคุณครูที่เข้ามาใหม่ตอนแรกเห็นปุ๊บ ตอนอยู่ป.1 ก็ถามว่าชื่ออะไร เพราะสามารถอ่านได้ 2 แบบคือ รอนระรัน หรือระรันรอน แต่พอถามเขา เขาบอกว่าชื่อระรันรอน ส่วนตนเพิ่งเคยเจอลูกศิษย์ชื่อแปลกคนนี้คนแรก เขียนชื่อได้เร็ว เพราะ ร.เรือทั้งนั้น

ส่วนชื่อเล่นชื่อน้องอาซิม มีความฝันอยากจะเป็นตำรวจ เพราะจะได้ช่วยเหลือผู้คน ผลไม้ชอบกินแอปเปิ้ล กับข้าวชอบกินผัดกะเพราไข่ดาว ซึ่ง ด.ช ระรันรอน มาเรียนที่นี่ตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 จนขั้นป.1 และเพิ่งเปิดเทอมป.2 ได้ 3 สัปดาห์ นิสัยเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด น่ารักไม่เกเร เรียนอยู่ลำดับกลาง ๆของห้องเพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ป่วยบ่อยเลยไม่ค่อยได้มาโรงเรียนทุกวันเหมือนคนอื่น

‘น้องเอิร์ท’ บัณฑิตใหม่จาก ‘ราชมงคลธัญบุรี’ กราบแทบตัก ป้าเจ้าของวิน ขอบคุณที่ให้ยืม ‘เสื้อวินมอเตอร์ไซค์’ แบบฟรีๆ ขี่ส่งตัวเอง จนเรียนจบปริญญา

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘สตาร์วาไรตี้’ ได้โพสต์เรื่องราวดีๆ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ บัณฑิตใหม่ป้ายแดงจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีใจความว่า ...

ขอชื่นชม ‘บัณฑิตหนุ่ม’ ไม่เคยลืมบุญคุณ กราบแทบตักป้าเจ้าของวิน ขอบคุณที่ให้ยืมเสื้อขับหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี

ถือเป็นโมเมนต์ซึ้งใจของ ‘นายธนาคาร ทองสุข’ หรือ ‘น้องเอิร์ท’ บัณฑิตใหม่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ก้มกราบแทบตักขอบคุณคุณป้าเจ้าของวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณเมตตาให้ยืมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์แบบฟรี ๆ เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างหารายได้ระหว่างเรียน

ในที่สุดก็สามารถส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี

ขอบคุณเรื่องราว : วิรัช โหตระไวศยะ

‘เศรษฐา’ เปิด ‘เมืองน่าเที่ยว’ เร่งเดินหน้าอย่างเต็มสูบ เพื่อผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลาง การท่องเที่ยวของโลก

(8 มิ.ย.67) ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สวมเสื้อลายช้าง เป็นประธานพิธีเปิดงาน ‘เปิดเมืองน่าเที่ยว’ พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และคณะ

นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดเมืองน่าเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก IGNITE THAILAND ของรัฐบาล เพื่อคืบคลานไปสู่จุดมุ่งหมายหลักให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก เราทราบกันดีอยู่แล้วประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวในหลายๆ โพลหลายสำนักบอกเรามีจุดแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม อาหารการกิน เกาะที่มีความสวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งเป็นจุดขายหลักของไทยและวันนี้เรามาอยู่จังหวัดเชียงใหม่หรือเป็นเมืองหลวงใหญ่ของการที่เรามีวัฒนธรรม ประเพณี ดีงามมาโดยตลอด ในอดีตเชื่อว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วก่อนที่จะมีโควิด 19 การท่องเที่ยวเป็นธงเรือใหญ่ แต่เหตุการณ์ที่ไม่พึงเกิดขึ้นคือโควิด 19 ทำให้มีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวสะดุดมาโดยตลอด แต่รัฐบาลนี้โดยเฉพาะภายใต้การนำของ นายเสริมศักดิ์ ตระหนักดีถึงความสำคัญที่จะต้องมาช่วยปลุกตลาดการท่องเที่ยวขึ้นมา โดยเรามี 5 กลยุทธ์ ซึ่งคิดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

“การท่องเที่ยวของไทยจะเดินหน้าไปอย่างเต็มสูบไม่ใช่มีสถานที่ดีอย่างตลาดจริงใจหรือมีนิทรรศการต่างๆ หรือมีคอนเสิร์ตเฟสติวัลระดับโลกมาเล่นอย่างเดียว การที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตั้งแต่ก้าวแรกเหยียบแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายการบิน ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพง ฉะนั้นการท่องเที่ยวก็ลดน้อยลง รัฐบาลให้ความตระหนักดีถึงเรื่องนี้ พยายามลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง วิธีการเข้าเมืองต้องสะดวกสบาย ไม่ใช่เข้ามาถึงแล้วติดอยู่ที่ตรวจคนเข้าเมืองระยะเวลานาน เรื่องนี้เราดูตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ และผมจะเดินทางไปจังหวัดลำพูน ลำปาง ดูการท่องเที่ยวเชิงอารยธรรมศิลปะสร้างสรรค์ และวิถีชีวิตเรามา Kick Off กันตรงนี้ไม่ใช่แค่ภาคเหนืออย่างเดียว ภาคใต้เราก็จะไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และภาคอีสานเรื่องของวัฒนธรรมพื้นเมืองของแต่ละภูมิภาค เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ“ นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่าความมุ่งมั่นของรัฐบาลจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใน ห่วงโซ่การท่องเที่ยวมีรายได้ที่ดีขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นการคิดใหญ่ และจะทำอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกท่านร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทการท่องเที่ยว สุขทันทีที่เที่ยวไทย สร้างความทรงจำที่ประทับใจอย่างไม่รู้ลืมตลอดไป

จากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมตลาดจริงใจมาร์เก็ต นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมี สส.เพื่อไทย นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง นายทรงยศ รามสูต สส.น่าน นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่

หลังรับฟังรายงานสรุปการท่องเที่ยวจากผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วที่ผู้ว่าฯเชียงใหม่รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าช่วงก่อนโควิด ระยะเวลาการอยู่ยาวขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนตัวอยากให้อยู่นานขึ้นอีก จ.เชียงใหม่ เด่นด้านวัฒนธรรม ประเพณี เครื่องเขินเครื่องเงิน ต่างๆ เชื่อว่าเราเด่นชัดอยู่แล้ว แต่ในช่วง 7-8 เดือนเปลี่ยนไปเยอะ สนามกอล์ฟเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ เรามีหลายสนาม ฝากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ไปดูตรงนี้ด้วย รวมถึงการไปมาหาสู่เป็นเรื่องที่สำคัญ อยากให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง AOT Airline ต่างๆ ถ้ามีการเข้ามาจากนักท่องเที่ยวประเทศนั้นๆอาจจะเพิ่มสล็อตการบินเข้าประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดเวลาเขาเข้ามาแล้วต้องได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วย จึงขอฝากไว้มีฝ่ายความมั่นคงเข้ามาประชุมครั้งนี้ ขอเน้นย้ำตรงนี้ให้ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กีฬาปีนเขาที่มีการเสนอ เพราะมีคนนิยมชมชอบสูงมาก ตรงนี้เห็นด้วยและเข้าใจว่าเวลานักท่องเที่ยวมาครั้งหนึ่งนานมาก นอกจากนี้ยังมีที่จ.ราชบุรีอีก ที่ตนไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เขางูก็สามารถทำให้เป็นที่ปีนเขาได้ ทีมงานกำลังทำอยู่ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แต่ในส่วนของเชียงใหม่ ผู้ว่าฯบอกว่าอยู่ในความดูแลและความรับผิดชอบสามารถที่จะเปิดใหม่ได้ ก็ขอให้ดำเนินการตรงนี้ด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เป็นที่สงสัย จ.ลำพูนมีศักยภาพสูง เข้าใจที่เสนอมาที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนเยอะมาก อัตลักษณ์ วัฒนธรรม มีความโดดเด่น เรื่องของการไปมาหาสู่เราชัดเจน มีสนามบินที่เชียงใหม่ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับและต้องมาดูมหภาพใหญ่ของเศรษฐกิจว่าจริงๆแล้วผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของจังหวัดอยู่ต่ำมาก และตกลงเรื่อยๆ คนก็ย้ายออกเยอะ กลายเป็นเมืองมีแต่คนแก่เหมือนไม่มีชีวิตชีวา ต้องย้ำว่าตรงนี้คือปัญหาใหญ่ของจ.ลำพูน แต่ข้อดีเรามีศักยภาพสูง อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง เชื่อว่าวันนี้หลังจากไปดูพื้นที่พบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานของตนได้ทำการบ้านมา จะมีการเสนออะไร หลายๆอย่างสามารถปรับโฉมจ.ลำพูนให้เป็นเมืองน่าเที่ยวได้ ซึ่งอาจจะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อาจต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายอย่าง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีทางออกมาเสนอกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจังหวัดลำปาง ว่า มีศักยภาพสูงแต่เรื่องถนนที่ขอมา ได้มีการพูดคุยแล้วอยู่ในงบฯปี 68 และ 69 ซึ่งเสร็จแน่นอน และขอสนับสนุนให้ฟื้นกิจกรรมสารถีรถม้า ส่วนจ.แพร่ เป็นเมืองเสริมไม่ใช่มาแข่งขันกัน แต่พูดว่าเมืองรองเป็นการได้ค่า ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวดีกว่า ดูแล้วมีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ดี ตรงนี้ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะที่ จ.น่าน ตนสนับสนุนเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็พยายามจะผลักดันควบคู่กับการอัปเกรดสนามบินให้สามารถบินได้ในเวลากลางคืน เป็นเมืองคู่แฝดหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวจะได้มาจากหลวงพระบางและทางเมืองน่านด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญนโยบายหลักของรัฐบาลอยากให้คนมาเที่ยวจากลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ถ้า จ.น่านเป็นมรดกโลกได้ อย่างอื่นก็จะตามมา โดยเฉพาะสนามบินที่ต้องการให้เป็น International ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป อาจจะขอให้ทีมงานสั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงวัฒนธรรม ผลักดันให้จ.น่านเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งเชื่อว่านายเสริมศักดิ์ได้เดินเรื่องไว้แล้ว

“อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกหนึ่งขับเคลื่อนและเป็นตัวกลางในการประสานทุกฝ่ายทำงานขับเคลื่อนข้าราชการและส่วนต่างๆ พร้อมฝากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งอบจ. ก็เป็นส่วนสำคัญอยากให้มีการประสานงานให้ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ เผย ไม่ได้ชกมวยมาเกือบปี เพราะ ‘มือขยับไม่ได้’ พร้อมระบาย!! ‘ท้อมาก-รู้สึกกดดัน’ หากแพ้ คงไม่มีที่ยืนบนเวทีอีกต่อไป

(8 มิ.ย.67) ศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 คู่ไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจ เป็นการกลับมาขึ้นชกในรอบ 9 เดือนของ ‘ดิไอรอนแมน’ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ราชันมวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) ลงดวลกับ เดนิส พูริช ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ในพิธีชั่งน้ำหนัก รถถัง จิตรเมืองนนท์ ทำน้ำหนักไม่ได้ตามกำหนด เกิน 3.5 ปอนด์ ก่อนจะมีการเจรจากันซึ่งรถถัง ออกมาขอโทษ และยอมจ่ายค่าชดเชยให้กับ เดนิส เพื่อชกกันในพิกัด แคตช์เวต หรือ 141.25 ปอนด์ ตามกติกาคิกบ็อกซิ่ง

เริ่มชกยกแรก รถถัง ที่สปีดหมัดดีกว่า สาดอาวุธเข้าใส่ พูริช แบบไม่ยั้ง ทำให้ พูริช เริ่มมีรอยแตกที่บริเวณแก้ม และโงนเงนในช่วงท้ายยก ซึ่ง รถถัง เห็นดังนั้นก็พยายามเร่งเครื่องปิดเกม แต่สุดท้ายมีเสียงระฆังช่วยไว้ก่อน

เข้าสู่ยกสอง รถถัง ยังเดินหน้าออกหมัดบวกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ขณะ พูริช เองก็ปักหลักสู้ไม่ถอยเช่นกัน ทำให้จบยกนี้ทั้งคู่แลกกันสนุก

ต่อที่ยกสามทั้งคู่ยังเดินหน้าแลกกันสนุก โดยรถถัง งัดอาวุธมาประเคนใส่ พูริช แบบครบเครื่อง ทั้งตัดลำตัว และใบหน้า ก่อนจะครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชนะคะแนนไปแบบสะใจ

หลังการชก รถถัง ได้ร่ำไห้ พร้อมระบายเกี่ยวประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องน้ำหนักเกิน ว่า 

“ก่อนอื่นผมขอระบาย ผมไม่ได้ชกมวยมาเกือบปี น้ำหนักผมก็เกินมาเยอะ เพราะผมรักษามือขยับไม่ได้ คนนอกอาจไม่รู้ เพราะผมปิดบังมาโดยตลอด ก่อนผมมาชกวันนี้ ตั้งแต่ผลน้ำหนักออก ผมเจอดราม่าเยอะมาก ผมเต็มที่ ผมอยากชกมวยมาก แต่ผมมีอาการบาดเจ็บ พอเจอดราม่า ผมท้อมาก ผมรู้สึกกดดัน ถ้าแพ้วันนี้ผมจะยืนบนเวทีนี้ต่อไปได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่วันนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ขอขอบคุณทุกคนที่รักและชื่นชมผม”

‘เต้-มงคลกิตติ์’ ถูก ‘ป.ป.ช.’ เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมชุมนุม ชู 3 นิ้ว เมื่อปี 63 ชี้!! มีวัตถุประสงค์ล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มิ.ย.2567 ส่งถึง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ใจความระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหาท่านว่ากระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีได้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 - 20 ก.ย.2563 และได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว อันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

บัดนี้ คณะกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิด

ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 คณะกรรมการไต่สวนประสงค์จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ท่านทราบ เพื่อให้โอกาสท่านชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงขอให้ท่านไปพบคณะกรรมการไต่สวน ในวันที่ 18 มิ.ย.2567 เวลา 09.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากจะชี้แจงข้อกล่าวหาก็มีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานไปประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และนำทนายความ หรือบุคคลที่ท่านไว้วางใจไม่เกิน 3 คนเข้าฟังการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้

ผู้บริโภคโวยลั่น!! จอด ‘รถไฟฟ้า’ ตากฝนแค่ 20 นาที แบตเตอรี่พัง โชว์รูมแจง ‘ค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้านบาท’ เตรียมเดินหน้าร้อง ‘สคบ.’

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) ในเพจกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ มีเจ้าของรถรายหนึ่งร้องเรียนถึงรถไฟฟ้าจอดตากฝนแค่ 20 นาที ปรากฏว่าแบตเตอรี่พัง ค่าซ่อมล้านกว่าบาท

รายละเอียดในเพจที่เขียนไว้ว่า ขอแจ้งเตือนให้ข้อมูลเพื่อนำความปรารถนาดีต่อผู้บริโภคด้วยกันนะคะ แค่จอดรถหน้าบ้านขณะฝนตกสัก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคาค่าซ่อมเปลี่ยนแบตเตอรี่รวมอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา บอกมาเกือบ 1.1 ล้านเชียวนะคะ

ตอนนี้ยังจอดสนิทอยู่ที่โชว์รูมเป็นซากรถมาเกือบ 30 วันแล้วค่ะ ดิฉันยังไม่ได้รับการติดต่อหรือให้การบริการรถสำรอง เยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากโชว์รูม หรือจากประกันชั้นหนึ่งเลยค่ะ ความเสียหายอันแสนเป็นบทเรียนของการตัดสินใจซื้อรถยี่ห้อ ไร้คุณภาพและบริการคันนี้นะคะ ทำให้ตอนนี้คือแจ้งความกับ สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายและออกสื่อต่อไปคะ ทุกๆ ทางคะ

อย่างไรเรื่องนี้ ต้องรอ ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า BYD ออกมาชี้แจง แก้ไขปัญหาในเคสนี้

สำหรับรุ่นนี้ เป็นรถ BYD SEAL ราคาเริ่ม 1,325,000 -1,599.000 บาท 

เร่งฟื้นฟู ‘สถานีรถไฟสงขลา’ หลังปล่อยร้าง มานานกว่า 40 ปี เตรียมผลักดันให้เป็น โบราณสถานอันทรงคุณค่า เพื่อการท่องเที่ยว

เมื่อไม่นานมานี้ มีการขนย้ายหัวรถจักรและโบกี้ตู้สินค้าเพื่อติดตั้งบริเวณสถานีรถไฟสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ตามโครงการทำการฟื้นฟูร่างรถไฟบริเวณสถานีรถไฟสงขลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ชุมชนสถานีรถไฟ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอกจากนี้ยังเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเมืองสงขลา ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

ปัจจุบันรถไฟสายสงขลาแห่งนี้ ได้ถูกยกเลิกการใช้งานไปตั้งแต่ 1 ก.ค. 2521 โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ได้ถูกยกเลิก เนื่องจากเหตุผลว่า มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย รวมทั้งผู้คนใช้บริการน้อยลง หากรถไฟยังวิ่งอยู่อาจต้องขาดทุน เพราะเส้นทางหาดใหญ่-สงขลามีตัวเลือกทั้ง รถตู้โดยสาร รถส่วนตัว

ล่าสุดบรรยากาศที่สถานีรถไฟสงขลา ได้มีการนำขบวนรถไฟเก่ามาวางตั้งโชว์ รวมถึงหัวจักรในหลายขบวนมาตั้งโชว์ให้เป็นอนุสรณ์แหล่งการเรียนรู้ของชุมชน และไว้ให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปกัน บนชานชาลาและทางเข้าหน้าสถานีมีวางของขายนักท่องเที่ยวเดินตลาดแล้วถ่ายรูปกับหัวรถจักรคึกคักกันตั้งแต่เช้า บรรยากาศในช่วงเช้าเต็มไปด้วยความสวยงาม มีตลาดนัดวันอาทิตย์ทำให้ชาวบ้านที่มาเที่ยวจ่ายตลาด สามารถนั่งทานน้ำชากาแฟ โดยจิบกาแฟแลรถไฟไปในตัว

นอกจากนี้ก็ยังมีการอนุรักษ์บริเวณบ้านพัก และบริเวณล้อมรอบก็จะทำเป็นสวนสาธารณะ เพื่อการพักผ่อนและออกกำลังกายของคนในชุมชน สำหรับสถานีรถไฟสงขลานั้น เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในย่านเมืองเก่า ซึ่งในประเทศไทยมี 3 แห่งที่มีอายุเกิน 100 ปีได้แก่ สถานีรถไฟบางปะอิน สถานีรถไฟกันตัง และสถานีรถไฟสงขลา ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่า เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top