Thursday, 4 July 2024
World

3 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ไม่ได้ฟรีวีซ่า 60 วันจากทางการไทย หวั่น!! ทะลักไหลเข้ามาทำงาน แบบทัวร์ไทยในเกาหลี

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ครม. ได้เห็นชอบมาตรการ 'วีซ่าฟรี' 93 ประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกการตรวจลงตราเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยสามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน (ผ.60) เป็นมาตรการฝ่ายเดียวของไทย ซึ่งมีหลายประเทศ รวมทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียนให้รับสิทธิด้วย แต่จะยกเว้นก็แค่ ลาว, กัมพูชาและเมียนมา  

ทีนี้ถ้าให้ เอย่า ลองวิเคราะห์ถึงเหตุผลว่าทำไม 3 ประเทศนี้ จึงหลุดโผการได้ฟรีวีซ่าในครั้งนี้ คงไม่ได้มาจากประเด็นอำนาจการใช้จ่าย ที่หลายท่านอาจจะคิดว่า นักท่องเที่ยวจาก 3 ประเทศนี้ คงเข้ามาจริง ๆ ไม่มาก และจับจ่ายใช้สอยน้อยแน่ ๆ

เพราะจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า ในปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศทั้ง 3 ประเทศไม่น้อยเลย

จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2566 พบว่า...

- นักท่องเที่ยวจากลาว มาไทย ทั้งสิ้น 486,382 คน เฉลี่ยพักอาศัยในไทย 10.45 วัน มีการใช้จ่ายต่อคนต่อวันประมาณ 4,216.64 บาท 

- นักท่องเที่ยวกัมพูชา มาไทย ทั้งสิ้น 466,917 คน เฉลี่ยพักอาศัยในไทย 6.42 วัน มีการใช้จ่ายต่อคนต่อวันประมาณ 4,302.53 บาท 

- นักท่องเที่ยวชาวเมียนมา มาไทย ทั้งสิ้น 208,014 คน เฉลี่ยพักอาศัยในไทย 9.74 วัน มีการใช้จ่ายต่อหัวต่อวันตก 4,222.01 บาท

...และเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาไทยจำนวนน้อยสุดในปี 2566 คือนักท่องเที่ยวจากบรูไน และใช้จ่ายต่อหัวต่อวันแค่เพียง 1,885.56 บาท เท่านั้น

ฉะนั้นประเด็นนี้ จึงไม่น่าใช่!!

แต่เมื่อพิจารณาจากหลายๆ มุมแล้ว สิ่งที่ทำให้ทาง ครม.ไทย น่าจะนำมาพิจารณาจำกัดสิทธิให้ ลาว, กัมพูชาและเมียนมา เพราะคงกังวลว่าจะถูกใช้เป็นช่องทางในการเข้ามาหางานทำในประเทศไทย ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับทัวร์ไทยในประเทศเกาหลี

เพราะในเดือน เม.ย.67 ที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวในไทยที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานอยู่ที่ประมาณ 3.3 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสภาพการณ์ที่เห็นในปัจจุบันที่แรงงานต่างด้าวเข้าไปอยู่ในทุกจุดของประเทศ ตั้งแต่ตลาดสดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

‘Kirin Holdings’ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ช้อนสร้างความเค็มไฟฟ้า’ ชี้!! ช่วยลดการบริโภคเกลือ ด้วยการ ‘สร้างความรู้สึกเค็ม’ ขึ้นมาแทน 

(2 มิ.ย.67) บริษัทเครื่องดื่มสัญชาติญี่ปุ่น Kirin Holdings ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ‘ช้อนสร้างความเค็มไฟฟ้า’ ซึ่งนักวิจัยบอกว่า ‘ช้อนสร้างรสเกลือ’ นี้ จะช่วยลดการบริโภคเกลือด้วยการสร้างความรู้สึกเค็มขึ้นมาแทน และดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ช้อนดังกล่าว ผลิตจากพลาสติก และขึ้นรูปจากเหล็ก น้ำหนักรวม 60 กรัม ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีลิเธียมแบบชาร์จไฟซ้ำได้ เป็นการพัฒนาโดยศาสตราจารย์ ดร. Homei Miyashita แห่งมหาวิทยาลัย Meiji ซึ่งเคยพัฒนา ‘TV เลียชิมรส’ และ ‘ตะเกียบเติมเค็ม’ ตัวต้นแบบมาก่อน

‘ช้อนไฟฟ้า’ ชิ้นนี้ ได้รับรางวัล Ig Nobel 2023 สาขาโภชนาการเมื่อปีกลาย ซึ่งกำเนิดจากความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ออกมาจากช้อน เพื่อกระตุ้นโมเลกุลโซเดียมไอออนที่ปลายลิ้น ทำให้เกิดการรับรู้รสเค็มของอาหารมากขึ้น

Kirin Holdings ระบุว่า เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวญี่ปุ่นซึ่งนิยมรับประทานอาหารรสเค็ม

เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว ชาวญี่ปุ่นวัยผู้ใหญ่จะบริโภคเกลือราว 10 กรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงสองเท่า (5 กรัมต่อวัน) ซึ่งการรับประทานเกลือมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และอาการป่วยอื่นๆ ที่ต่อเนื่องกันยาวเป็นลูกโซ่ได้

ในเบื้องต้นนี้ Kirin Holdings จะผลิต ‘ช้อนสร้างรสเกลือ’ ออกขายทั้งหมด 200 อัน ในราคาอันละ 19,800 เยน หรือราว 4,500 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนนี้ และจะวางขายตลาดต่างประเทศในปีหน้า โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มยอดขายได้มากถึง 1 ล้านอัน ภายใน 5 ปีข้างหน้า

‘ศธ.จีน’ ขอความร่วมมือโรงเรียน กำหนดบทลงโทษ ‘การบูลลี่’ ชี้!! ควรมี ‘สายด่วน-อีเมล’ พร้อมรับเรื่อง ติดตั้งวงจรปิด ดูแลใกล้ชิด 

(2 มิ.ย.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนออกหนังสือเวียนขอความร่วมมือโรงเรียนในจีนให้กำหนดบทลงโทษสำหรับการกลั่นแกล้งรูปแบบต่างๆ ในสถานศึกษา และจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อจัดการกรณีการกลั่นแกล้งตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

หนังสือเวียนระบุว่าโรงเรียนควรตั้งสายด่วนสาธารณะ มีอีเมลสำหรับรายงานเหตุกลั่นแกล้ง ให้หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโรงเรียนที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดครอบคลุมสถานที่ที่ไม่เป็นเป้าสายตาทั้งหมด

เมื่อเดือนมีนาคม กระทรวงฯ ได้เริ่มโครงการรณรงค์ให้โรงเรียนจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยของนักเรียนและความสามารถในการปกป้องตนเอง

ในปี 2021 สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดของจีน ระบุว่าจำนวนการจับกุมและการตั้งข้อกล่าวหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งและความรุนแรงในโรงเรียนในจีนระหว่างปี 2017-2020 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

แผ่นดินไหว 5.9 แมกนิจูด เขย่าภาคกลาง ‘ญี่ปุ่น’  ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์’ ปลอดภัย ไม่มีเตือนภัยสึนามิ

(3 มิ.ย.67) กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 แมกนิจูดบริเวณคาบสมุทรโนโตะ จังหวัดอิชิคาวะทางตอนกลางฝั่งตะวันตกของประเทศ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (3 มิ.ย.) รายงานระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.31 น.ตามเวลาท้องถิ่น และความรุนแรงของแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับ 5 จากทั้งหมด 7 ระดับ ซึ่งระดับ 7 เป็นระดับรุนแรงที่สุด และตามมาด้วยแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 4.8 แมกนิจูด เมื่อเวลา 06.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ดีไม่มีการเตือนภัยสึนามิ และไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

บริษัทโตเกียว อิเล็กทริกพาวเวอร์คอมพานี หรือ เทปโก (TEPCO) กล่าวว่า ไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ ในจังหวัดนีงาตะ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

'ร่างทรง' ผู้รับหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ สิทธิความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ+ ที่ไม่ถูกค้านในเมียนมา

...และแล้ว Pride Month ก็เดินทางมาครบรอบอีกปี  ในขณะที่หลายประเทศมีความเปิดกว้างให้แก่กลุ่ม LGBTQ+ แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้ยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ สักเท่าไร   

การร่วมเพศของคนเพศเดียวกัน เป็นอาชญากรรมในกว่า 70 ประเทศ และเป็นโทษประหารชีวิตใน 9 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิหร่าน ประเทศซาอุดีอาระเบีย, ประเทศซูดาน และประเทศเยเมน  

ในขณะที่บางประเทศการมีเพศสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันต้องโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ถึงแม้ในบางประเทศจะไม่บังคับใช้กฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าวอย่างจริงจังเนื่องจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม แต่ในหลายประเทศที่แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายแล้ว แต่จารีตประเพณีของคนในประเทศเหล่านั้นก็ไม่ได้ยอมรับตัวตนของการเป็นกลุ่มชาว LGBTQ+ อยู่ดี

เมียนมาเป็น 1 ใน 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีกฎหมายเอาผิดผู้ที่มีเพศสัมพันธุ์กับคนเพศเดียวกันเช่นกัน โดยมีมาตรา 377 ของเมียนมาระบุว่า...

"การมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบผิดธรรมชาติเป็นการก่ออาชญากรรม และผู้ที่กระทำความผิดจะถูกลงโทษโดยการจำคุกไม่เกิน 10 ปี"

โดยกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคอาณานิคมเมื่อจักรวรรดิอังกฤษเข้าปกครองพม่าในยุคนั้น ศาลอังกฤษจำคุก ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนผู้โด่งดัง เพราะ มีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน มันถูกเรียกว่า 'ความรักที่ไม่กล้าเอ่ยนาม' และทำให้มีการนำกฎหมายนี้มาใช้ทั้งในอินเดียและพม่า ซึ่งตอนนั้นถูกผนวกเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดีย

นักสิทธิมนุษยชนชาวเมียนมาพยายามจะรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 377 โดยในปี 2001 กลุ่มผู้พลัดถิ่นแนวร่วมประชาธิปไตยนักเรียนพม่าได้ทำเรื่องขอให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าวแต่ก็ไม่มีผลอะไร

แม้กระทั่งในปี 2015 เมื่อพรรคสันนิบาตชาติประชาธิปไตยหรือ NLD ที่มีนางอองซานซูจีเป็นผู้นำชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีการเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านให้ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้และรณรงค์ให้คนในชาติยุติความชิงชังในกลุ่ม LGBTQ+ แต่ทว่ารัฐบาลของนางซูจีก็ไม่ได้สนใจคำขอและไม่ได้ปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เลย

ในปี 2020 เป็นจุดเปลี่ยนของกลุ่ม LGBTQ+ ทางการเมืองเมื่อพรรค People Pioneer Party (PPP) ซึ่งเป็นพรรคที่สมาชิกในพรรคแตกแยกออกจากพรรค NLD เดิมได้ส่งนักการเมืองเกย์คนแรกลงสมัครชิงเก้าอี้ในสภาในเมืองมัณฑะเลย์ โดยคาดหวังว่าจะเข้าไปปรับปรุงสิทธิทางกฎหมาย และการยกเลิกมาตรา 377 เพื่อประโยชน์ของชาว LGBTQ+ ในเมียนมา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพรรค PPP พลาดที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งในปี 2020

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ สังคมของเมียนมาเป็นสังคมปิด คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ยอมรับการมีอยู่ของกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมา และหลายครั้งก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นจากการบูลลี่ของคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวเอง อีกทั้งกลุ่มชายรักชายยังถูกห้ามไม่ให้บวชพระในเมียนมาเพราะถือว่าเป็นบัณเฑาะก์ โดยมีการตีความคำว่าบัณเฑาะก์จากคัมภีร์อรรถกถาได้ความว่า บัณเฑาะก์นั้นคือ...

• อาสิตตบัณเฑาะก์ คือ ชายที่อมอวัยวะเพศของชายอื่น
• อุสุยยบัณเฑาะก์ คือ ชายที่ชอบพอใจในการดูกิจกรรมร่วมเพศระหว่างชายกับชาย
• โอปักกมิยบัณเฑาะก์ คือ บุคคลที่ถูกตอน เช่น ขันที และรวมถึงบุคคลที่ผ่าตัดแปลงเพศในปัจจุบัน
• ปักขบัณเฑาะก์ คือเป็นบัณเฑาะก์ในช่วงข้างแรม (มีอารมณ์กำหนัดบางวัน) แต่ช่วงข้างขึ้นไม่เป็น
• นปุงสกัปบัณเฑาะก์ คือ ผู้มีความบกพร่องทางเพศสภาพ ไม่ปรากฏเพศที่แน่ชัด นับเป็นความบกพร่องทางร่างกายแต่กำเนิด

แม้ในประเทศไทยจะมีการตีความบัณเฑาะก์ว่า 'อาสิตตบัณเฑาะก์' และ 'อุสุยยบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ 'ปักขบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ในวันที่ไม่มีกำหนัด ส่วน 'โอปักกมิยบัณเฑาะก์' และ 'นปุงสกัปบัณเฑาะก์' นั้น ไม่สามารถบวชได้ ... แต่ในเมียนมานั้น ชาวเมียนมาจะไม่อนุญาตให้บัณเฑาะก์บวชเลย เพราะเกรงกลัวความเสื่อมเสียในพุทธศาสนาและความอับอายทางสังคมที่จะตามหาหลังจากเกิดเรื่อง

แม้กลุ่มชายรักชายจะถูกขัดขวางลิดรอนสิทธิในทางสังคมและการเมือง แต่ในทางความเชื่อเรื่องการทรงเจ้าจะพบว่า 'ร่างทรง' หรือ 'นัตกะด่อว์' ในเมียนมานับวันจะมีกลุ่มคนข้ามเพศมากขึ้น โดยในทุกปีจะมีเทศกาลทรงเจ้าของเมืองต่องปะโยง ในเมืองมัณฑะเลย์ โดยสมาชิกเกินกว่า 90% เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มหญิงข้ามเพศและกลุ่มเกย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนทรงเจ้า จนถูกขนามนามว่า 'เทศกาลชาวเกย์' เพราะคนเมียนมาเชื่อว่าร่างทรงที่เป็นกลุ่มเพศทางเลือกจะมีพลังสูงกว่าเพศหญิงหรือชาย เนื่องจากกลุ่มเพศทางเลือกไม่ใช่หญิงและชาย จึงทำให้ร่างทรงที่เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา 

นัตกะด่อว์ ถือว่าเป็นร่างทรงที่ได้รับการเคารพนับถือและยังสร้างความบันเทิง โดยทำหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ ภาพของนัตกะด่อว์ มักเป็นกะเทยหรือผู้หญิงข้ามเพศ เพราะคนพม่าเชื่อว่ามีพลังอำนาจมากกว่าคนปกติทั่วไป 

ตำแหน่งนัตกะด่อว์ เป็นตำแหน่งของอำนาจและศักดิ์ศรีที่ได้รับการยอมรับในสังคม ทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองของกลุ่มนัตกะด่อว์ 

ดังนั้นพื้นที่ของนัตกะด่อว์ จึงกลายเป็นพื้นที่ที่แสดงตัวตนของกลุ่ม LGBTQ ในเมียนมาที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับจากสังคม 

ในปัจจุบันกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมาถูกเปิดมากขึ้นตามสังคมที่เปลี่ยนไป แต่อย่างไรก็ดีหากมองข้ามกฎหมายที่ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้บังคับใช้เหล่ากลุ่ม LGBTQ+ ก็สามารถอาศัยและทำงานในเมียนมาอย่างปกติสุข

‘จีน’ ส่ง ‘ฉางเอ๋อ 6’ ยานอวกาศไร้ลูกเรือ ลงจอดบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ได้สำเร็จ ชี้!! นี่คือภารกิจครั้งสำคัญ เพื่อเก็บ ‘หิน-ดิน’ จาก ‘ซีกมืดของดวงจันทร์’ เป็นครั้งแรก

(3 มิ.ย.67) จีนนำยานอวกาศไร้ลูกเรือลงจอดบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ได้สำเร็จในวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.) ก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญในภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขา สำหรับเก็บตัวอย่างหินและดินจากซีกมืดของดวงจันทร์กลับมายังโลกเป็นครั้งแรก

การลงจอดครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับสถานะมหาอำนาจด้านอวกาศของจีนขึ้นไปอีกขั้น ในความพยายามของโลกในการมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ ในขณะที่ประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ หวังว่าการสำรวจแร่ต่างๆ บนดวงจันทร์จะสนับสนุนภารกิจของมนุษย์อวกาศในระยะยาวและจัดตั้งฐานบนดวงจันทร์ภายในทศวรรษหน้า

ยานฉางเอ๋อ 6 ของจีน ติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ และแท่นปล่อยตัวเองลงแตะพื้นในแอ่งขั้วใต้-เอตเคน (South Pole-Aitken Basin) ตอนเวลา 6.23 น.(ตามเวลาปักกิ่ง) จากข้อมูลของสำนักงานอวกาศแห่งชาติจีน

ภารกิจที่ประสบความสำเร็จนี้ถือเป็นภารกิจครั้งที่ 2 ของจีนในบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ ดินแดนที่ยังไม่มีประเทศอื่นๆ ไปถึง ด้านนี้ของดวงจันทร์หันหน้าหนีโลกอยู่ตลอด มันเต็มไปด้วยแอ่งลึกและมืดมิด ทำให้การสื่อสารและปฏิบัติการลงจอดหุ่นยนต์เจองานท้าทายกว่าเดิม

ยานสำรวจฉางเอ๋อ 6 ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศโดยจรวดลองมาร์ช 5 ของจีนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมเหวินฉาง บนเกาะไห่หนาน ทางใต้ของประเทศ มันเข้าบริเวณใกล้เคียงกับดวงจันทร์ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ก่อนกระชับวงโคจรเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เพื่อเตรียมการลงจอด

ฉางเอ๋อ 6 ถือเป็นยานอวกาศลำที่ 3 ของโลกที่ลงจอดบนดวงจันทร์ในปีนี้ เริ่มจากยานแลนเดอร์ SLIM ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ตามด้วยยานแลนเดอร์ของ Intuitive Machines บริษัทสตาร์ปอัปสัญชาติสหรัฐฯ ในเดือนต่อมา

จนถึงตอนนี้สหรัฐฯ ยังเป็นชาติเดียวของโลกที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบบนดาวจันทร์ในปี 1969

ด้วยการตักและขุดเจาะ ยานฉางเอ๋อ 6 จะมีเป้าหมายเก็บรวมรวบวัตถุดวงจันทร์น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ในระยะเวลา 2 วัน และนำมันกลับมายังโลก

ตัวอย่างเหล่านี้จะถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตัวบูทเตอร์จรวดที่อยู่ด้านบนสุดของยานแลนเดอร์ ที่จะถูกปล่อยกลับสู่อวกาศ และประกอบร่างเข้ากับยานอวกาศอีกลำในวงโคจรของดวงจันทร์ และเดินทางกลับโลก ทั้งนี้คาดหมายว่ามันจะกลับสู่โลก ลงจอดแถวๆ ภูมิภาคเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน ประมาณวันที่ 25 มิถุนายน

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ภารกิจนี้จะมอบร่องรอยสำคัญแก่จีน ในประวัติศาสตร์ 4,500 ปีของดาวจันทร์ และให้เงื่อนงำใหม่ๆ เกี่ยวกับรูปแบบระบบสุริยะ และเปิดทางสำหรับการเปรียบเทียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างด้านมืด ภูมิภาคที่ยังไม่เคยมีการสำรวจ กับด้านที่หันหน้ามายังโลกของดวงจันทร์

นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่จีนเริ่มภารกิจเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์ในปี 2020 โดยครั้งแรกยานฉางเอ๋อ-5 นำวัตถุหนัก 1.7 กิโลกรัมกลับมาจากพื้นที่ที่เรียกว่า มหาสมุทรแห่งพายุ (Oceanus Procellarum) ซึ่งอยู่บนด้านใกล้ของดวงจันทร์ซึ่งเผชิญหน้ากับโลกตลอดเวลา

จีนกำลังวางแผนภารกิจยานอวกาศไร้คนขับอีก 3 ภารกิจในทศวรรษนี้ เนื่องจากจีนกำลังค้นหาน้ำบนดวงจันทร์ และสืบเสาะการตั้งฐานถาวรที่นั่น

ยุทธศาสตร์ที่กว้างขวางของรัฐบาลจีน ตั้งเป้าที่จะเห็นนักบินอวกาศจีนเดินบนดวงจันทร์ภายในปี 2030 ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ตั้งเป้าจะนำนักบินอวกาศกลับไปเหยียบดวงจันทร์เช่นกัน โดยนาซาตั้งเป้าที่จะเปิดตัวภารกิจชื่อว่า อาร์เทมิส 3 (Artemis 3) ภายในปี 2026

'สิงคโปร์' ยกเลิกงานแสดง NewJeansNim ดีเจแต่งพระ เปิดเพลงแดนซ์กระจายกลางผับ

กลายเป็นประเด็นถกเถียงร้อนแรงในสิงคโปร์มานานนับสัปดาห์ เมื่อ DJ ชื่อดังจากแดนกิมจิ NewJeansNim มีกำหนดการที่จะเข้ามาเปิดการแสดงในผับดังของสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายนนี้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวพุทธในสิงคโปร์ ถึงความไม่เหมาะสมของการแสดงที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมชาวพุทธในสิงคโปร์ได้ 

NewJeansNim หรือ ยอน ซุง โฮ นักแสดงตลก เอ็นเตอร์เทนเนอร์ และ ดีเจ ชาวเกาหลีใต้ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากจากการแสดงสุดเฟี้ยว แบบไม่เกรงใจโอวาทปาติโมกข์ ด้วยการแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ในเกาหลีใต้ และยังได้ตัดต่อบทสวดมนต์เข้าจังหวะเพลงแดนซ์ ให้วัยรุ่นเต้นกระจายในผับ 
ด้วยกระแสความนิยม ทำให้เขาสามารถเปิดการแสดงในต่างประเทศได้ครั้งแรกที่ไต้หวัน และได้รับการ

ตอบรับอย่างล้นหลาม บัตรขายหมดจนต้องเพิ่มรอบ คลิปลีลาการเปิดเพลงเขย่ากุฏิของเขากลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว จึงเปิดการแสดงได้เรื่อยๆ ในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง มาเก๊า 

และล่าสุดกำลังจะมาที่สิงคโปร์ ในวันที่ 19-20 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ที่ Club Rich แถมยังหยอดอีกว่า ถ้าเสียงตอบรับดี ก็เพิ่มรอบได้

ร้อนถึงสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งสิงคโปร์ ออกมาโพตต์ข้อความผ่าน Facebook ต่อต้านการแสดงของ DJ NewJeansNim เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เป็นดีเจไม่ใช่พระ และการสมจีวรเพื่อการแสดงก็ขัดต่อพระวินัย ซึ่งระบุชัดเจนในพระธรรมวินัยของสงฆ์ 

ทางการสิงคโปร์ก็ได้รับเรื่องพิจารณา และประสานงานระหว่าง สมาพันธ์ชาวพุทธ และ ผับ Club Rich ที่ดีเจคนดังมีกำหนดมาแสดง และได้กำหนดให้  NewJeansNim จะทำการแสดงในสิงคโปร์ได้ต่อเมื่อไม่เอาบทสวดมนต์มาทำเป็นเพลงแดนซ์ เพื่อรักษาความเป็นระเบียบในสังคมชาวสิงคโปร์ไม่ให้เกิดประเด็นแตกแยก

และเป็นเงื่อนไขที่ NewJeansNim ไม่สามารถทำตามได้ เพราะนั่นคือจุดขายของเขาที่แฟนคลับคาดหวัง จึงทำให้การแสดงของ NewJeansNim ต้องถูกยกเลิกในสิงคโปร์ด้วยประการฉะนี้ 

แม้การแสดงลักษณะนี้ อาจดูแปลก และเป็นเรื่องต้องห้ามของประเทศชาวพุทธสายหินยาน แต่การแสดงของ NewJeansNim กลับได้รับการตอบรับอย่างดีในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่มีกลุ่มแฟนคลับหนาแน่น 

และยังได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากองค์กรพุทธศาสนา นิกายโชเก ซึ่งเป็นนิกายพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ โดยเห็นว่าการแสดงของ NewJeansNim ช่วยดึงดูดความสนใจของเด็กรุ่นใหม่ยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี และยังจัดงานสวดมนต์ใหญ่กลางสวนสาธารณะ ให้ NewJeansNim มานำสวดด้วยบทสวดทำนองเพลงตื๊ด ที่มีคนรุ่นปู่ย่ามาพนมมือสวดมนต์ตามจังหวะศรัทธาได้อย่างน่าพิศวง

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เปิดบัญชี TikTok มีผู้ติดตามทันทีกว่า 3 ล้าน คลิปแรกมีคนดูกว่า 56 ล้าน  เผย!! เปิดไว้ใช้สื่อสารกับชาวอเมริกัน ทั้งที่เมื่อก่อนนั้น เคยพยายามสั่งแบน แต่ไม่สำเร็จ

(3 มิ.ย.67) นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดตาม TikTokจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ทันทีที่เขาเปิดบัญชีใช้แพลตฟอร์ม TikTok แอปพลิเคชันสำหรับแชร์คลิปวิดีโอสั้นเป็นวันแรก พร้อมกับลงคลิปลงใน TikTok เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาในสหรัฐฯ โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 77 ปี เปิดใช้บัญชี TikTok ในชื่อว่า @realdonaldtrump และได้โพสต์คลิปวิดีโอสั้นคลิปแรกลงใน TikTok

เป็นภาพวิดีโอที่เขาพบปะกับเหล่าบรรดาผู้สนับสนุน ขณะไปชมรายการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานของยูเอฟซี ที่เมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งปรากฏว่า มีผู้รับชมคลิปดังกล่าวใน TikTok จำนวนมากกว่า 56 ล้านคน พร้อมกันนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหลังจากเปิดบัญชี TikTok ว่า ตนจะใช้เครื่องมือทุกประเภทที่มีอยู่ เพื่อสื่อสารโดยตรงกับชาวอเมริกัน สำหรับ ประวัติความสัมพันธ์ของนายทรัมป์ กับ TikTok นั้น ในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฐฯ เคยพยายามแบน TikTok เมื่อปี 2020 (พ.ศ. 2563) แต่ถูกศาลขัดขวาง จึงทำให้แบนไม่สำเร็จ

‘ญี่ปุ่น’ พบ ‘5 ค่ายรถชื่อดัง’ บิดเบือนผลทดสอบความปลอดภัย ลั่น!! การกระทำนี้เป็นบ่อนทำลายความไว้วางใจผู้ใช้บริการ

(4 มิ.ย. 67) กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ผลิตรถยนต์ 4 ราย และผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 1 ราย ของญี่ปุ่นยอมรับมีความผิดปกติในการทดสอบความปลอดภัย ส่งผลให้โตโยต้า มอเตอร์, มาสด้า มอเตอร์ และยามาฮ่า มอเตอร์ ต้องระงับชั่วคราวในการจัดส่งรถยนต์ทั้งหมด 6 รุ่น โดยระบุว่าอีก 2 บริษัทที่รายงานว่ามีปัญหาในเรื่องนี้ ได้แก่ ฮอนด้า มอเตอร์ และซูซูกิ มอเตอร์

เพื่อตอบสนองต่อปัญหาก่อนหน้านี้ที่ Daihatsu Motor และ Toyota Industries กระทรวงฯ ได้สั่งให้บริษัท 85 แห่งในอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และอุปกรณ์ ตรวจสอบว่ามีความผิดปกติใด ๆ ในการสมัครขอใบรับรองรุ่นของตนหรือไม่ ในแถลงการณ์ กระทรวงเรียกความผิดปกติดังกล่าวว่า “การกระทำที่บ่อนทำลายความไว้วางใจของผู้ใช้ และสั่นคลอนรากฐานของระบบการรับรองยานยนต์ ระดับชาติ

กระทรวงจะดำเนินการตรวจสอบสถานที่ของโตโยต้าในวันอังคาร การตรวจสอบของบริษัทอื่น ๆ อีก 4 แห่งจะตามมา

ตามรายงานของกระทรวงฯ โตโยต้า มาสด้า และยามาฮ่า ยืนยันว่า การบิดเบือนการทดสอบได้เกิดขึ้นในการผลิตรถยนต์ที่ยังคงดำเนินการอยู่ กระทรวงสั่งให้บริษัทเหล่านี้ระงับการจัดส่งรุ่นเฉพาะจนกว่าจะยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ

โตโยต้าประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ได้หยุดการจัดส่งและจำหน่ายในประเทศของโคโรลล่า ฟิลเดอร์, โคโรลลา แอ็กซิโอ และยาริส ครอส โดยกล่าวว่าการสมัครขอใบรับรองรุ่นเหล่านี้มี ‘ข้อมูลไม่เพียงพอในการทดสอบการป้องกันคนเดินเท้าและผู้โดยสาร’

อีกทั้งยังมีการกล่าวถึงรุ่นอื่น ๆ อีก 4 รุ่นที่ไม่ได้ผลิตอีกต่อไปในประกาศของ Toyota ได้แก่ Crown, Isis, Sienta และ RX ซึ่งพบ ‘ข้อผิดพลาดในการทดสอบการชนและวิธีการทดสอบอื่น ๆ’

คำแถลงดังกล่าวต่อไปว่า “เรารับประกันได้ว่าไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพที่ขัดต่อกฎหมายและข้อบังคับ” โตโยต้ากล่าวว่าได้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการภายในแล้ว และ “ไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ยานพาหนะที่ได้รับผลกระทบ”

“ผมอยากจะขอโทษอย่างจริงใจต่อลูกค้า ผู้ชื่นชอบรถยนต์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย” อากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์

ตามที่บริษัทระบุ บริษัทใช้ข้อมูลที่รวบรวมในกระบวนการพัฒนา ซึ่งบริษัทกล่าวว่าอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าข้อกำหนดของกระทรวง และเป็นผลให้ไม่ตรงกับข้อกำหนดอย่างถูกต้อง มีแผนที่จะส่งรายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อกระทรวงภายในสิ้นเดือนนี้

ความผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มบริษัท Hino Motors, Daihatsu Motor และ Toyota Industries รายงานปัญหาที่คล้ายกัน

“ผมมีความรู้สึกที่โชคร้ายมาก” ประธานกล่าว “โตโยต้า ไม่ใช่บริษัทที่สมบูรณ์แบบ เราทราบดีว่ายังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก” บริษัทกล่าวว่าได้เริ่มปรับปรุงกระบวนการทดสอบความปลอดภัยแล้ว

ไดฮัทสุ หน่วยรถยนต์ขนาดเล็กของโตโยต้า เปิดเผยการบิดเบือนผลการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างกว้างขวางในปี 2566 ส่งผลให้โรงงานทั้งหมดในญี่ปุ่นต้องปิดชั่วคราว Toyota Industries และ Hino ยังรายงานการประพฤติมิชอบเกี่ยวกับการรับรองเครื่องยนต์ในเดือนมกราคมและเดือนมีนาคม 2022 ตามลำดับ

ตามรายงานของกระทรวง มาสด้ารายงานความผิดปกติในรถยนต์ 5 รุ่น รวมถึง 2 รุ่นที่ยังคงอยู่ในการผลิต Yamaha Motor มีโมเดลสามรุ่นที่ค้นพบความผิดปกติ โดยรุ่นหนึ่งยังคงอยู่ในการผลิต

ฮอนด้ารายงาน 22 รุ่นและซูซูกิ 1 รุ่น ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ในการผลิตมาสด้ากล่าวว่าพบว่าการประมวลผลรถยนต์ทดสอบไม่สม่ำเสมอในการทดสอบการชนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ 3 รุ่นที่ไม่มีการผลิตอีกต่อไป บริษัทกล่าวว่าการตรวจสอบทางเทคนิคภายในและการทดสอบซ้ำ “ยืนยันว่าโมเดลเหล่านี้มีประสิทธิภาพที่ตรงตามมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับประสิทธิภาพการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชนกันทางด้านหน้า”

ฮอนด้า ยามาฮ่า และซูซูกิยังได้ออกแถลงการณ์เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะไม่มีปัญหากับสมรรถนะของรถ

‘X’ อนุญาตให้เผยแพร่คอนเทนต์ 18+ อย่างเป็นทางการ ภายใต้เงื่อนไขได้รับความยินยอม - มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า

(4 มิ.ย.67) สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ (X) ของอีลอน มัสก์ อัปเดตนโยบายใหม่เพื่ออนุญาตเผยแพร่เนื้อหาผู้ใหญ่ได้อย่างเป็นทางการ

โดยภายใต้นโยบายอัปเดตใหม่นี้ อดีตแพลตฟอร์ม X ที่เคยใช้ชื่อว่าทวิตเตอร์ จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศได้ ตราบใดที่เป็นเนื้อหาที่ได้รับการยินยอมและมี ‘เครื่องหมายถูกสีฟ้า’

นโยบายที่ได้รับการปรับปรุงและอัปเดตมามากกว่า 1 อาทิตย์นั้น ตอกย้ำว่า ผู้ใช้งานสามารถผลิต เผยแพร่ และบริโภคเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศได้ตราบใดที่เป็นเนื้อหาที่ผลิตและเผยแพร่ด้วยความยินยอม

"การแสดงออกทางเพศ ไม่ว่าด้วยภาพหรือการเขียนสามารถเป็นรูปแบบการแสดงออกที่ถูกกฎหมายได้” แพลตฟอร์ม ระบุ

“เราเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของผู้ใหญ่ ในการมีส่วนร่วมหรือสร้างเนื้อหาที่สะท้อนความเชื่อ, ความปรารถนา และประสบการณ์ของพวกเขา รวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ”

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาเหล่านี้จะระงับไม่ให้เผยแพร่แก่ผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก และผู้ใช้งานผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการรับชม อีกทั้งผู้ใช้งานจะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ได้รับการยินยอม เป็นที่คัดค้าน เนื้อหาทางเพศหรือเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อผู้เยาว์ และเนื้อหาที่แสดงพฤติกรรมลามกอนาจาร

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม X แตกต่างจากอินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก, ติ๊กต็อก และยูทูบ เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ระงับเนื้อหาที่มีภาพเปลือยหรือเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ และภายใต้การบริหารของมัสก์ ‘X’ ได้ปรับลดการกลั่นกรองเนื้อหา และคืนสถานะบัญชีที่เคยถูกระงับก่อนหน้านี้ รวมทั้งบัญชีของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ และอเล็กซ์ โจนส์ นักทฤษฎีสมคบคิด 

จากการดำเนินงานดังกล่าว มัสก์ โต้แย้งไว้ว่า เป็นการสนับสนุนเสรีภาพทางการพูด แต่นักวิจารณ์กล่าวโทษประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลาว่า เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพูดที่สร้างความเกลียดชัง และข้อมูลผิด ๆ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top