Monday, 1 July 2024
กระทรวงมหาดไทย

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับจัดการแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมฤดูฝน - มีน้ำใช้ฤดูแล้ง

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับ การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-มีน้ำใช้ฤดูแล้ง พร้อม มอบถุงยังชีพ ให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบาล จ.อยุธยา

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12  อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดชัยนาท ปี 2565 โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ

โดยนายนิพนธ์  ได้มอบนโยบายสำคัญหลังการรับทราบสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำจังหวัดชัยนาท ปี 2565  ดังนี้ 1. ขอให้มีการบริหารจัดการน้ำให้เหลือน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  2. การบริหารจัดการกรณีน้ำท่วมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นสำคัญ 3. ให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมกำลังพล เครื่องจักร และดูแลผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง 4. กรณีเกิดสาธารณภัยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจและรายงานให้จังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการของบกลางจากรัฐบาล 5. การเยียวยาช่วยเหลือต้องทำอย่างรวดเร็ว อย่าให้ล่าช้า โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมีงบประมาณรองรับอยู่แล้ว และ 6. ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น รมช.มหาดไทย ได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยให้บริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกทางตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ และหากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานราชการเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

'นิพนธ์' ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ขอแสดงสปิริตสู้คดี ไม่เอาตำแหน่งมากดดัน

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเรียบรางรถไฟ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีที่ป.ป.ช. ส่งฟ้องคดีไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ตามนัด

โดยเมื่อมาถึงนายนิพนธ์ แจ้งว่าในเช้าวันนี้ได้ แจ้งขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งแจ้งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเห็นว่าคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลจึงตั้งใจที่จะสู้คดี โดยไม่อยากให้มองว่านำตำแหน่งหน้าที่มาเกี่ยวข้องหรือกดดัน 

ทั้งนี้ในการแจ้งต่อพลเอกประยุทธ์ ก็ได้กล่าวชื่นชมต่อการตัดสินใจและให้กำลังใจ  

นายนิพนธ์ ยืนยันการตัดสินใจเรื่องรถอเนกประสงค์ ยึดผลประโยชน์ประเทศ และไม่เสียใจที่เคยตัดสินใจเช่นนั้น

‘ก้าวไกล’ จี้อนุพงษ์ - ปลัด มท. ชี้แจง หลังสตง. รายงาน ‘โคก หนอง นา โมเดล’ ล้มเหลว

‘จ่าตา’ อดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เปิดรายงาน สตง. ยืนยันชัด “โคก หนอง นา โมเดล” ล้มเหลว เสียเงินกู้ฟรี 4,700 ล้าน จี้อนุพงษ์-ปลัด มท. ชี้แจง

อดิศักดิ์ สมบัติคำ หรือ ‘จ่าตา’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล จ.มหาสารคาม ได้ออกมาเปิดรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รายงานผลการตรวจสอบโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคกหนอง นา โมเดล” ของกรมพัฒนาชุมชน ซึ่งจากรายงานพบว่าโครงการแทบไม่เดิน ทำจริงไม่ได้ ยังไม่เกิดผลทางปฏิบัติ 

‘จ่าตา’ อดิศักดิ์ กล่าวว่าตอนเริ่มโครงการภาครัฐโฆษณาด้านดีด้านเดียว โดยอ้างแต่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พอทำจริงข้างนอกสดใส ข้างในตะติ๊งโหน่ง ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้แล้วว่าโครงการทำจริงในทางปฏิบัติแทบไม่ได้ แต่รัฐบาลก็ยังดันทุรังทำ ผลคือโครงการล้มเหลวตามที่พรรคก้าวไกลอภิปรายไว้ทุกประการ

สตง. เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าโครงการมีปัญหา 3 เรื่อง ที่ทำให้โคก หนอง นาเป็นโครงการส่อล้มเหลว 

หนึ่ง โครงการล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ กรมพัฒนาชุมชนทำเสร็จเพียง 1 จาก 6 กิจกรรม ทำให้ต้องขอขยายเวลากว่า 2 รอบ ถึงจะปิดโครงการได้ 

สอง พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบทำไม่ได้จริง ส่วนใหญ่ยังทำไม่ได้ตามแบบ บางที่ยังสร้างไม่เสร็จ บางที่ยังไม่ได้เริ่มสร้าง ส่วนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่มีการจัดเตรียมความพร้อมด้านสื่อการเรียนรู้ วัสดุ อุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับการสาธิตและ ฝึกปฏิบัติประจำฐานเพื่อการเรียนรู้ 

สาม ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่าง ๆ ในวันที่ สตง. ลงไปตรวจสอบ ยังถูกใช้ไม่ครบ ซึ่งมีทั้งบางที่ยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์เลยแม้แต่รายการเดียว บางที่ใช้ไปแค่บางส่วน หรือก็คืองบอุปกรณ์ที่จัดซื้อลงไปถูกเอาไปวางทิ้งไว้เฉย ๆ

“ตามศูนย์อบรมที่โคก หนอง นา ให้เกษตรกร ยังแทบจะไม่มีการอบรมให้เกษตรกรเอาไปใช้จริงเลย”

'มหาดไทย' ถกด่วน!! ประกาศทำสงครามยาเสพติดเต็มรูปแบบ พร้อมสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขออาวุธปืนหากขาดคุณสมบัติ

(7 ต.ค. 65) ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืน โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ที่ประชุมได้แสดงความอาลัยโดยการยืนไว้ทุกข์เป็นเวลา 38 วินาที

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็กใน จ.หนองบัวลำภู ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 38 คน และผู้บาดเจ็บอย่างไม่เป็นทางการอีก 10 คน ถือเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก และขอแสดงความห่วงใยไปยังครอบครัวผู้สูญเสียและได้รับผลกระทบด้วย 

โดยสาระสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือการถอดบทเรียนเพื่อวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การสะเทือนขวัญดังกรณีเช่นนี้อีก ต้องทบทวนความเข้มข้นในการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด และคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนด้วย รวมทั้งหารือแนวทางการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย หรือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และขอชื่นชมความรอบคอบของคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของทางอบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่ได้มีการวางแผนบริหารความเสี่ยงโดยได้ทำประกันชีวิตให้แก่เด็ก และครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สูญเสียไม่มากก็น้อย 

ส่วนสิ่งที่ต้องคิดทบทวนต่อไป คือจะเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น เมื่อหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าที่ทำเต็มที่แล้ว เช่น ตรวจสอบความเสี่ยงจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ติดกล้องซีซีทีวี การจัดเวรยามคัดกรองบุคคลเข้ามาในสถานที่หรือความปลอดภัยอื่น ๆ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้สั่งการให้มีการกำหนดตัวชี้วัดหรือ KPIs แต่ละกระบวนการว่าจะทำอะไรบ้าง ภายในกรอบระยะเวลาเท่าไร เพราะทุกวัน เวลาวินาทีมีค่าในการป้องกันภัยสังคมเช่นนี้ ฝ่ายปกครองภายใต้การนำของผู้ว่าฯ และนายอำเภอ จึงจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการ โดยมีประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น ดังนี้...

'บิ๊กตู่' มอบ 'ตรีนุช' ดึงอาชีวะติดตั้ง 'ประตู-หน้าต่างนิรภัยศูนย์เด็กเล็ก' สังกัดสพฐ. และกระทรวงมหาดไทย ทั่วประเทศ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน ของ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการหามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุร้ายภายในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ 

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า กระทรวงศึกษาได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ติดตั้งระบบประตูป้องกันภัยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดและโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองบุคคลแปลกหน้าเข้า-ออกในพื้นที่ โดยให้ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคและอาชีวะ ในสังกัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประสานกับหน่วยการจัดการศึกษาปฐมวัยในจังหวัด สังกัด สพฐ. เทศบาล องค์กรบริหารส่วนจังหวัด องค์กรบริหารส่วนตำบล และเอกชน สำรวจความต้องการจัดตั้งระบบป้องกันภัย ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยให้สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง อาทิ ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างเมคคาทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า จัดทำและติดตั้งระบบป้องกันภัย 

'มหาดไทย' เจ๋ง!! รวบ 8.5 พันช่าง ร่วมแอปฯ 'เรียกช่าง' ตอบโจทย์งานเล็กน้อยเรื่องบ้านในราคาประหยัด

มท.1 คิกออฟเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' เตรียมช่างกว่า 8.5 พันราย อำนวยความสะดวก ปชช.ใช้บริการซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุงบ้านได้

(16 ม.ค. 66) ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดการใช้งานเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมบ้านเรือน โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมงาน

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชน ที่มีความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเป็นงานขนาดเล็ก และไม่สามารถที่จะหาช่างได้ หรือหากหาผู้รับจ้างมาซ่อมบ้านได้ก็อาจจะเป็นช่างที่ไม่มีคุณภาพ และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดทำเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' ในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเสริมสร้างความมั่นใจและการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในการ ค้นหาช่างให้ตรงกับความต้องการ และสามารถเรียกช่างมาให้บริการ

'บิ๊กตู่' เร่งแก้ปัญหา 'อาวุธปืน-ยาเสพติด' ย้ำ!! เอาจริง สั่งทุกฝ่ายเดินหน้าปราบปรามเข้มข้น

(17 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการหาแนวทางการป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนและยาเสพติด ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน และมีมาตรการดำเนินการ ดังนี้...

1.) การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือกับกรมสุขภาพจิต และโรงพยาบาลสมเด็จพระยาในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติดของผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน รวมทั้งศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 

เนื่องจากพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ไม่ได้ให้อำนาจนายทะเบียนท้องที่ออกคำสั่งให้ผู้ขออนุญาตดำเนินการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติด, ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัดหรือนายจ้าง โดยกำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบประวัติอาชญากร และการรับรองความประพฤติของผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกราย 

ทั้งนี้ การขออนุญาตให้ซื้ออาวุธหรือเครื่องกระสุนส่วนบุคคลให้มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนสำหรับการค้าให้มีอาวุธปืน (แบบ ป.3) และการขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ให้มีอาวุธปืนไว้เพื่อเก็บ ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนชั่วคราว (แบบ ป.4) โดยในกรณีที่เป็นข้าราชการจะต้องผ่านการรับรองจากผู้บังคับบัญชา หรือหากเป็นบุคคลทั่วไปจะต้องได้รับการรับรองจากเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งการออกใบรับรองให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหากปรากฏภายหลังพบว่ามีพฤติกรรมชวนสงสัยหรือถูกดำเนินคดีอาญา ต้องแจ้งให้ มท. ทราบเพื่อดำเนินการแจ้งนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการตามอำนาจต่อไป 

ปัจจุบัน มท. อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ในประเด็นการกำหนดอายุใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน, ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขออนุญาต กำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นคำขออนุญาต ทั้งก่อนและหลังการออกใบอนุญาตและซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่จะยื่นคำขอต่อนายทะเบียน ตามแบบ ป.3 หากเป็นการซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนในราชอาณาจักรให้ขออนุมัติผ่อนผันและรายงานให้ มท. ทราบทุกครั้ง 

ทั้งนี้ กรณีสนามยิงปืนจะอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืนได้เฉพาะสนามยิงปืน ที่จัดตั้งเป็นสมาคมกีฬาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และต้องแก้ไขชนิดและขนาดปืนที่ได้รับอนุญาตตามแบบ ป.4 เท่านั้น กรณีมีผู้ยื่นคำขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนชนิดหรือขนาดเดียวกันจำนวนมากผิดปกติ ให้เรียกอาวุธปืนและใบอนุญาตมาตรวจสอบเป็นราย ๆ ไป

หากพบว่ามีการแสดงข้อมูลเป็นเท็จโดยใช้ชื่อตนเอง เพื่อซื้ออาวุธปืนให้บุคคลอื่นให้เพิกถอนใบอนุญาตทันที, เพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว มีการกำชับแนวทางการอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวภายในเขตจังหวัด และแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) ได้ทันที หากพบว่าเป็นผู้ที่ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ หรือถูกเพิกถอนแบบ ป.4, และเชื่อมโยงฐานข้อมูล มท. ได้อนุมัติสิทธิให้ ตช. (ส่วนกลาง) สามารถเข้าระบบเพื่อตรวจดูข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนได้ และอยู่ระหว่างการหารือด้านเทคนิคการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน

2.) การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นในระบบกฎหมายกลาง โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

(1) หากบุคคลที่มีการครอบครองอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ในความควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
(2) กรณีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ให้ผู้ครอบครองส่งมอบให้อยู่ในการควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
และ (3) กำหนดให้มีการจัดเก็บอัตลักษณ์หัวกระสุนและปลอกกระสุนของอาวุธปืนทุกกระบอกโดยให้มีกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วย ทั้งนี้ อัตราการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล (แบบ ป.3) ระหว่างเดือนกรกฎาคม-15 ธันวาคม 2565 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

‘ปลัด มท.’ สั่งหน่วยงานบริการในสังกัดทุกจังหวัด เปิดให้บริการ ปชช. ช่วงหยุดยาว 28 ก.ค.-2 ส.ค.นี้

(27 ก.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมติดตามการขับเคลื่อนงานตามภารกิจกระทรวงมหาดไทยร่วมกับอธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ตนได้กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีที่ได้เห็นชอบให้วันที่ 31 ก.ค. เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมในห้วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.66 วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ทำให้ในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 2 ส.ค.นี้ เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง รวม 6 วัน

กระทรวงมหาดไทยคาดการณ์ว่าในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่องนี้ จะมีพี่น้องประชาชนมีความจำเป็นต้องเข้ารับบริการจากหน่วยงานบริการของกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนหน่วยงานราชการของแต่ละจังหวัด ตนจึงได้ขอความร่วมมือท่านผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ได้เป็นผู้นำข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการส่วนภูมิภาคที่มีหน้าที่ด้านการบริการพี่น้องประชาชน ให้ยึดมั่นในอุดมการณ์การบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน โดยร่วมกันวางแผนการเปิดให้บริการติดต่อราชการเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดยาว ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งสำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องเข้ารับบริการในวันหยุดราชการ ตลอดจนเน้นย้ำให้ผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าหน่วยงาน ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวง กรม และจังหวัด ได้จัดให้มีคณะทำงานทั้งระดับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดูแลประจำสถานที่ราชการและสำนักงานนอกเหนือจากการจัดเวรยามประจำตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนตลอดช่วงวันหยุดต่อเนื่องนี้

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าฯ ทั้ง 76 จังหวัด และปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งไปยังสำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขต สำนักทะเบียนท้องถิ่น และจุดบริการอำเภอยิ้มในเขตพื้นที่ ได้เปิดให้บริการด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน ระหว่างวันที่ 28 ก.ค. - 2 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. โดยสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครองในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้เปิดระบบปฏิบัติการให้บริการประชาชนทางด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว เพื่อให้การบริการด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในการติดต่อขอรับบริการด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่อง

พร้อมทั้งขอให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบในทุกช่องทางสื่อสารของจังหวัดและอำเภอ

‘มท.1’ เร่งหาแหล่งเงินเยียวยา ปชช.เหตุพลุระเบิดนราธิวาส ลั่น!! ภาครัฐจะดูแลให้ดีที่สุด พร้อมล่าตัวเจ้าของโกดังดำเนินคดี

(4 ส.ค. 66) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ตำบลบ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ว่า มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานที่จะดูแล โดยเฉพาะในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือเรื่องการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งมีปัญหาทั้งเรื่องความแออัด และปัญหาน้ำท่วม จึงจะใช้แนวทางการปฏิรูปที่ดิน เพื่อจัดรูปแบบใหม่

ซึ่งวันเดียวกันนี้ ได้เตรียมทางเลือกมารายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ก่อนจะนำไปให้ประชาชนพิจารณา รวมถึงจะมีการพิจารณาเรื่องแหล่งเงิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมและอยู่ดีกินดีขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าวงเงินที่ใช้ในการฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์นี้น้อยไป พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด จากแหล่งเงินหลายแห่ง หากดูตามประวัติศาสตร์ การจ่ายเงินเกินอำนาจเป็นไปไม่ได้ กฎหมายอนุญาตให้จ่ายได้เท่าไหร่ รัฐฯ พยายามทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของผู้เสียชีวิตกว่า 10 ราย

เมื่อถามต่อถึงการดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังที่หลบหนีไปต่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนเข้าใจ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะบุคคลที่ทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้น

‘มหาดไทย’ ออกระเบียบใหม่ วิธีจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 66 ชี้!! ผู้ที่ไม่มีสิทธิ แต่ได้รับเบี้ยไปก่อนหน้า ไม่ต้องเรียกเงินคืน

(13 ส.ค. 66) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับใหม่ หลักเกณฑ์จ่ายเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2566 ระบุหากผู้สูงอายุที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพด้วยความสุจริต ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระงับสิทธิ แต่ยกเว้นไม่ต้องเรียกเงินคืน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ลงนามโดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ระเบียบดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุง หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 69 และมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 5 และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 6 และมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกระเบียบไว้ ดังนี้

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566”

บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ประกาศ หรือมติอื่นใดซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป)

สาระสำคัญของระเบียบฉบับนี้
ข้อ 4 ในระเบียบนี้ ‘ผู้สูงอายุ’ หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ‘เบี้ยยังชีพ’ หมายความว่า เงินที่รัฐมอบให้แก่ผู้สูงอายุตามกฎหมายเพื่อใช้ในการยังชีพ

‘องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น’ หมายความว่า ‘เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา’ ‘ผู้บริหารท้องถิ่น’ หมายความว่า ‘นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล และนายกเมืองพัทยา’

หมวด 1 คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ

ข้อ 6 ผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(3) มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
(4) เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขณะที่ในหมวด 5 ข้อ 14 ระบุ สิทธิของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามระเบียบนี้สิ้นสุดลงในกรณี ดังต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 6
(3) แจ้งสละสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นหนังสือต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

กรณีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุดังกล่าวสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนสั่งระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับบุคคลดังกล่าว

ทั้งนี้ หากผู้สูงอายุที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยความสุจริต ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนรายงานผู้บริหารท้องถิ่นทราบ เพื่อระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุต่อไป โดยยกเว้นการเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน

นอกจากนี้ ในบทเฉพาะกาล ข้อ 17 ระบุว่า บรรดาผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ยังมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นต่อไป

การดำเนินการใดที่ดำเนินอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของระเบียบฉบับนี้ ให้ถือว่าการดำเนินการนั้น เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบนี้แล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top